เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » รายการ E-clipping » รายละเอียด E-clipping
เปิดสวนสละคุณประสงค์ ชูกลยุทธ์ ตลาดนำผลผลิต

          ประสงค์ย้อนอดีตเมื่อก่อนมีอาชีพทำสวน ผลไม้มีทั้งเงาะ มังคุด ทุเรียน ลองกองและอื่นๆ  บนเนื้อที่ 5 ไร่เศษ ซึ่งเป็นที่ดินได้รับมรดกตกทอดมาจากพ่อแม่ สร้างอาชีพและรายได้เลี้ยงครอบครัวตลอดจนกระทั่งเมื่อ 10 ปีที่แล้วมีปัญหาผลผลิตตกต่ำ ขายไม่ได้ราคา ทำให้ชาวสวนผลไม้จำนวนไม่น้อยต้องหันไปปลูกยางพารา ส่วนตัวเองไม่เอาด้วย เนื่องจากไม่มีความรู้เรื่องยาง จึงหันมาปลูกสละแทน ทั้งที่ไม่มีความรู้เช่นกัน แต่อย่างน้อยมีเกษตรกรปลูกในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงและไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการตลาด

          "ช่วงนั้นราคาผลไม้ตกต่ำ มีการประท้วงเรียกร้องรัฐบาลประกันราคา บางคนก็โค่นทิ้งหันไปปลูกยางพาราแทน ส่วนผมก็หันมาปลูกสละมองว่าน่าจะดีกว่าไม้ผลชนิดอื่น เนื่องจากยังมีปลูกกันน้อยในพื้นที่ จ.ระยอง ส่วนใน ต.ตะพง ตอนนั้นยังไม่มีใครปลูก" ประสงค์ย้อนอดีตวิกฤติราคาผลไม้ภาคตะวันออกเมื่อ 10 ปีก่อน

          พร้อมเผยต่อว่า หลังตัดสินใจปลูกสละจากนั้นจึงชวนภรรยา บุษกร สุวรรณารายณ์ ไปศึกษาดูวิธีการปลูกสละที่ จ.จันทบุรี พร้อมซื้อต้นพันธุ์สละเนินวงมาทดลองปลูกจำนวน 150 ต้น ต้นละ 500 บาท เมื่อปี 2543 หลังปลูกได้มาประมาณ 3 ปีก็เริ่มให้ผลผลิต จากนั้นจึงทดลองนำมาแปรรูปเป็นสละลอยแก้วเพื่อเพิ่มมูลค่าแทนการจำหน่ายผลสด จนกระทั่งสละที่ปลูกไว้มีอายุ 7 ปีขึ้นไปผลผลิตจะมีปัญหาจุดดำที่เนื้อสละ ซึ่งพยายามแก้ปัญหาโดยสอบถามนักวิชาการและผู้รู้ทั้งหลายแต่ยังไม่มีใครสามารถให้ข้อมูลที่ชัดเจนได้

          "พันธุ์เนินวงมีปัญหาที่จุดดำบริเวณเนื้อสละนี่แหละที่แก้ไม่ตก สำหรับต้นที่มีอายุตั้งแต่ 6-7 ปีขึ้นไปเป็นเหมือนกันหมด ไม่เฉพาะสวนผมสวนที่จันทบุรีก็เป็นเหมือนกันเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก ผมก็เลยรื้อทิ้งเปลี่ยนมาปลูกพันธุ์สุมาลีแทน ทยอยปลูกไปประมาณ 150 ต้น บางต้นก็เริ่มให้ผลผลิตแล้ว"

          ประสงค์ยอมรับว่าการปลูกสละไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะต้องดูแลต้นตลอดทั้งปี เนื่องจากสละจะให้ผลผลิตเกือบตลอดปี โดยผลผลิตจะออกมากที่สุดในช่วงพฤษภาคมถึงสิงหาคม จากนั้นจะพักต้นแล้วจะเริ่มออกดอกใหม่ในช่วงปลายปี ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ระหว่างนี้จะมีใส่ปุ๋ยคอก ขี้ไก่ พร้อมให้น้ำด้วยสปริงเกลอร์ ขณะเดียวกันก็จะผสมเกสร โดยเอาเกสรจากต้นตัวผู้มาผสมกับเกสรตัวเมีย โดยวิธีการถูแรงๆ หากเกสรตัวเมียไม่มีการผสมก็จะเหี่ยวแห้งไปโดยปริยาย

          "เราไม่มีจำหน่ายผลสดเพราะผลผลิตมีน้อย แต่จะนำมาแปรรูปเป็นสละลอยแก้วแทน ตอนนี้ทำทุกวันวันละไม่ต่ำกว่า 300 ถ้วย ขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงด้วย อย่างมกราคมถึงมีนาคมเป็นช่วงพักต้นสละมีน้อยหรือเกือบไม่มีเลย แต่ถ้าช่วงพฤษภาคมถึงตุลาคมช่วงนี้สละออกเยอะ เราก็ทำได้เยอะ เก็บไว้นานเป็นปีไม่มีสารกันบูด แต่ต้องเก็บไว้ในตู้เย็น"

          ส่วนวิธีการทำนั้นไม่ยาก เริ่มจากนำผลสละสุกมาปอกเปลือก พร้อมลอกเยื่อแล้วนำมาล้างน้ำสะอาด คว้านเมล็ดออกเหลือแต่เนื้อสละ จากนั้นแช่น้ำปูนประมาณ 1 ชั่วโมง ล้างด้วยน้ำสะอาด 2 ครั้ง ก่อนนำมานึ่งด้วยไฟอ่อนประมาณ 10 นาทีเพื่อให้เนื้อสละสุกแล้วนำมาใส่ถ้วย ถ้วยละ 5 ชิ้น จากนั้นก็นำน้ำเชื่อมที่เตรียมไว้ลงไป ตั้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง เก็บไว้ในตู้แช่เย็นเพื่อรอจำหน่ายต่อไป สนนราคาถ้วยละ 15 บาท (ราคาส่ง) ปลีก 20 บาท สนใจโทร.08-6822-2039

          สวนสละคุณประสงค์ นับเป็นตัวอย่างของเกษตรกรในการใช้กลยุทธ์การตลาดนำผลผลิตด้วยการแปรรูปผลิตภัณฑ์สร้างมูลค่าเพิ่มมากกว่าการจำหน่ายผลสด

 

          บรรยายใต้ภาพ

          ประสงค์ชี้ให้ดูเกสรตัวผู้

          สละพันธุ์สุมาลี

 

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก วันที่ 9 มิถุนายน 2559



เอกสารที่เกี่ยวข้อง