เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » รายการ E-clipping » รายละเอียด E-clipping
คอลัมน์: คิดแบบกลยุทธ์ทำแบบมืออาชีพ: ทีมเล็กๆ...ที่สร้างประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่!

          กรณีศึกษาที่ทำให้ทีมทีมเลสเตอร์ ประสบความสำเร็จในฤดูกาลนี้ นับว่า เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจ ไม่ใช่เฉพาะแวดวงกีฬาเท่านั้น แต่แวดวงการบริหารองค์กร และทีมงาน ก็น่าเรียนรู้และนำมาปรับใช้ได้เช่นกัน

          โดยปัจจัยภายนอก ก็คือ ตัวเต็ง คู่แข่งที่เป็นขาใหญ่พร้อมใจกันสะดุด! ส่วนปัจจัยภายในผมขอแบ่งเป็น 3 ประเด็นหลักๆ..ประเด็นแรก..เจ้าของทีมเลสเตอร์! เจ้าของทีมเลสเตอร์ คือ คนไทย เป็นเจ้าพ่อคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา มีทรัพย์สินราว 100,000 ล้านบาท ได้เทคโอเวอร์ทีม เมื่อปี 2010 ในขณะที่ทีมยังอยู่ในระดับแชมเปี้ยนชิพ ไม่ได้เลื่อนขึ้นมาระดับพรีเมียร์ลีก

          คุณวิชัย มอบหมายให้ คุณต๊อบ  อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ซึ่งเป็นลูกชาย (แต่เป็นแฟนแมนยู) เป็นผู้บริหารทีม บริหารสไตล์ไทยๆ แบบมีน้ำใจแต่ไม่ล้วงลูก! มิหนำซ้ำยังปรับปรุงรากฐานของทีมตั้งแต่พื้นสนามซ้อมที่ยังไม่ได้มาตรฐาน ไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมตั้งแต่รากฐานให้แข็งแกร่ง

          ประเด็นที่สอง... ผู้จัดการทีมและสตาฟโค้ช ผู้จัดการทีมที่พาทีมเลสเตอร์ ขึ้นจากระดับแชมเปี้ยนชิพ มาสู่พรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้วคือ ไนเจล เพียร์สัน และพาให้ทีมรอดตกชั้นอย่างหวุดหวิด.. ในฤดูกาลนี้ได้ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ที่เคยคุมทีมเชลซี และหลายทีมในยุโรปแต่ไม่ได้ ประสบความสำเร็จอะไรได้แค่แชมป์บอลถ้วยเท่านั้น และล่าสุดเพิ่งคุมทีมชาติกรีก ตกรอบไม่ได้เข้าร่วมบอลยูโรจนถูกไล่ออกมาจนมาคุมทีมเลสเตอร์!

          สิ่งที่รานิเอรี่ ทำ ไม่ได้มีอะไรพิสดาร หนำซ้ำยังเรียบง่าย น่าสนใจอย่างยิ่งคือ ไม่ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงหรือปฏิวัติทีมอะไร..แต่เข้ามารักษาส่วนที่ดี ต่อยอด จุดแข็ง (เล่นเกมรับแล้วโต้กลับเร็ว เล่นบอลสนุก) แก้ไขจุดอ่อน (เดิมเสียประตูง่าย มากำหนดแท็กติกป้องกัน ไล่บอลตั้งแต่แดนหน้า แพ็คเกมรับให้แน่น จนกลายเป็นทีมที่เสียประตูยาก) และสร้างทีมสปิริตให้แข็งแกร่ง! ไม่เคยกดดันนักเตะ ตั้งเป้าหมายต่ำๆ ที่เป็นไปได้..และไปทีละขั้น!

          ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ...นักเตะในทีมต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รานิเอลี่เป็นคนมีอารมณ์ขัน มีมุขตลกมาคุยให้นักเตะฟังบ่อยๆ ไม่มีความเคร่งเครียดดุดัน...

          ส่วน รานิเอรี่ เองก็ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับคุณ วิชัย เจ้าของทีมเลสเตอร์ เป็น คนที่ไม่เคยทำให้บรรยากาศเสีย มีแต่ช่วยทำให้บรรยากาศดี ไม่มีกดดัน คุยกันทีไรมีแต่ เรื่องสบายใจ ส่งผลให้ตัว รานิเอลี่ ไปสร้างบรรยากาศของทีมได้อย่างสบายใจ

          นอกจากนั้นทีมสตาฟโค้ช ที่ช่วยในเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬาทั้งกายภาพ และจิตใจ ก็เป็นส่วนสนับสนุนที่สำคัญที่ทำให้นักเตะของเลสเตอร์ ไม่ค่อยมีอาการบาดเจ็บมากเท่ากับทีมอื่นๆ

          ประเด็นที่สาม...ทีมนักเตะตัวหลักๆ ของทีมยังคงอยู่ แต่เสริมนักเตะใหม่ เช่น ริยาด มาห์เรซ เข้ามาที่เล่น ได้โดดเด่นจนได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ และได้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่ก็เล่นได้โดดเด่นเช่นเดียวกัน รวมทั้งฟอร์มการเล่นของ เจมี่ วาร์ดี้ที่ฤดูกาลที่แล้ว ถูกจำกัดบทบาทในแนวรุกยิงไม่ค่อยได้ มาฤดูกาลนี้ รานิเอลี่ ให้อิสระในการเล่น จนยิงประตูเป็นว่าเล่นและถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติอังกฤษ

          ส่วนนักเตะที่เหลือ ถ้าแยกเป็นรายตัวก็ไม่มีอะไรโดดเด่น เทียบกับทีมชั้นนำ ทีมอื่นๆ ไม่ได้เลย..แต่เมื่อมารวมเป็นทีม กลับกลายเป็นทีมเวิร์ค ที่เล่นกันอย่างทุ่มเท เหมือนกับแต่ละนัดเป็นนัดสุดท้ายของชีวิต!

          สรุปง่ายๆ ว่า ความสำเร็จของทีมเลสเตอร์ ส่วนหนึ่งเกิดจากปัจจัยภายนอก คือ ทีมใหญ่ทีมเต็งทั้งหลายพากันสะดุดแล้วเลสเตอร์ก็ฉกฉวยโอกาสอันนี้ไว้..

          ประกอบกับปัจจัยภายใน ตั้งแต่ผู้บริหารสูงสุด เจ้าของทีมทั้งสองพ่อลูก บริหารด้วยสไตล์ไทยๆ (แฝงความเชื่อทางพุทธ มีนิมนต์พระไปเสริมสร้างแรงใจตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว) ไม่สร้างบรรยากาศกดดันผู้จัดการและนักเตะ แถมยังให้การสนับสนุนทุกอย่างเพื่อให้ทีมพัฒนาศักยภาพเพิ่มยิ่งขึ้น (ฤดูกาลนี้ได้แชมป์ แต่ไม่ได้ ตั้งเป้าว่าฤดูกาลหน้าต้องรักษาแชมป์ แค่ติด 1 ใน 10 ก็พอใจแล้ว!)

          ส่วน รานิเอรี่ ผู้จัดการทีมก็บริหารด้วยสไตล์ที่ไม่เคร่งเครียด สร้างบรรยากาศ สร้างทีมสปิริตของทีม ใช้แท็คติคและแผนการเล่นที่เรียบง่าย แต่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ (รับแล้วโต้กลับเร็ว)!

          ส่วนนักเตะก็ทุ่มเท เล่นกันเป็นทีม สนับสนุนคอยช่วยเหลือกัน ไม่มีชิงดีชิงเด่น มีแต่ส่งเสริมกัน...

          ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้นำองค์กรหรือทีมงานในธุรกิจใด น่าจะพอมองเห็นแล้วนะครับว่า.. มีปัจจัยหลักที่น่าสนใจของการบริหารทีมฟุตบอลเลสเตอร์ ที่น่าจะนำมาปรับใช้กับทีมของท่านได้ไม่มากก็น้อย ลองดูนะครับ!

          ธีรพล แซ่ตั้ง นักการตลาด รอบรู้เป็นพิเศษในการ กำหนดกลยุทธ์ การตลาด การขาย การสื่อสารผ่านโทรศัพท์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทเทเลมาร์เก็ตติ้ง สแทร็ททิจี คอมมิวนิเคชั่น  e-mail : tsctheone_t@hotmail.com www.thespecialistcoach.com

 

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 16 พฤษภาคม 2559