เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » รายการ E-clipping » รายละเอียด E-clipping
ทำนาข้าวสลับนาบัวอาชีพลงตัว

          กวินทรา ใจซื่อ

          การปลูกบัวขายฝักสดเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของ "พนม พิมพ์รัตน์" วัย 42 ปี เกษตรกร อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี ที่ใช้ผืนนาข้าวสลับทำนาบัวเป็นรายแรกและรายใหญ่ของอำเภอ จากอาชีพเสริมกลายเป็นอาชีพหลักที่สร้างรายได้ตลอดปี

          แม้จะมีน้ำทำนาทั้งปีเพราะอยู่ในเขตชลประทาน ทว่าจากราคาข้าวที่ตกต่ำทำให้พนมมองหาช่องทางเพาะปลูกพืชชนิดอื่นเสริม จนมาลงตัวคิดนำบัวมาปลูกในนาข้าวหลังฤดูทำนาในพื้นที่กว่า 4 ไร่ สลับการปลูกข้าวนาปรัง

          "ทำนาบัวมากว่า 17 ปี เพราะขายได้ทั้งราก ใบ ดอก ฝักสด ฝักแก่ ตลาดต้องการมาก ปีแรกปลูกตั้งใจว่าจะให้เป็นรายได้เสริม ปัจจุบันถือเป็นรายได้หลัก ส่วนพันธุ์ที่เลือกปลูกคือพันธุ์ฉัตรบงกช เพราะเหมาะสำหรับกินฝักสด ดอกเยอะ เป็นที่ต้องการของตลาด"

          "พนม" บอกว่า การทำนาบัวสิ่งสำคัญคือแหล่งน้ำและดินที่ต้องอุดมสมบูรณ์ ใน 1 ปี จะทำนาบัว 2 รอบ สลับทำนาปรัง หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จจึงไถกลบตอซังข้าวใส่ปุ๋ยคอกบำรุงดินจากนั้นหว่านปูนขาวเพื่อปรับสภาพดิน พ่นสารชีวภาพ ตากดินไว้ 2 อาทิตย์ จึงปล่อยน้ำเข้าที่นาเพื่อเตรียมปลูกบัว

          "เป็นการปรับปรุงดินนาข้าวไปในตัวเพราะอินทรียวัตถุในนาบัวอุดมสมบูรณ์ ทำให้ไม่ต้องใส่ปุ๋ย ส่งผลดีในการปลูกบัวรอบต่อไปด้วย เพราะหลังเกี่ยวข้าวก็ไถกลบตอซังถือเป็นปุ๋ยให้บัวในรุ่นต่อไป การปลูกสลับยิ่งทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น"

          ส่วนปัญหาที่พบจะมีแมลงศัตรูพืช เช่น หนอน ผีเสื้อ เกษตรกรจะใช้สารสกัดชีวภาพน้ำส้มควันไม้ในการป้องกันโรคและแมลง บัวเก็บฝักสดจะ ทยอยให้ผลผลิตจึงมีให้เก็บขายทุกวันวันละกว่า 1,000 ฝัก มีแม่ค้ามารับถึงสวนในราคาฝักละ 2 บาท แต่ละวันจะมีรายได้เฉลี่ยวันละกว่า 2,000 บาท

          จากความสำเร็จในการทำนาบัวของพนมทำให้เกษตรกร 4 หมู่บ้าน รวมตัวตั้งกลุ่มเกษตรกรทำนาบัวขึ้นเพื่อให้เกษตรกรควบคุมราคาได้ สำหรับเกษตรกรที่สนใจทำนาบัว สอบถามสำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานีและนายพนมพิมพ์รัตน์กลุ่มเกษตรกรทำนาบัว อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี โทร.08-8475-9385


ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก  วันที่ 9 ก.ย. 58  หน้า 10