เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

เทคโนโลยีเปลี่ยน "คน-องค์กร" "Gen Y-X" ไม่ยึดติด "เวลา-สถานที่"

ข่าววันที่ : 6 พ.ค. 2558


Share

tmp_20150605160600_1.jpg

วันที่ ปรับปรุง 6 พ.ค. 2558

          คนทำงานเจเนอเรชั่นเอ็กซ์ (GenerationX) และวาย (Generation Y) หรือมิลเลนเนียล (Millennial) ต้องการสไตล์การทำงานที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น จากรายงาน Cisco Connected World Technology Report (CCWTR) ประจำปี 2557 ระบุว่า ภายในปี 2563 คนทำงาน Gen X และ Y ส่วนใหญ่เชื่อว่าสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สวมใส่ (Wearable Device) จะกลายเป็นอุปกรณ์ "เชื่อมต่อ" ที่สำคัญที่สุด ขณะที่ "แล็ปทอป" เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับสถานที่ทำงาน

          รายงาน CCWTR แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เทคโนโลยีจะส่งผลต่อรูปแบบการทำงานในอนาคต อุปกรณ์ แอปพลิเคชั่น และโซลูชั่นที่คนเหล่านี้ชื่นชอบจะรองรับการทำงานในรูปแบบใหม่อย่างไรบ้าง รวมถึงการเกิดใหม่ของสุดยอดคนทำงาน (Supertasker) ซึ่งใช้อุปกรณ์ 4 เครื่อง และทัศนคติที่เปลี่ยนไปของคนทำงาน และองค์กรที่มีต่อการทำงานจากที่ใดก็ได้

          44% ของคนรุ่นมิลเลนเนียลรู้สึกมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการทำงานจากออฟฟิศ, การใช้แอปพลิเคชั่น (ผู้ตอบแบบสอบถาม 6 ใน 10 คนชอบใช้ปากกาและกระดาษมากกว่าโปรแกรมจดบันทึกยอดนิยม) และการรับสมัครบุคลากรทั่วโลก (50% ของผู้จัดการฝ่ายบุคคลจ้างคนทำงานจากการสัมภาษณ์ทางวิดีโอเท่านั้น)

          สำหรับในประเทศไทยคน Gen X, Gen Y และฝ่าย HR สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการทำงานของคนไทย รวมถึงผลกระทบจากเทคโนโลยีต่อการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานในปัจจุบันและอนาคต ผลกระทบของดีไวซ์ต่าง ๆ แอป และโซลูชั่นที่ใช้ต่อรูปแบบใหม่ในการทำงาน รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากอุปกรณ์อัจฉริยะ และการสร้างสรรค์แนวทางใหม่ ๆ

          ในการเชื่อมต่อของบุคลากรรุ่นใหม่กว่าครึ่งของ Gen X (95%) และ Gen Y(72%) ต้องการเป็นอิสระจากตารางเวลาทำงาน 9 โมงเช้า-5 โมงเย็น และกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม (54%) ระบุว่า บริษัทอนุญาตให้ทำงานจากบ้าน และ 44% ของบุคลากร Gen Xและ 56% ของ Gen Y ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งจากที่บ้านและออฟฟิศ อีกทั้ง 87% ของ Gen X เชื่อว่าองค์กรที่ปรับใช้รูปแบบการทำงานนอกสถานที่ผ่านอุปกรณ์พกพาอย่างยืดหยุ่น มีความได้เปรียบด้านการแข่งขันเหนือกว่าคู่แข่งที่ให้พนักงานทำงานในออฟฟิศ 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น

          ผลการสำรวจระบุด้วยว่า บุคลากรของไทยมองว่า "สมาร์ทโฟน" คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดกล่าวคือ 100% เลือกสมาร์ทโฟนเมื่อจำเป็นต้องเลือกเพียงอุปกรณ์เดียวสำหรับทำงานและใช้ชีวิตส่วนตัว สอดคล้องกับข้อมูลจากรายงาน CCWTR ซึ่งระบุว่า Gen X และ Gen Y

          เชื่อว่าสมาร์ทโฟนคือ อุปกรณ์เชื่อมต่อที่สำคัญที่สุดสำหรับบุคลากรในปี 2563

          รายงานดังกล่าวนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลกระทบที่อุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น อุปกรณ์สวมใส่ (Wearables) ที่มีผลต่อระบบไอทีและผู้กำหนดกลยุทธ์ด้านไอที โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมโยงทุกสิ่งเข้าด้วยกัน (Internet of Everything : IoE)ซึ่งจะสร้างการเชื่อมต่อรูปแบบใหม่ ทั้งเปลี่ยนแปลงการติดต่อสื่อสารสำหรับคนทำงานรุ่นอนาคต

          ปีก่อนหน้ารายงาน CCWTR แสดงถึงทัศนคติ ความคาดหวัง และพฤติกรรมของคนทำงานรุ่นอนาคตประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และปีนี้เพิ่มข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบุคลากร Gen X และฝ่ายบุคคล (HR) รวมถึงทัศนคติที่มีต่อความสามารถในการเชื่อมต่อ

          ความคิดเห็นเกี่ยวกับความพร้อมใช้งานของระบบสื่อสารที่ใช้ในการทำงาน(24ชั่วโมง7 วัน) รวมถึงประเด็นที่ว่าความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลอย่างไรต่อนโยบายด้านไอที การรักษาความปลอดภัยขององค์กร การพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ ความสามารถด้านการแข่งขันของธุรกิจ โดยสำรวจความคิดเห็นของบุคลากร อายุ 18-50 ปีใน 15 ประเทศ จัดหาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับปัญหาท้าทายในปัจจุบันที่บริษัทต่าง ๆ ต้องเผชิญ ในขณะที่พยายามรักษาสมดุลระหว่างความต้องการของพนักงานและองค์กรธุรกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคต

          พนักงานยุคใหม่

          "Supertasker" หรือ "พนักงานที่ทำงานได้หลายอย่างในเวลาเดียวกัน และทำได้ดี" เป็นพนักงานที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในอนาคตหรือไม่

          กว่า 4 ใน 10 ของคนทำงาน Gen X และ Gen Y รวมถึงเกือบ 6 ใน 10 ของพนักงานฝ่าย HR มองว่าตนเองเป็น "Supertasker"

          ราวครึ่งหนึ่งเชื่อว่า การทำงานแบบ Supertasking ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และในทำนองเดียวกันฝ่าย HR (62%) เชื่อว่า Supertasker ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับองค์กรโดยรวม เกือบ 2 ใน 3 เชื่อว่าในปี 2563 การทำงานแบบ Supertasking เป็นที่ต้องการมากที่สุดสำหรับองค์กร

          ส่วนใหญ่ระบุว่า ตนเองกำลังเรียนรู้ที่จะเป็น Supertasker ด้วยการจัดการชีวิตส่วนตัว และส่วนใหญ่มักผสมผสานกิจกรรมเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะใน Gen X (70%)

          Gen X เทียบ Gen Y

          4 ใน 10 คนเชื่อว่า พนักงาน Gen Y มีประสิทธิภาพในการทำงานแบบ Supertasking มากที่สุดเมื่อเทียบกับคนรุ่นอื่น ๆ

          60% ของ Gen X และ 81% ของฝ่าย HR เชื่อว่า พนักงาน Gen Y ทำงานได้รวดเร็วกว่าพนักงานรุ่นเก่า ด้วยการใช้อุปกรณ์พกพาและโมบายแอป ทั้งฝ่าย HR ราว 7 ใน 10 คน คิดว่าพนักงานรุ่น Gen Y ทำงานได้เร็วกว่า หากได้รับอนุญาตให้ใช้อุปกรณ์พกพาและโมบายแอปแทนเดสก์ทอป แล็ปทอป หรือโน้ตบุ๊ก

          อนาคตฝ่าย HR

          ฝ่าย HR เกือบ 6 ใน 10 (58%) เต็มใจว่าจ้างผู้สมัครโดยเพียงแค่สัมภาษณ์ผู้สมัครผ่านการประชุมด้วยวิดีโอ (โดยไม่ต้องดำเนินการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว) เมื่อสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับ ผู้จัดการฝ่ายบุคคล พนักงาน 50% เชื่อว่า ผู้จัดการฝ่ายบุคคลมีทัศนคติเปิดกว้างต่อการว่าจ้างพนักงาน โดยไม่ต้องมีการสัมภาษณ์เป็นการส่วนตัว พนักงานกว่าครึ่งหนึ่ง (Gen X-Y) คิดว่า ตนพร้อมทำงานทุกวัน 24 ชั่วโมง 3 ใน 10 คนติดต่อได้ทางอีเมล์และโทรศัพท์

          ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่คิดว่าเวลาทำงานน่าจะเป็น 7 โมงเช้าถึง 8 โมง และ 9 โมงถึงเที่ยง ต่อด้วยบ่าย 2 ถึง 5 โมงเย็น และ 3 ทุ่มถึง 4 ทุ่ม ตารางเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดย 1 ใน 4 ของพนักงาน Gen X Gen Y ระบุว่า องค์กรของตนอนุญาตให้ทำงานจากที่บ้านได้

          ที่น่าสนใจคือ พนักงาน Gen Y ที่มีโอกาสทำงานนอกสถานที่มีแนวโน้มที่จะชอบทำงานที่ออฟฟิศมากกว่าพนักงาน Gen X

         ข้าวกลางวันตอนบ่าย 3 เรื่องปกติ

          คน Gen X & Y ชอบตารางเวลาทำงานที่ยืดหยุ่น และยินดีทำงานนอกเวลาปกติเพื่อแลกเปลี่ยน โดยบุคลากรมีความเห็นแตกต่างกันอย่างครึ่ง ๆ ในเรื่องที่เกี่ยวกับวันทำงานปกติของพนักงานทั่วไป โดยเกือบครึ่งระบุว่าต้องการอิสระในการทำงาน และเล่นสนุกได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่มีข้อจำกัด (เทียบกับเวลาทำงานตามปกติ 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น จันทร์ถึงศุกร์)

          Gen X ส่วนใหญ่เชื่อว่า Gen Y ชื่นชอบ เวลาทำงานที่ยืดหยุ่นมากกว่า แต่ Gen Yมีแนวโน้มที่จะชอบเวลาทำงานปกติแบบเดิมมากกว่า (54%)

          บุคลากร 1 ใน 4 ได้รับการว่าจ้างโดยองค์กรที่อนุญาตให้ทำงานจากที่บ้าน โดยมีเพียง 28% ของ Gen Y, 19% ของ Gen X และ 6% ของพนักงานฝ่าย HR เท่านั้นที่ชอบทำงานในออฟฟิศมากกว่าที่บ้าน

          Gen Y ส่วนใหญ่ (44%) ระบุว่า ตนเองมีสมาธิและประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อทำงานในออฟฟิศ ขณะที่ Gen X (38%) ระบุว่า ตนเองมีสมาธิและประสิทธิภาพเท่ากันทั้งที่บ้านและในออฟฟิศ

          ความยืดหยุ่นเป็นแม่เหล็ก

          "ความยืดหยุ่นในเวลาการทำงาน" คือ เครื่องมือดึงดูดบุคลากร 2 ใน 3 เชื่อว่าองค์กรที่ปรับใช้รูปแบบการทำงานนอกสถานที่ที่ยืดหยุ่น มีความได้เปรียบด้านการแข่งขันมากกว่าองค์กรที่กำหนดให้พนักงานประจำอยู่ในออฟฟิศตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์

          ครึ่งหนึ่งของ Gen X และ Y รู้สึกว่าฝ่ายทรัพยากรบุคคลกำลังปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับสไตล์การทำงานแบบโมบายที่ยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับพนักงานแต่เกือบ1ใน 3 รู้สึกว่าการปรับเปลี่ยนยังไม่เร็วพอ

          มุมมองของฝ่าย HR 56% ระบุว่าได้ปรับใช้หรือมีแผนปรับใช้สไตล์การทำงานแบบโมบายยืดหยุ่นมากขึ้น

          โดยรวมแล้วพนักงานไม่เต็มใจที่จะยอมลดเงินเดือนเพื่อแลกกับการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้นแต่พนักงานฝ่ายHRเต็มใจทำเรื่องนี้มากที่สุด โดย 4 ใน 10 ระบุว่าตนเองยอมรับการปรับลดเงินเดือน ในทำนองเดียวกัน ฝ่าย HR เต็มใจที่จะยอมรับการลดเงินเดือนมากที่สุด โดย 56% ยอมปรับลดเงินเดือนมากกว่า 10% (เทียบกับ 35% ของ Gen Y และ 34% ของ Gen X)

          แม้เงินเดือนเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่ความยืดหยุ่นในการกำหนดตารางเวลาของตนเอง หรือความสามารถในการทำงานนอกสถานที่มีความสำคัญมากที่สุดสำหรับ Gen X และ Gen Y ราว 1 ใน 5 คน รวมถึงฝ่าย HR ราว 1 ใน 3 คน


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : เว็บไซต์มติชนออนไลน์