ณัฏฐ์ธยาน์ สุทธิเจริญ
ผลสำรวจจากไพร้ซวอเตอร์ เฮาส์คูเปอร์ส หรือ PwC ซึ่งเป็นเครือข่ายผู้ให้บริการด้านตรวจสอบบัญชี บริการให้คำปรึกษาด้านภาษี และบริการให้คำปรึกษาทางธุรกิจรายใหญ่ เผยว่า ต้องปรับโครงสร้างไอทีใหม่ เพื่อรับมือกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
วิไลพร ทวีลาภพันทอง หุ้นส่วนสายงานที่ปรึกษา บริษัท PwC Consulting (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า หัวใจสำคัญของการปรับโครงสร้างองค์กรโดยนำไอทีมาตอบโจทย์ยุคดิจิทัล คือ ต้องมีประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสารสนเทศ หรือ CIO ที่สามารถผลักดันให้ผู้บริหารขององค์กรตระหนักถึงความสำคัญของดิจิทัล และช่วยให้องค์กรวางกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของตลาดได้ เพื่อไม่ให้เสียเปรียบในการแข่งขัน
"สำหรับประเทศไทย องค์กรต่างๆ เริ่มตื่นตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่รวดเร็วมากขึ้นในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังขาดความเข้าใจถึงศักยภาพและผลตอบแทนที่แท้จริงของการลงทุน ทำให้การประยุกต์ใช้ไอทีในการขยายธุรกิจ และเพิ่มประสิทธิภาพยังอยู่ในขีดจำกัด ผู้ประกอบการบางรายอาจตามหลังเพื่อนบ้านที่มีความก้าวหน้าด้านไอทีมากกว่า" วิไลพร กล่าว
ธุรกิจทั่วโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายจากเมกะเทรนด์ ไม่ว่าจะเป็นความไม่แน่นอนในการดำเนินธุรกิจ การเกิดขึ้นของนวัตกรรมใหม่ๆ สังคมโลกาภิวัตน์และการแข่งขัน ดังนั้น องค์กรจึงต้องหันมาทบทวนรูปแบบการดำเนินธุรกิจและโครงสร้างการบริหารงานของตัวเอง โดยเฉพาะโครงสร้างไอทีที่จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้มีความยืดหยุ่น สามารถปรับตัวและตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นกุนซือที่ประสบความสำเร็จในโลกยุคดิจิทัล
ทั้งนี้ ปัจจัยที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าไปสู่การเป็นองค์กรในโลกดิจิทัล (Digital Enterprises) ขึ้นอยู่กับ 1.สภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน (Operating Environment) 2.การตอบสนองเชิงกลยุทธ์ต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของธุรกิจ (Strategic Responsiveness) 3.ความยืดหยุ่นและการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ อย่างรวดเร็วขององค์กร(Organisational Flexibility)
"การปรับโครงสร้างพื้นฐานไอทีใหม่ ถือเป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับองค์กรและตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล และต้องอาศัยหลักการของการทำงานร่วมกันทั้งไอทีและธุรกิจ ในการสร้างมูลค่า เหมือนพลวัต ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ครอบคลุมทั้งในแง่ของกระบวนการและผู้ปฏิบัติ เพื่อให้งานนั้นสัมฤทธิผล (Strategy Through Execution)" วิไลพร กล่าว
อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มไอทีในโลกธุรกิจยุคดิจิทัล ควรพลิกบทบาทจากการสนับสนุนมาเป็นที่ปรึกษาเพื่อช่วยวางกลยุทธ์และกำหนดทิศทางการลงทุนอย่างเหมาะสม รวมทั้งควรมีระบบการทำงานที่คล่องตัว สามารถเชื่อมโยงโครงสร้างองค์กรให้เป็นหนึ่งเดียว รวมทั้งปรับรูปแบบการบริหารจัดการให้มีศักยภาพเหนือคู่แข่ง
วิไลพร กล่าวทิ้งท้ายว่า หากองค์กรในประเทศไทยยังไม่เริ่ม ตื่นตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงไม่ปรับตัวนำไอทีมาปรับใช้อย่างเหมาะสม การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีในปลายปีนี้จะเสียมูลค่าทางการซื้อขายอย่างมหาศาล
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 3 สิงหาคม 2558
