เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

โลกปั่นป่วน บลจ.วรรณหั่นเป้าหุ้นเหลือ 1,570 จุด ขาย ONE-LS5-UI รับมือผันผวน

ข่าววันที่ : 21 ส.ค. 2566


Share

tmp_20232208112308_1.jpg

วันที่ ปรับปรุง 22 ส.ค. 2566

               นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยปลายปี 2566 นี้ คาดอยู่ที่ 1,570 จุด จากเดิมคาดแตะระดับ 1,640 จุด ภายใต้สมมุติฐานรัฐบาลสามารถออกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นได้ภายใน 2-3 เดือนนี้ แต่กรณีเลวร้าย หากการเมืองในประเทศมีความรุนแรง เงินเฟ้อทั่วโลกพุ่งสูง หรือสงครามในหลายประเทศกลับมาปะทุอีกครั้ง หรือเศรษฐกิจจีนเสียหายหนักกว่าที่คาดการณ์ คาดดัชนีหุ้นไทยอาจลงมาทดสอบจุดต่ำแถว 1,395 จุดได้

               ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนแบ่งสัดส่วนพอร์ตลงทุนในหุ้น ราว 45% แบ่งเป็น หุ้นไทย 20% ที่เหลือหุ้นสหรัฐฯและญี่ปุ่น, ลงทุนทางเลือก ราว 15% ทั้ง ทอง น้ำมัน อสังหาฯ และอีก 40% ลงทุนตราสารหนี้ แบ่งเป็นตราสารหนี้ระยะสั้น 30% ระยะยาวเน้นบอนด์สหรัฐฯ 2-3 ปี ราว 10%

               "เศรษฐกิจจีนที่เกิดกรณี Evergrande บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจีนยื่นขอล้มละลาย หรือกรณี Country Garden เป็นปัญหาเฉพาะตัวที่ตลาดรับรู้แล้ว มองว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาที่ลุกลามหรือสร้างความกดดันต่ออสังหาฯในไทย แต่ก็คงต้องติดตามสถานการณ์อย่าสงต่อเนื่อง แต่เชื่อว่ารัฐบาลจีนน่าจะคุมสถานการณ์ไม่ให้บานปลายได้"

               อย่างไรก็ดี บลจ.วรรณมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริการจัดการ (AUM) ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้แตะระดับ 164,000 ล้านบาท และสิ้นปี 2566 นี้คาดแตะระดับ 170,000 ล้านบาท รวมถึงเสนอขายกองทุนใหม่ เช่น กองทุนส่วนบุคคล, ทริกเกอร์หุ้นไทย, ทริกเกอร์หุ้น เป็นต้น

               สำหรับภาพรวมของตลาดสินทรัพย์หลัก อาทิ ตราสารทุน ตราสารหนี้ รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนสูง การกระจายความเสี่ยงถือเป็นหัวใจสำคัญในการลงทุนในมุมมองของบลจ.วรรณ และอีกทางเลือกที่เราแนะนำให้ลูกค้ามาโดยตลอด คือ การจัดสรรเงินบางส่วนเพื่อลงทุนในกองทุนทางเลือก กองทุนเปิด วรรณ ไลฟ์ เซทเทิลเมนท์ ปัจจุบันเสนอขาย กองทุนเปิด วรรณ ไลฟ์ เซทเทิลเมนท์ 5 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (ONE-LS5-UI) เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีเข้ามามากตลอดในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันกองทุนมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท และให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8-9% ต่อปี ทั้งนี้ กองทุน ONE-LS5-UI  จะเปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 21 สิงหาคม – 29 สิงหาคม 2566

               กองทุน ONE-LS5-UI เน้นลงทุนในกรมธรรม์ประกันชีวิตในตลาดรองประเทศสหรัฐฯ ลงทุนในกรมธรรม์ในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว(กองทุนหลัก) คือกองทุน One Life Settlement Limited Partnership ซึ่งบริหารจัดการการลงทุนโดย SL Investment Management ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ(USD) ซึ่ง ONE-LS5-UI เป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุนประเภท Feeder Fund กองทุนที่เน้นลงทุนแบบมีความเสี่ยงต่างประเทศในระดับความเสี่ยงที่ 8+ กองทุน ONE-LS5-UI มีอายุโครงการ 3 ปี 3 เดือน โดยระหว่างทางการลงทุนผู้ถือหน่วยมีโอกาสไถ่ถอน(Redemption)หน่วยลงทุนได้ เมื่อถือลงทุนครบ 1 ปีขึ้นไป ซึ่งสามารถไถ่ถอนได้ตามที่บลจ.วรรณกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท

               "เชื่อว่าการกระจายความเสี่ยงโดยแนะนำการลงทุนกองทุนทางเลือกจะสามารถสร้างโอกาสการลงทุนในช่วงสินทรัพย์ดั่งเดิมมีความผันผวนได้ดี โดยที่ผ่านมากองทุนทางเลือกไลฟ์ เซทเทิลเมนท์ได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีต่อเนื่อง โดยบลจ.วรรณยังครองแชมป์กองทุนสินทรัพย์ทางเลือกอันดับหนึ่งของประเทศไทย โดยกองทุน ONE-LS4-UI มียอดขายราว 3.3 พันล้านบาท ถือเป็นการ IPO กองทุนสินทรัพย์ทางเลือกที่ใหญ่ที่สุดในตลาดของปีนี้" 

 

ท่องเที่ยวกลับมาหนุน

               นายมณฑล จุนชยะ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.วรรณ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี หนุนโดยการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี บวกกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ทยอยออกมา คาดช่วยหนุนทั้งการท่องเที่ยวในประเทศ และการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนในระยะสั้น ขณะที่เงินเฟ้อทั่วไป ชะลอตัวต่อเนื่อง ช่วยลดแรงกดดันด้านการใช้นโยบายการเงินที่แข็งกร้าว ของคณะกรรมาการนโยบายการเงิน(กนง.) 

               “ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังคงมีอัตราการขยายตัวเกือบ 3% จากการท่องเที่ยวและภาคบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัว โดยปัจจัยบวกที่เห็นชัดคือการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวชาวจีนและหวังว่าจะเป็นแรงส่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวในปีนี้เพิ่งสูงขึ้นมาได้ถึง 70% ของก่อนช่วง covid19 หรือประมาณ 29 ล้านคน ขณะที่ตัวเลขการส่งออกที่ขยายตัวในอัตราที่ลดลงนั้นได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทั้งนี้มองว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านงบประมาณน่าจะมาล่าช้ากว่ากำหนดผลจากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า”นายมณฑล กล่าว 

               อย่างไรก็ดี ปัจจัยบวกในช่วงถัดจากนี้ของปี คืออัตราเงินเฟ้อที่น่าจะชะลอตัวลง ประกอบกับความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลที่น่าจะแล้วเสร็จได้ในก่อนไตรมาสสุดท้ายของปี รวมทั้งปริมาณนักท่องเที่ยวที่จะทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้น่าจะสามารถเป็นแรงหนุนบรรยากาศการลงทุนของในช่วงที่เหลือได้กว่าครึ่งปีแรกที่ผ่าน

 

ที่มา  :  โพสต์ทูเดย์  21 สิงหาคม 2566