ธปท.-คลังเห็นต่างจีดีพีโตไม่ห่วงเงินไหลออกหากเฟดปรับดอก
ให้คะแนนเนื้อหา
คะแนนเฉลี่ย 0.0 จำนวนผู้โหวด 0
นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี โดยเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำเพียงพอต่อการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจให้ดีขึ้นซึ่งเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 และเดือนกรกฎาคมขยายตัวอย่างช้าๆ การส่งออกหดตัวต่อเนื่องตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและเอเชีย และยอมรับว่ากังวลผลกระทบของเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว มีผลลบต่อการส่งออกของไทยค่อนข้างมาก ส่วนกรณีที่รัฐบาลมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเชื่อว่าจะช่วยประคองเศรษฐกิจได้บ้าง แต่เศรษฐกิจไทยยังมีทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบที่จะต้องประเมิน คณะกรรมการ กนง.จะมีการแถลงประมาณการจีดีพีปีนี้ใหม่ วันที่25 ก.ย. นี้ คาดแนวโน้มจีดีพีปีนี้จะโตต่ำกว่าร้อยละ 3
ด้านนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมปล่อยสินเชื่อกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้ผู้มีรายได้น้อย วงเงินรวม 60,000 ล้านบาท รวมกับมาตรการสินเชื่อเอสเอ็มอี และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆรวมวงเงิน 136,000 ล้านบาท ทำให้อัตราการเติบโตเศรษฐกิจไทยปีนี้จะรักษาระดับโตได้ร้อยละ 3 โดยเดือนธันวาคมสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จะปรับจีดีพีใหม่อีกครั้ง แม้ว่าสำนักวิจัยเอกชนต่างๆ จะปรับลดจีดีพีปีนี้เหลือโตร้อยละ 2.5-2.7 ก็ตาม
ส่วนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด ) วันที่ 16-17 ก.ย. นี้ หากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยปีนี้ ไม่น่าจะกระทบมากนัก เพราะฐานะทางการเงินของไทยยังมั่นคง มีเงินคงคลัง ณ สิ้นกรกฎาคม2558 ทั้งสิ้น 202,000 ล้านบาท และเงินทุนในระบบอีก 700,000-800,000 ล้านบาท สามารถรองรับกระแสการไหลออกของเงินทุนต่างชาติได้
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการพิจารณาศึกษาการลดภาษีธุรกิจเฉพาะ ค่าธรรมเนียมการโอน และค่าธรรมเนียมการจดจำนองอย่างถาวรโดยยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะลดอัตราเท่าใดเพื่อหวังกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่จะมีข้อสรุปเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีภายในปีนี้
ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ วันที่ 17 กันยายน 2558
