"ผมเรียนจบจากเกษตรกระทิงที่จันทบุรี สาขาปศุสัตว์ ไม่เกี่ยวกับพืชเลย พอจบก็มาทำงานฟาร์มเลี้ยงสุกรและฟาร์มเลี้ยงม้าที่ จ.ชลบุรี อยู่พักใหญ่ ก่อนกลับมาบ้านปลูกแตงโม เพราะคิดว่าสุดท้ายแล้วก็ต้องกลับมาอยู่บ้านอยู่ดี จึงลาออกจากผู้จัดการฟาร์มม้าเมื่อปี 54 กลับบ้านมาทำนาสลับกับการปลูกแตงโม หลังนา ซึ่งชาวบ้านที่นี่มีอาชีพหลักคือการทำนาปลูกข้าวหอมได้ปีละครั้ง"
การปลูกแตงโมของอุดรเริ่มจากพันธุ์แตงโมทั่วไปที่จำหน่ายในท้องตลาด ก่อนมาปรับเปลี่ยนเป็นแตงโมไร้เมล็ดสายพันธุ์แฮปปี้ แฟมิลี่ของซินเจนทา ซีดส์ หลังได้รับการแนะนำจากเจ้าของเกาะแก้วฟาร์ม ภคพล ชวีวัฒน์ แกนนำเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกแตงโมไร้เมล็ดใน ต.เกาะแก้ว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ว่า แตงโมสายพันธุ์นี้มีความต้องการของตลาดสูง ขายได้ราคาดีสูงกว่าแตงโมทั่วไปที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาดประมาณ 40-50% จากนั้นจึงเปลี่ยนมาปลูกแตงโมสายพันธุ์ดังกล่าวเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา พร้อมส่งเสริมให้เกษตรกรในเครือข่ายปลูก โดยพร้อมจะเป็นผู้รวบรวมผลผลิตของสมาชิกเพื่อส่งตลาดไท กรุงเทพฯ และตลาดในพื้นที่ภาคอีสาน โดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
"ตอนนี้ผมเป็นทั้งผู้ปลูกและหาตลาดจำหน่ายให้แก่สมาชิกในเครือข่ายด้วย ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 50-60 ราย ในพื้นที่ ต.เวียงสะอาด และชุมชนใกล้เคียง โดยจะเก็บผลผลิตส่งตลาดทุกวัน วันละ 20-30 ตัน ส่งตลาดไทที่กรุงเทพฯ และตลาดในภาคอีสาน อาทิ โคราช อุดรธานี ขอนแก่น อุบลราชธานี ที่เราส่งเป็นประจำ ผลผลิตก็จะเก็บหมุนเวียนกันไป เพราะเราได้กำหนดวันเวลาการปลูกเหลื่อมกัน เพื่อไม่ให้ผลผลิตออกมาทีเดียวพร้อมๆ กัน เพราะแตงโมพันธุ์นี้ใช้เวลาตั้งแต่ปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวไม่เกิน 60 หรือ 65 วัน เป็นอย่างช้า ส่วนราคาตอนนี้ก็อยู่ที่กิโลละ 35-40 บาท ขณะที่แตงโมมีเมล็ดทั่วไปอยู่ที่ 20-25 บาท" อุดร ให้ข้อมูลก่อนขอตัวไปลงแปลงเพื่อรดน้ำแตงโมที่เพิ่งปลูกได้เพียง 15 วัน บนเนื้อที่ 18 ไร่ ที่เขาตั้งเป้าเอาไว้ว่า ธันวาคมปีนี้จะต้องได้ผลผลิตอย่างน้อย 30 ตัน
นับเป็นเกษตรกรหัวก้าวหน้าอีกรายที่ใช้เครือข่ายในการบริหารจัดการและเสาะแสวงหาแตงโมสายพันธุ์ใหม่ๆ มาปลูก โดยใช้ตลาดนำการผลิตเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผลผลิตล้น ขายได้ราคาดีเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก วันที่ 16 พ.ย. 2559
eclipping_20142312154919_1.doc: ขนาด 42 KB