กระทั่งอาจกล่าวได้ว่า แวดวงการบริหารจัดการนี้แหละ ที่เป็นหัวขบวนต้นๆ สร้างกระแสความนิยมการจัดอันดับ ให้เฟื่องฟูแพร่หลาย
เมื่อปี ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) มีคนกลุ่มหนึ่งที่รวมตัวกันแล้วนำเสนอสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า Thinkers50 เพื่อนำเสนอ รายชื่อและการจัดอันดับนักคิดด้านการบริหารจัดการและ ด้านภาวะผู้นำชั้นนำ 50 คนของโลก โดยจะมีการจัดอันดับเช่นนี้ ทุกๆ 2 ปี
Thinkers50 เกิดจากการรวมตัวกันของบุคคล 2 คน คือ Stuart Crainer และ Des Dearlove ทั้งคู่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแนวคิดการบริหารจัดการชาวอังกฤษ มีผลงานทั้งด้านการเขียนมากมายและการบรรยายในหลักสูตรด้านการบริหารจัดการ และการพัฒนาภาวะผู้นำในมหาวิทยาลัยชั้นนำ
Stuart Crainer ได้ให้สัมภาษณ์ไว้อย่างน่าสนใจว่า เขากับ Des Dearlove ปิ๊งไอเดียเรื่องการจัดอันดับสุดยอดนักคิด ด้านการบริหารจัดการ 50 คนของโลก ระหว่างที่พวกเขากินพิซซาด้วยกันเมื่อปี ค.ศ. 2000
"โดยพื้นฐานแล้ว เราเชื่อว่าความคิด (Ideas) มีพลานุภาพ ที่จะเปลี่ยนโลก นั่นคือสิ่งที่ดลบันดาลใจเราให้สร้างสรรค์ Thinkers50 ขึ้นมา"
คำสัมภาษณ์ข้อนี้ตรงกับสิ่งที่ปรากฎเป็นข้อความเชิงพันธกิจ (Mission) ที่พวกเขาบรรจุไว้ในหน้าจอเว๊บไวต์ของพวกเขา (ดูใน http://thinkers50.com/about/)
พันธกิจของ Thinkers50 ตั้งอยู่บนแก่นความเชื่อ 3 ประการ ได้แก่
- ความคิด (Ideas) มีพลานุภาพที่จะเปลี่ยนโลก (Ideas have the power to change the world)
- การบริหารจัดการเป็นสิ่งสำคัญต่อกิจการต่างๆ ของมนุษย์ (Management is essential to human affairs)
- ความคิดใหม่ๆสามารถสร้างสรรค์อนาคตที่ดีขึ้นได้ (New thinking can create a better future)
"เมื่อมัน (การจัดอันดับ 50 นักคิด) ถูกนำเสนอออกมา เมื่อปี 2001 นั่นถือเป็นการจัดอันดับนักคิดด้านการบริหารจัดการระดับโลกเป็นครั้งแรกเท่าที่มีมา แม้ต่อมาจะมีการเลียนแบบ การจัดอันดับแบบนี้อยู่บ้าง แต่ของเราเป็นที่รู้กันว่าดีที่สุด..."
เมื่อเคลมกันถึงขนาดนี้ว่า เป็นการจัดอันดับนักคิดด้าน การบริหารจัดการที่ดีที่สุดในโลก เราคงต้องมาดูว่าเขาใช้เกณฑ์ การประเมินอะไรในการจัดอันดับ
Stuart Crainer พูดถึงเรื่องนี้ไว้ ในบทสัมภาษณ์ว่า มีเกณฑ์วัดทั้งหมด 10 ตัว แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มตัวชี้วัดแรก เป็นการวัดผลงานที่นักคิดเหล่านั้น แสดงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มี 5 ตัวชี้วัดได้แก่ 1. ความสอดคล้องของแนวความคิด (Relevance of ideas) 2. ความหนักแน่น ของการวิจัย (Rigor of research) 3. การนำเสนอแนวความคิด (Presentation of ideas) 4. ความสามารถในการเข้าถึง และความแพร่หลายของแนวความคิด (Accessibility/ Dissemination of ideas) 5. ทัศนียภาพในระดับสากล (International outlook)
กลุ่มตัวชี้วัดที่สอง เป็นการประเมินผลงานที่นักคิดเหล่านั้นแสดงในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา มี 5 ตัวชี้วัดได้แก่ 1. ความเป็น ต้นตำรับทางความคิด (Originality of ideas) 2. ผลกระทบ ทางความคิด (Impact of ideas) 3. การเอาไปใช้ในทางปฏิบัติได้ของแนวความคิด (Practicality of ideas) 4. การมีเซนส์ทางธุรกิจ (Business sense) 5. มีพลังในการสร้างแรงบันดาลใจ (Power to inspire)
ที่ผมยกเอารายละเอียดของ Thinkers50 มากล่าวข้างต้น ทั้งหมดนั้น ก็เพื่อที่จะเชื่อมโยงมาสู่บุคคลสำคัญของเราในที่นี้ ก็คือ ท่าน "ปีเตอร์ เซ็งเก้" มีตำแหน่งอยู่ ในนักคิดด้านการบริหารจัดการสำคัญของโลก 50 คนแรกหรือไม่?
เขียนมาถึงขนาดนี้ ก็คงไม่ต้องเดาอะไรกันมากว่า ท่านเซ็งเก้มีตำแหน่งแห่งที่อยู่ในการจัดอันดับนักคิดด้านการบริหารจัดการสำคัญของโลก 50 คนแรกแน่นอน เพียงแต่ว่าอยู่ตรงจุดไหน?
ผมจะกลับมาเฉลยในบทความฉบับหน้าครับ
"เราเชื่อว่าความคิด (Ideas) มีพลานุภาพที่จะเปลี่ยนโลก นั่นคือ สิ่งที่ดลบันดาลใจเราให้สร้างสรรค์ Thinkers50"
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 17 มีนาคม 2559 หน้า 20
eclipping_20142212165441_1.tif: ขนาด 359.81 KB