นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่าการส่งออกข้าวในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 (ม.ค.-มิ.ย.) มีปริมาณ 4,457,927 ตันลดลง 4.7% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีการส่งออกปริมาณ 4,679,361 ตันด้านมูลค่า 72,142 ล้านบาท หรือ2,219 ล้านดอลลาร์ มูลค่าส่งออกลดลง 5.5% จากมูลค่า 76,349 ล้านบาท หรือ2,368 ล้านดอลลาร์ในปีก่อน
การส่งออกเฉพาะเดือนมิ.ย.มีการส่งออกข้าวปริมาณ 685,769 ตันโดยปริมาณส่งออกลดลง 19.8%เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. 2557 ที่มีการส่งออกปริมาณ 854,576 ตันและปริมาณส่งออกลดลง27.5%เมื่อเทียบกับพ.ค. 2558ด้านมูลค่ามิ.ย.มูลค่า 10,782 ล้านบาท ลดลง 18.8% เมื่อเทียบกับมิ.ย. 2557 และมูลค่าส่งออกลดลง 23.6% เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.2558 ที่มีการส่งออกปริมาณ 945,597 ตัน มูลค่า 14,110 ล้านบาท
นายเจริญ กล่าวถึงสถานการณ์ราคาส่งออกข้าวในเดือนก.ค.2558 จะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากเดือนมิ.ย.เนื่องจากตลาดกังวลเกี่ยวกับภาวะภัยแล้งซึ่งคาดว่าจะทำให้ผลผลิตข้าวเปลือกลดลง ประกอบกับอุปทานข้าวในตลาดไม่เพียงพอกับความต้องการจึงส่งผลให้ราคาข้าวส่งออกเกือบทุกชนิดปรับตัวสูงขึ้นทั้งนี้ราคาที่ประกาศโดยสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ณ วันที่ 29 ก.ค.2558ข้าวขาว5%ราคาอยู่ที่ตันละ 399 ดอลลาร์ (เอฟโอบี)
ในขณะราคาข้าวของประเทศคู่แข่งซึ่งรายงานโดยเว็บไซต์ ORYZA.COM ณ วันที่ 30 ก.ค.2558 ข้าวขาว 5% ของเวียดนามราคาอยู่ที่ตันละ 340-350 ดอลล์ลาร์ (เอฟโอบี) ข้าวขาว 5% ของอินเดียราคาอยู่ที่ตันละ 385-395 ดอลล์ลาร์ (เอฟโอบี) ในขณะที่ข้าวขาว 5% ของปากีสถานราคาอยู่ที่ตันละ 355-365 ดอลลาร์ (เอฟโอบี) สมาคมฯคาดว่าในเดือนก.ค.นี้จะมีการส่งออกข้าวประมาณ700,000-800,000 ตันเนื่องจากในช่วงนี้ยังคงมีการส่งมอบข้าวอย่างต่อเนื่องทั้งข้าวขาวและข้าวนึ่งแม้ปริมาณที่ส่งมอบในแต่ละครั้งจะยังไม่มากนักเพราะผู้ซื้อบางส่วนจะทยอยซื้อตามความต้องการ และจากการที่รัฐบาลได้ระบายข้าวจากสต็อกปริมาณมากทำให้ผู้ส่งออกมีข้าวที่สามารถส่งมอบให้กับประเทศที่นิยมบริโภคข้าวเก่าได้มากขึ้น
"ค่าเงินบาทยังคงมีทิศทางอ่อนค่าลงจึงส่งผลให้ราคาข้าวส่งออกของไทยปรับลดลงช่วยให้ข้าวไทยสามารถแข่งขันในตลาดได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ราคาข้าวของเวียดนามได้ปรับลดลงเพื่อดึงความสนใจของผู้ซื้อและเร่งขายข้าวอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับผลผลิตฤดูใหม่กำลังออกสู่ตลาด ขณะที่ความต้องการข้าวในตลาดยังมีไม่มากนักเนื่องจากสต็อกข้าวของผู้ซื้อบางส่วนยังคงมีปริมาณเพียงพอกับความต้องการจึงไม่เร่งรีบที่จะซื้อ ขณะที่ผู้ซื้อบางส่วนจะเลือกซื้อข้าวจากแหล่งที่ราคาถูกกว่า"
สำหรับครึ่งปีหลังทิศทางการส่งออกข้าวจะดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรกเนื่องจากตลาดยังคงมีความต้องการข้าวต่อเนื่องและจากภาวะภัยแล้งและฝนที่ตกล่าช้าทำให้บางพื้นที่ต้องเลื่อนการเพาะปลูกข้าวนาปีฤดูการผลิต 2558/59 ออกไป ประกอบกับราคาข้าวเปลือกไม่จูงใจให้เพาะปลูก จึงส่งผลให้พื้นที่เพาะปลูกข้าวฤดูนาปีลดลงซึ่งอาจจะทำให้ผลผลิตข้าวนาปี ลดลง 15-20% หรือประมาณ 2-3 ล้านตัน ในส่วนข้าวขาว เช่นเดียวกับข้าวหอมมะลิ และข้าวเหนียว ส่งผลให้ภาพรวมราคาจะสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาและสัญญาณการฟื้นตัวยังไม่ชัดเจนจึงส่งผลกระทบต่อการนำเข้าข้าวจากไทย โดยผู้ซื้อจะไม่ซื้อข้าวล่วงหน้าในปริมาณมากๆเพราะยังไม่มั่นใจสถานการณ์ราคาข้าว
สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยจึงปรับลดคาดการณ์เป้าหมายการส่งออกข้าวปีนี้ลงมาอยู่ที่ 9.5 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 4,770 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 157,000 ล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะสามารถส่งออกในปีนี้ได้ถึง 10 ล้านตัน โดยการส่งออกเมื่อปี2557ที่ผ่านมาปริมาณ 10.9 ล้านตัน มูลค่า 5.4 พันล้านดอลลาร์
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 1 สิงหาคม 2558 หน้า 04
