ห้างเมินช็อปช่วยชาติ กระหน่ำแคมเปญส่งท้ายปี
ให้คะแนนเนื้อหา
คะแนนเฉลี่ย 0.0 จำนวนผู้โหวด 0
วันที่ ปรับปรุง 7 ธ.ค. 2561
โดย...จะเรียม สำรวจ
ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยสำหรับมาตรการช็อปช่วยชาติ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือเกษตรกร โดยเฉพาะชาวสวนยางและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมหนังสือ ซึ่งเกณฑ์การใช้จ่ายซื้อสินค้า เพื่อขอลดหย่อนภาษีก็เหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา คือ สามารถหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท โดยมาตรการ ดังกล่าวจะเริ่มคิกออฟในวันที่ 15 ธ.ค.-16 ม.ค. 2562
สำหรับสินค้าที่นำมาลดหย่อนภาษีได้ในครั้งนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 3 กลุ่ม คือ 1.ยางล้อ ทั้งรถยนต์ จักรยานยนต์ และจักรยาน จะต้องเป็นการซื้อล้อยางเท่านั้น ส่วนค่าช่างและอื่นๆ ไม่สามารถนำมา ลดหย่อนได้ โดยยางจะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ และคูปองยืนยันว่าซื้อจากการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) โดย กยท.จะไปดำเนินการแจกคูปองให้ ร้านค้า ซึ่งจะเริ่มโครงการวันที่ 15 ธ.ค.นี้ให้ทัน หากไม่มีคูปองก็ไม่สามารถนำมา หักลดหย่อนภาษีได้ 2.สินค้าโอท็อป ใบกำกับภาษีจะต้องมีใบเสร็จ และระบุว่าเป็นสินค้าโอท็อป โดยผู้จำหน่ายต้องลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชน และ 3.หนังสือและอี-บุ๊ก จะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ แต่จะไม่รวมหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ส่วนหนังสือประเภทอื่น รวมทั้งวารสารหรือบทความวิจัยสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
จากประกาศดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบ การค้าปลีกถึงกับต้องถอนหายใจ เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่ที่นำมาจำหน่ายไม่อยู่ในเกณฑ์เข้าร่วมมาตรการเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการห้างค้าปลีกต้องหันมาใช้งบก้อนโต เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เติบโตจากปกติ เพราะปีนี้ไม่มีมาตรการช็อปช่วยชาติเข้ามาช่วยกระตุ้นยอดขายเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา
อรวรรณ ทิพย์สุวรรณพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายบริหารสินค้า บริษัท โรบินสัน กล่าวว่า แม้ว่าปีนี้มาตรการช็อปช่วยชาติจะไม่รวม ในส่วนของธุรกิจค้าปลีก แต่บริษัทก็ เชื่อมั่นว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมของธุรกิจค้าปลีกและบริษัท โรบินสัน ไม่มากนัก เนื่องจากรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ในช่วงไตรมาส 4 หลายโครงการ เช่น มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวแก่ทัวริสต์ อย่างโครงการ AMAZING THAILAND GRAND SALE "PASSPORT PRIVILEGES" ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายของกระทรวงพาณิชย์ อย่างโครงการ "ลดหนัก จัดเต็ม New Year Grand Slaes" รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เน้นในต่างจังหวัด
ทั้งนี้ โรบินสันถือเป็นหนึ่งในธุรกิจค้าปลีกที่มีสาขาตั้งอยู่ในจังหวัดเป็นจำนวนมาก โดยโครงการของรัฐข้างต้นเหล่านี้จะเป็นปัจจัยที่จะช่วยส่งผลบวกแก่ภาพรวมของโรบินสันและตลาด ค้าปลีกได้ไม่น้อย
นอกจากนี้ โรบินสันยังได้ใช้งบกว่า 40 ล้านบาท ผนึกกำลังห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าจัด 2 แคมเปญใหญ่ คือ "ROBINSON GIFTS" ตั้งแต่วันนี้-3 ม.ค. 2562 ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน 48 สาขา ส่วนอีกหนึ่งแคมเปญ คือ "ROBINSON LIFESTYLE MAKE A WISH" จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้-1 ม.ค. 2562 ที่ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ เพี่อเป็นเดสติเนชั่น ที่ตอบทุกโจทย์ความต้องการในเรื่องของสินค้าคุณภาพ และสร้างความสุข พร้อมประสบการณ์ที่ มากกว่าการช็อปปิ้งให้แก่นักช็อปทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
อรวรรณ กล่าวต่อว่า บริษัทหวังว่า ทั้งสองแคมเปญจะช่วยให้ธุรกิจในไตรมาส 4 ของโรบินสัน เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ และส่งผลให้ภาพรวมตลาดค้าปลีกและเศรษฐกิจของไทยเติบโตในทิศทางที่ดีตามไปด้วย เนื่องจากช่วงไตรมาส 4 ถือเป็นช่วงเวลาของการจับจ่ายใช้สอย ส่งผลให้มียอดขายสูงกว่าทุกไตรมาส
ด้าน วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป กล่าวว่า บริษัทเข้าใจภาครัฐและเห็นด้วยกับมาตรการช็อปช่วยชาติที่ประกาศออกมาถ้าเป็นประโยชน์เพื่อส่วนรวมของประเทศ เพราะเข้าใจว่ารัฐบาลต้องการส่งเสริมกลุ่มสินค้าที่มีความจำเป็นต้องให้การช่วยเหลือจริงๆ
อย่างไรก็ดี แม้ว่าปีนี้มาตรการช็อปช่วยชาติที่ประกาศออกมาจะไม่รวมทุกกลุ่มสินค้าที่มีในห้างสรรพสินค้า แต่ทางเดอะมอลล์ กรุ๊ป คาดว่าจะไม่ส่งผล กระทบ เพราะได้มีการจัดแคมเปญ โปรโมชั่นและจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของลูกค้าในช่วงปลายปีอยู่แล้ว ซึ่งแคมเปญต่างๆ ที่จัดขึ้นล้วนเป็นการมอบสิทธิประโยชน์อย่างคุ้มค่าให้กับลูกค้าที่มาช็อปปิ้งภายในห้างค้าปลีกในเครือเดอะมอลล์
เช่นเดียวกับ ปิยวรรณ ลีละสมภพรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล ที่ไม่รู้สึกกังวลกับการประกาศมาตรการช็อปช่วยชาติที่ไม่รวมสินค้าที่จำหน่ายภายในห้าง เนื่องจากช่วงปลายปีเป็นช่วงของการจับจ่ายใช้สอย และทางห้างเองก็มีการจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขายส่งท้ายปีอยู่แล้ว เช่น การจัดแคมเปญ CENTRAL/ZEN MIDNIGHT SALE
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 7 ธันวาคม 2561
