จารุนันท์ อิทธิอาวัชกุล
มะเร็งเป็นกลุ่มของโรคที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติ ก่อเป็น เนื้อร้าย และมีศักยภาพในการรุกรานร่างกาย สามารถคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก องค์กรก็เช่นกันหากมีเนื้อร้าย แม้จะเป็นจุดเล็กๆ ในองค์กร แต่ถ้าปล่อยไว้ ก็อาจทำให้ก่อตัวลุกลามเป็นวงกว้างได้ แล้วเมื่อองค์กรเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย องค์กรก็จะล้มหายตายจากไปในที่สุด
ร่างกายและองค์กรจะรอดจากโรคมะเร็งได้ก็ต่อเมื่อ เราหมั่นสังเกตสัญญาณบอกเหตุ รู้เท่าทันอาการบ่งชี้ของมะเร็ง และได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี ก่อนที่จะสายเกินไป
อาการ มะเร็งในระยะแรกจะไม่แสดงอาการอย่างชัดเจน จะเผยตัวก็ต่อเมื่อก้อนเนื้อนั้นมีการเติบโต หรือเกิดเป็นแผลต่อเนื่อง มะเร็งในองค์กรก็จะซ่อนตัวอยู่ในการบริหารงาน บริหารคน เมื่อแพร่กระจายมากขึ้น อาการก็จะกำเริบ และสำแดงออกมาในรูปแบบของ การจัดการที่มีความผิดพลาดสูง ทำให้ต้นทุนหายกำไรสูญ และพนักงานถอดใจ ทำงาน ไร้เป้าหมาย หรืออาจถึงขั้นไม่ให้ความร่วมมือ
สาเหตุ เกิดจากวิถีการดำเนินชีวิตที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่อาจมีสารก่อมะเร็ง การไม่ออกกำลังกาย จนเป็นโรคอ้วน และความเครียด เป็นต้น นอกจากนี้ก็มีสาเหตุมาจากถ่ายทอดทางพันธุกรรมด้วย
เช่นเดียวกับมะเร็งในองค์กรเกิดจาก วิถีการดำเนินธุรกิจ มีการนำระบบบริหารงาน ที่ไม่มีประสิทธิภาพมาใช้ ปล่อยให้องค์กรอุ้ยอ้าย ขาดความคล่องตัว คนล้นงาน ผู้บริหารขาดภาวะผู้นำ สั่งลูกน้องทำงาน แต่ไม่ได้ บริหารงานให้มีประสิทธิผล ต่างฝ่ายต่างสร้างทัศนคติเชิงลบในการทำงาน ก่อให้เกิดเป็นมะเร็งในอารมณ์ขึ้นทีละน้อย แยกย่อยไปตามกลุ่มงาน ฝ่ายงาน สายงาน จนค่อยๆ พัฒนา เป็นปัญหาใหญ่ขององค์กร
นอกจากนี้ยังเกิดจากวัฒนธรรมองค์กร ที่ไม่สร้างสรรค์ เช่น วัฒนธรรมที่เอาดีเข้าตัว เอาชั่วใส่ผู้อื่น การกล่าวโทษกันไปมา นั้นได้ถูกถ่ายทอดพันธุกรรมกันมารุ่นต่อรุ่น ก่อให้เกิดเนื้อร้ายที่เป็นพิษภัยต่อการเติบโตก้าวหน้าขององค์กร
การรักษาและป้องกัน
1. หมั่นสังเกตอาการบ่งชี้ความผิดปกติ เช่น ลูกค้าเก่าไหลออก ลูกค้าใหม่หายากขึ้น รายได้ลดลง มีอัตราการลาออกสูง ข้อร้องเรียนจากลูกค้าเพิ่มขึ้น การผลิตมีของเสีย จำนวนมากขึ้น พนักงานเกี่ยงงานกัน มะเร็งอาจจะรักษาให้หายขาดได้ หากพบเชื้อมะเร็งและทำการรักษาแต่เนิ่นๆ เช่นเดียวกัน หากองค์กรเห็นข้อบ่งชี้เหล่านั้น ลงไปสำรวจ ความคิดเห็นของพนักงาน หาจุดที่เป็นเหตุของปัญหาในการทำงาน และรีบเข้าไปบำบัดรักษาก่อนจะเป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายก็อาจหายขาดได้
2. ปรับสมดุลชีวิต บริหารธุรกิจให้เหมาะสม ร่างกายเราต้องมีสุขภาวะที่ดีอย่างน้อย 4 ด้าน ได้แก่ อาหาร อากาศ การออกกำลังกาย และอารมณ์ที่ดี การดำเนินธุรกิจองค์กรก็เช่นกัน ต้องรักษาสุขภาวะที่ดี 4 ด้าน คือ ด้านการบริหารเงิน ต้องใส่ใจเรื่องต้นทุน ไม่มีองค์กรใดที่ตายกับการดูแลเรื่องต้นทุน ด้านการบริการลูกค้า ต้องให้ความสำคัญในการตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าอย่างตรงจุด ด้านกระบวนการ ต้องพัฒนาให้มีกระบวนการที่ง่าย รวดเร็ว และยืดหยุ่น และด้านพนักงาน ต้องดูแลในการสร้างความผูกพันและการบริหารความแตกต่างของแต่ละช่วงวัยให้พนักงานสามารถร่วมงานกันได้อย่างลงตัว
3. ต้องให้เคมีบำบัด ฉายรังสี หรือผ่าตัด ในกรณีที่เนื้องอกนั้นกลายเป็นเนื้อมะเร็งร้าย เปรียบได้กับการที่องค์กรมีระบบงานที่ล้าสมัยไม่เคยปรับปรุงแก้ไข จนเป็นปัญหาเรื้อรัง ก็ต้องบำบัดรักษา หากมีผู้บริหาร พนักงานที่ไม่สามารถพัฒนาทัศนคติ ความรู้และทักษะ ก็อาจต้องผ่าตัดใหม่
4. สร้างภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง ภูมิคุ้มกันขององค์กรคือ การส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่สร้างสรรค์ เช่น การมุ่งเน้นลูกค้า การเรียนรู้และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง โดยปลูกฝังให้เกิดความเข้าใจ นำไปปฏิบัติสืบทอดต่อๆ กันไป เพื่อเป็นภูมิคุ้มภัยแก่องค์กร
องค์กรจะรอดจากมะเร็งก็ต้องมาแรงในการดูแลรายได้ เร่งใส่ใจลูกค้า รวบรัดพัฒนากระบวนการ และให้ความสำคัญกับพนักงาน
'มะเร็งในองค์กร เกิดจากวิถีการดำเนินธุรกิจ มีการนำระบบบริหารงานที่ไม่มีประสิทธิภาพมาใช้ ปล่อยให้องค์กรอุ้ยอ้าย ขาดความคล่องตัว
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
รูปภาพจาก : th.jobsdb.com
