เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

เฮงเค็ล เผย 5 เทคนิคสำหรับนักบริหาร กับภาวะผู้นำแบบทางไกลในยุค New Normal

ข่าววันที่ : 29 ก.ค. 2563


Share

tmp_20200408153909_1.jpg

วันที่ ปรับปรุง 4 ส.ค. 2563

           จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้เกิดข้อจำกัดในการเดินทางออกนอกบ้าน และต้องจำกัดบริเวณสถานที่ทำงาน การทำงานจากที่บ้าน (Work From Home: WFH) จึงกลายมาเป็นทางเลือกที่จำเป็นของคนทำงานส่วนใหญ่ทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย

           นายแอนเดรียนโต้ จายาเปอร์นา ประธานบริษัท เฮงเค็ล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การทำงานที่บ้านนำมาซึ่งข้อดีและความท้าทาย ในขณะที่บางคนอาจชอบใจไปกับการประหยัดเวลาเดินทาง ความยืดหยุ่นคล่องตัว และมีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น อีกหลายคนอาจจะยุ่งยากกับการเชื่อมต่อไอทีที่ด้อยประสิทธิภาพ ไม่มีสมาธิ และรู้สึกโดดเดี่ยว การทำความเข้าใจว่าการทำงานที่บ้าน มีผลกระทบต่อพนักงานในลักษณะที่แตกต่างกันไป เป็นสิ่งสำคัญที่นักบริหารจะต้องยอมรับในฐานะที่เป็นผู้นำ ที่ไม่ใช่เพียงแค่การนำระบบดิจิทัลและความยืดหยุ่นมาใช้ แต่สำคัญกว่านั้น คือการเห็นอกเห็นใจ การทำงานร่วมกันและเสริมสร้างศักยภาพ

           นายแอนเดรียนโต้ กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เฮงเค็ล สร้างสถานที่ทำงานให้เป็นแบบดิจิทัลและสิ่งที่ทำไปได้พิสูจน์แล้วว่า ส่งผลดีเป็นอย่างมากในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 ยกตัวอย่างเช่น ในบริษัท เฮงเค็ล (ประเทศไทย) พนักงานสามารถทำงานจากระยะไกลได้ โดยสามารถติดต่องานกับเพื่อนร่วมทีม เข้าร่วมการประชุมและฝึกอบรมทางออนไลน์ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังพยายามทำให้พนักงานทุกคนมีทัศนคติเชิงบวกและส่งเสริมให้ทุกคนฝึกฝนพัฒนาตนเองผ่านแพลตฟอร์มการเรียนรู้ทางดิจิทัลที่บริษัทฯ จัดทำขึ้น  ทั้งในธุรกิจเทคโนโลยีกาวและธุรกิจบิวตี้แคร์นั้น เฮงเค็ล ก็ได้เข้าไปมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันกับลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจและผู้บริโภค โดยใช้เครื่องมือดิจิทัลและช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อให้การสนับสนุนเชิงเทคนิคและดำเนินการเรียนการสอนผ่านทางออนไลน์

           จากประสบการณ์ของ เฮงเค็ล ทั่วโลก จึงมีเทคนิค 5 ข้อ สำหรับผู้บริหาร เพื่อเป็นข้อคิดในการนำทีมทำงาน ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ที่ยังไม่จบลง ดังต่อไปนี้


1. สร้างความสัมพันธ์ในระดับบุคคล

           นี่เป็นสถานการณ์พิเศษสำหรับพนักงานทุกคน ให้ตระหนักรู้ว่าสุขภาพส่วนตัวของพนักงานและครอบครัวต้องมาก่อน พยายามฟังและทำความเข้าใจว่าพวกเขารู้สึกอย่างไรบ้าง อะไรเป็นเรื่องท้าทายสำหรับพวกเขา ไถ่ถามว่าต้องการให้คุณช่วยอะไรบ้าง อย่ากดดันสมาชิกในทีมถ้าหากว่าพวกเขากำลังพยายามทำงานให้กับคุณอยู่ พยายามใช้การคุยผ่านทางวิดีโอให้บ่อยขึ้นเพื่อทดแทนความรู้สึกว่าต้องทำงานกันในระยะไกลและเพื่อสร้างให้เกิดความรู้สึกมีส่วนร่วมและเสริมสร้างความสัมพันธ์ในระดับบุคคล

 

2. ให้คำแนะนำและเสริมพลังให้กับทีมงาน

           กำหนดเป้าหมาย สื่อสารความคาดหวังและมอบอำนาจให้ทีมของคุณทำงานให้สำเร็จ บอกให้ชัดเจนและลำดับความสำคัญของงานทั้งในระยะสั้น (เป็นรายวัน และรายสัปดาห์) และในระยะยาว (รายเดือนและไตรมาส) จัดเวลาให้มีการพูดคุย ปรึกษาหารือ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและให้ความช่วยเหลือสมาชิกในทีม และเพื่อติดตามความคืบหน้าของการทำงาน เพื่อไปสู่เป้าหมายเดียวกัน ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเครื่องมือดิจิทัลต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน กระตุ้นให้สมาชิกในทีมกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับทักษะความสามารถของตนเอง

 

3. มีความยืดหยุ่น

           แสดงการสนับสนุนโดยการยอมรับว่าชั่วโมงการทำงานอาจแตกต่างกันไปในหมู่สมาชิกในทีม เนื่องจากเหตุผลที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่นผู้ปกครองอาจต้องดูแลลูก ๆ ในระหว่างวันและดังนั้นจึงสะดวกทำงานในช่วงเย็นมากกว่าในช่วงเวลาทำการปกติ

 

4. สร้างและรักษาความไว้เนื้อเชื่อใจ

           นี่เป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการทำงานร่วมกันให้ประสบความสำเร็จไม่ว่าคุณจะเข้าไปทำงานที่ออฟฟิศหรือไม่ก็ตาม เมื่อนำทีมจากระยะไกล ให้รู้จักสื่อสารกันมากขึ้นและแสดงให้เห็นว่าคุณอยู่ที่นั่น เมื่อทีมของคุณขอคำติชม จงทำให้พวกเขารู้ว่าคุณได้รับทราบสิ่งที่พวกเขาร้องขอแล้วและบอกด้วยว่าจะสามารถตอบกลับได้เมื่อใด นี่จะช่วยให้ทีมงานสามารถคาดหวังคำตอบได้ ทำให้รู้สึกปลอดภัยและมั่นใจว่าคุณรับรู้รับทราบในสิ่งที่พวกเขาต้องการแล้ว

 

5. อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป

           จะมีหลายวันที่คุณอาจจะรู้สึกไม่ค่อยดีนัก หรือต้องดูแลคนในครอบครัว หรือมีสถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกกระอักกระอ่วนและไม่สามารถจัดการได้ ก็ไม่เป็นไร จงแสดงให้ทีมของคุณเห็นว่าคุณก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งซึ่งบางครั้งก็ประสบกับปัญหาบ้างเหมือนกัน ให้โอกาสตัวเองได้พักและเติมพลังบ้าง เพื่อจะได้มีแรงกลับมาสู้งานต่อไป

           ในขณะที่วิกฤตทำให้เกิดความท้าทายในหลายๆด้าน แต่ความเป็นผู้นำที่เข้มแข็งก็เป็นรากฐานของวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะต้องมีการส่งเสริมให้พนักงานเกิดความเชื่อมั่น ส่งเสริมด้านนวัตกรรมและรู้จักมอบอำนาจการตัดสินใจให้พนักงาน วัฒนธรรมองค์กรเช่นส่งเสริมความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง มีความมุ่งมั่น พร้อมทั้งการให้คำแนะนำที่ชัดเจนจะช่วยให้ทุกคนสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ และนำพาองค์กรให้รอดไปด้วยกันอย่างแน่นอน นายแอนเดรียนโต้ กล่าว

 

ที่มา  :  แนวหน้า  29 กรกฎาคม 2563