นายชาญพิทยา ฉิมพาลี อธิบดีกรม การข้าว เปิดเผยว่า กรมการข้าว ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาชาวนา การผลิตข้าวและการจัดการข้าว กับ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น โดย จะทำงานร่วมกัน 3 ด้านหลัก คือ 1.ร่วมมือพัฒนาชาวนา กลุ่มเกษตรกร และชุมชนที่ปลูกข้าวให้มีความเข้มแข็งให้การผลิตและบริหารจัดการข้าวของชาวนา 2.ร่วมมือ จัดทำฐานข้อมูลและการใช้ประโยชน์ข้อมูลข้าว ชาวนา ชุมชนท้องถิ่นและประเทศอย่างเป็นระบบ และ 3.เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวสาร การเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ข้าว
โดยความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงานในครั้งนี้ เนื่องจาก กรมการข้าวต้องการเข้าถึงเกษตรกรให้ได้มากที่สุด โดยจะทำงานเพียงหน่วยงานเดียวคงยากต่อการเข้าถึงเนื่องจากในบางพื้นที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ของกรมการข้าวประจำการอยู่ แต่ในทางกลับกัน กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น มีเจ้าหน้าที่อยู่ทั่วประเทศ และมีความใกล้ชิดกับเกษตรกรอย่างมาก จึงเล็งเห็นความสำคัญใน จุดนี้เพื่อที่จะเข้าไปพัฒนาเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยเริ่มต้นจะมีการแบ่งปั้นข้อมูล และเตรียมความพร้อมในการดำเนินการอย่างเร็วที่สุด
นายพิทยา กล่าวเสริมว่า นอกจากนี้ กรมการข้าว ได้รับแนวทางการดำเนินงานด้านข้าวจากกระทรวงเกษตรฯ 3 โครงการ คือ 1.โครงการปรับโครงสร้างการผลิตข้าว จะเป็นการดำเนินงานเพื่อลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 เขตพื้นที่ คือ เขตพื้นที่เหมาะสมกับการปลูกข้าว ส่งเสริมการทำนาแปลงใหญ่ 780,000 ไร่ การผลิตข้าวเฉพาะตลาด (Niche Market) ข้าวมาตรฐาน GAP ข้าว GI ข้าวอินทรีย์ 65,000 ไร่ และการปลูกพืชหมุนเวียน 400,000 ไร่ และในเขตพื้นที่ไม่เหมาะสมกับการปลูกข้าว จะเป็นการปรับเป็นการทำเกษตรกรรมทางเลือก 320,000 ไร่ และการปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ปลูกอ้อย 700,000 ไร่ / 2.โครงการพัฒนาเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจข้าวของสถาบันเกษตร / และ 3.โครงการขยายศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว โดยจะจัดตั้งศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวเพิ่มเติม 15 ศูนย์ เพื่อเพิ่มปริมาณเมล็ดพันธุ์ข้าวให้เพียงพอ ทันฤดูกาลปลูก โดยทั้ง 3 โครงการนี้ จะสามารถช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุนการปลูกข้าวได้ประมาณ 3,000 บาทต่อตัน มีรายได้เพิ่มขึ้น 6,432 บาท และสามารถเข้าถึงเมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดีเพิ่มขึ้นปีละ 60,000 ตัน สร้างรายได้ 3,600 ล้านบาทต่อปี
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 11 มิถุนายน 2558 หน้า 13
eclipping_20140812170144_1.doc: ขนาด 30.5 KB