เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » รายการ E-clipping » รายละเอียด E-clipping
อยากได้เงินมาทำธุรกิจ ต้องพิชิต 10 ข้อนี้

          เราสามารถเรียนรู้การเริ่มทำธุรกิจที่เรียกว่า Start  Up ได้จากหลายๆ บริษัทที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย คนเหล่านี้ล้วนได้เงินมาจากนักลงทุน ที่เรียกว่า Venture Capital หรือ Angel Investor (นักลงทุนส่วนบุคคลที่ชอบลงทุนในธุรกิจ Start Up)

          ในเมืองไทยเราเริ่มมี Angel Investor มากขึ้น นั่นหมายถึงโอกาสที่คนธรรมดาที่อาจไม่ได้เกิดมารวย แต่มีความสามารถก็มีโอกาสในการทำธุรกิจแบบเด็กฝรั่งได้

          ข้อดีของการใช้เงินคนอื่นคือ เราต้องรอบคอบมากขึ้น คิดมากขึ้น …เพราะการจะได้เงินจากคนอื่น เช่น Angel Investor ไม่ใช่เรื่องง่าย การระดมทุนจากนักลงทุนก็คือ การนำแนวคิด การทาธุรกิจของเรามาทดสอบโดยนักลงทุนที่มีประสบการณ์มาดูว่า สิ่งที่เราคิดน่ะ เป็นไปได้ทางธุรกิจแค่ไหน ...มโนไหม?  นี่แหละ ข้อดี

          (หลายครั้งที่คนทำธุรกิจใช้เงินตัวเองก็เอาเงินลงไปเลย โดยที่ในความจริงแนวคิดนั้นๆ อาจไม่ Make Sense เลยก็ได้ การได้นักลงทุนมาช่วยกลั่นกรอง ก็ทำให้แผนธุรกิจเรามีความเป็นไปได้มากขึ้น โอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นนั่นเอง …ใช่!! การใช้เงินคนอื่นก็มีข้อดีไม่น้อยครับ)

          มาดูกันว่าสิ่งที่นักลงทุนจะใช้ดูว่าจะให้เงินลงทุนเราหรือไม่ มี 10 ข้อ ดังนี้

          1."เขาดูว่าเรามีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมจริงๆ หรือไม่" อันนี้เป็นปัญหาของเด็กจบใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมคือ เขียนแผนธุรกิจแบบไม่เข้าใจอุตสาหกรรมจริงๆ ว่าในโลกจริงๆ เขาทำงานกันอย่างไร อันนี้อาจมีโอกาสสำเร็จต่ำ ดังนั้น ถ้าอยากทำธุรกิจอะไร ลองแอบไปสมัครงานในอุตสาหกรรม นั้นๆ ก่อน เพื่อที่จะเข้าใจการทำธุรกิจจริงๆ ก่อนที่จะเขียนแผนธุรกิจจะทำให้แผนเรามีความเป็นไปได้มากขึ้น

          2."ความมุ่งมั่น ทะเยอทะยาน" นักลงทุนที่ลงทุนในธุรกิจ Start Up จะมองหลักๆ ที่ทีมผู้ก่อตั้ง ดูว่ามีความมุ่งมั่น สู่เป้าหมายแบบ "กัดไม่ปล่อยแค่ไหน" …การเริ่มธุรกิจ โดยเฉพาะ Start Up เป็นการหาความแตกต่างในการทำธุรกิจ -- "คุณต้องชี้ให้ลูกค้าเห็นว่าสิ่งที่เป็นอยู่มันมีข้อจำกัด และเรามีข้อเสนอที่ดีกว่า ถูกกว่า เร็วกว่า ชัดเจนกว่า เล็กกว่า คล่องกว่า สะดวกกว่า…"

          3."ความมีวินัย" ถ้าพูดภาษาตรงๆ คือ "ดูความบ้าของเรา" เราต้องไม่โชว์ Slow Life เพราะ แน่นอน นักลงทุนที่จะเงินเขามาลงทุนในเรา ย่อมต้องการเห็นเราทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ธุรกิจสำเร็จและให้เขาได้กำไรจากการลงทุนที่ลงกับเรา ดังนั้นต้องทำงานอย่างบ้าคลั่งไม่ Slow Life นะ จริงๆ

          4."ธุรกิจเราต้องแก้ปัญหาที่คนยอมจ่ายเงิน" อันนี้ตรงๆ เลย ว่า การทำธุรกิจไม่ใช่แค่แก้ปัญหาให้คนเฉยๆ แต่ปัญหานั้นลูกค้าต้องยอมจ่ายเงินด้วย จึงจะเรียกว่าโอกาสธุรกิจ …ยกตัวอย่าง ธุรกิจเล็กๆ อาจไม่ยอมจ่ายค่าโฆษณาลงทีวี เพราะเงินที่ลงทุนอาจไม่คุ้มค่า หรือขนาดธุรกิจไม่เหมาะกับจำนวนเงินเยอะๆ ที่ต้องจ่าย แต่ธุรกิจเล็กอาจจะยอมจ่ายเงิน Facebook หรือ Google เพื่อโฆษณาแบบเฉพาะกลุ่มที่ตรงไปที่เป้าหมายโดยตรง เราต้องหาให้ได้ว่าปัญหาอะไรที่ลูกค้ายอมจ่าย อันนี้แหละโอกาส!!

          5."ขยายได้" หลักการของ Start Up คือ Scalable "ต้องขยายได้" ยุคนี้คือยุค Information Age เป็นยุคของข้อมูลข่าวสารและ Technology ธุรกิจในยุคนี้จึงต้องใช้แรงงานให้น้อย แต่ใช้เครื่องทุ่นแรงให้มาก …พูดง่ายๆ ว่า เราต้องเอา Technology มาใช้ ให้ธุรกิจเราต้นทุนต่ำกว่า แต่มีประสิทธิภาพสูงกว่า เช่น ถ้าขายของผ่านหน้าร้านปกติ จะมีต้นทุนสูงกว่าขายของออนไลน์ แต่เราต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่าจะให้ลูกค้าซื้อออนไลน์อย่างไร เราต้องคิดค้าขาย โดยไม่ติดกรอบทางกายภาพไม่มีระยะทางเป็นอุปสรรค ไม่มีเวลาค้าขายเป็นอุปสรรค ไม่มีภาษาเป็นอุปสรรค ไม่มีแรงงาน จำนวนมากๆ เป็นต้นทุน ขยายและ แตกตัวอย่างรวดเร็วในต้นทุนที่ต่ำกว่าธุรกิจดั้งเดิม

          6."ดีกว่าเดิมมหาศาล" หลายคนคิดว่าการทำธุรกิจคือ การทำให้ดีกว่าคู่แข่ง เช่น ทำอาหารอร่อยกว่าก็คิดจะเปิดร้านอาหาร นั่นเป็นความคิดที่ใช้ไม่ได้ในธุรกิจ Start Up เพราะมันเป็นความได้เปรียบที่ไม่ดีพอ เพราะคู่แข่งสามารถปรับตัวให้อร่อยขึ้นได้ไม่ยาก ดังนั้นธุรกิจเราต้องดีกว่าที่คนอื่นๆ ทำมหาศาล เช่น Netflix ชนะร้านวิดีโอปกติ เพราะเขาคิดวิธีให้คนดูหนังแบบใหม่ โหลดเอา ไม่ต้องเช่า -- ใช่!! มันต้องตีลังกาคิดจากสิ่งที่คนอื่นไม่กล้าคิดเป็นจุดตั้งต้น!!

          7."เลียนแบบยาก" ธุรกิจ Start Up ที่ดีต้องเลียนแบบยาก ต้องคิดสิ่งที่คู่แข่งไม่สามารถทำตามได้ง่ายๆ มีจุดเด่น  จุดแข็ง มีตรายี่ห้อที่น่าเชื่อถือ มีระบบที่เหนือชั้นอย่าง Google ควบคุม Platform ในการเชื่อมต่อลูกค้าอย่าง Airbnb --พยายามคิดให้ฉีก คิดให้เยอะ ไปให้ไกล ล้ำให้สุด อย่าหยุดแม้เป็นผู้นำแล้ว!!

          8."มีความเชื่อมั่นในตัวเอง และมีความเป็นผู้นำ" เรื่องนึงที่สำคัญมากสำหรับเจ้าของธุรกิจ Start Up คือ คุณต้องฝึกพูดต่อหน้าสาธารณะ โลกปัจจุบันคือโลกแห่งการขายความคิด ขายไอเดีย …ต้องกล้าพูด กล้าเป็นผู้นา

          9."มี Roadmap ที่ชัดเจน" มีแผนที่เดินทางสู่เป้าหมายที่ชัดเจน ทุกความสำเร็จ ล้วนเกิดจากการวางแผน แล้วค่อยๆ เดินตามแผนนั้นด้วยความอดทน ปัญหาของคนยุคนี้ มีฝัน แต่ไม่มีแผนที่จะเดินสู่ความฝัน มันจึงเป็นเพียงแค่ฝัน --เราต้องเขียนแผนอย่างชัดเจนสำหรับจัดการฝันนั้น!!

          10."Monetization" ทุกธุรกิจจะอยู่อย่างยั่งยืน ต้องทำกำไร ดังนั้นการทาธุรกิจจะต้องเห็นกำไรด้วย …ลูกค้า เขาโหวตความชอบของสินค้าและบริการผ่านสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตเขา ก็คือ "เงิน" -- ลูกค้าจะโหวตว่าสินค้าและบริการของเรา แก้ปัญหาและเป็นประโยชน์ต่อชีวิตเขา ตามจำนวนเงินที่เขาจ่าย …"สร้างประโยชน์ แก้ปัญหา เพื่อแลกเงิน  นั่นแหละ หลักการของธุรกิจที่ยั่งยืน"

          ลองสำรวจว่า ธุรกิจของเรามี 10 ข้อนี้หรือไม่ ...ถ้ามีก็คงหาเงินจาก นักลงทุนได้ไม่ยาก!!

 

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 6 กันยายน 2559



เอกสารที่เกี่ยวข้อง