เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

พัฒนาสหกรณ์ ในพื้นที่โครงการหลวง 51 แห่ง

ข่าววันที่ :15 ก.ย. 2558

Share

tmp_20151509112336_1.jpg

          ม.จ.ภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง ได้เสด็จเป็นประธานในพิธีเปิดงานการประชุมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวง เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมศูนย์สินค้าเกษตรภาคเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายปริญญา เพ็งสมบัติ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ รับเสด็จ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม 230 คน ประกอบด้วยข้าราชการที่รับผิดชอบดูแลสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวง 9 จังหวัด หัวหน้าศูนย์พัฒนาโครง การหลวง ตัวแทนสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวง ส่วนราชการและภาคเอกชน ที่ประชุมมีการหารือถึงแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนางานสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวง ให้มีความเข้าใจร่วมกันในวิธีการปฏิบัติงานและบูรณาการการทำงานร่วมกัน ตลอดจนรับทราบปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงาน และร่วมกันหาแนวทางการแก้ไข การนี้ นายปริญญา เพ็งสมบัติ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้กล่าวถวายรายงานถึงผลการปฏิบัติงานการส่งเสริมสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวงว่าในปี 2558 กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สนับสนุนงบประมาณอุดหนุนเพื่อจัดซื้อปัจจัยการผลิตและการตลาดให้แก่สหกรณ์ เช่น อาคารอเนกประสงค์ โรงเรือนพลาสติก วัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นในการผลิตและการแปรรูปทางการเกษตร อาทิ อุปกรณ์ผสมปุ๋ย ชุดผลิตกาแฟ เครื่องกาแฟ และเครื่องวัดความชื้น ให้กับสหกรณ์ 7 แห่ง เป็นเงิน 4,603,700 บาท พร้อมทั้งสนับสนุนงบประมาณจ้างเหมาบริการเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานส่งเสริมสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวง 29 ราย เป็นเงิน 2,564,760 บาท ซึ่งจากการสนับสนุนการดำเนินงานดังกล่าวส่งผลทำให้สหกรณ์ผ่านระดับมาตรฐาน อยู่ในระดับดีเลิศ (A) 8 สหกรณ์ ระดับดีมาก (B) 20 สหกรณ์ และระดับดี (C) 7 สหกรณ์ ปริมาณธุรกิจเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 16.74 สำหรับในปี 2559 ได้มีการจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายและสนับสนุนการดำเนินงานของสหกรณ์พื้นที่โครงการหลวง 11,395,400 บาท แบ่งเป็นโครงการหลวง 8,634,200 บาท โครงการขยายผลโครงการหลวง 2,500,280 บาท และโครงการขยายผลโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืน 260,920 บาท พร้อมทั้งจัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวง โดยสนับสนุนสหกรณ์จัดหาปัจจัยการผลิต อุปกรณ์การผลิตและการตลาดที่จำเป็นต่อการพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ใน 4 จังหวัดได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอนและน่าน จำนวน 7 สหกรณ์ 1 กลุ่มเกษตรกร จำนวน 3,652,000 บาท โอกาสนี้ ม.จ.ภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง ได้ประทานรางวัลให้กับสหกรณ์และบุคคลดีเด่นในพื้นที่โครงการหลวงและโครงการขยายผลโครงการหลวง โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้คัดเลือกสหกรณ์ดีเด่นในพื้นที่โครงการหลวง เพื่อพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานของสหกรณ์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ผลการคัดเลือกมีสหกรณ์ที่มีผลงานดีเด่นตามหลักเกณฑ์ จำนวน 3 สหกรณ์ ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงแม่โถ จำกัด สหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงดอยอินทนนท์ จำกัด จังหวัดเชียงใหม่และสหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงห้วยน้ำขุ่น จำกัด จังหวัดเชียงราย จากนั้นได้ประทานรางวัลให้กับสมาชิกสหกรณ์ดีเด่นในพื้นที่โครงการหลวง จำนวน 10 ราย โดยโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาสมาชิกสหกรณ์ดีเด่นที่มีการนำแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไปประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิต การปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละและยึดถือเป็นตัวอย่างในแนวทางการปฏิบัติให้กับสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกร อื่น ๆ ต่อไป รวมถึงการคัดเลือกเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานส่งเสริมสหกรณ์ดีเด่น เพื่อยกย่องและให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่มีส่วนร่วมส่งเสริมสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวงด้วยความทุ่มเท ตั้งใจทำงานด้วยความเสียสละ และเอาใจใส่ในการปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ โดยคณะกรรมการได้พิจารณาคัดเลือกนายมานพ เวียงนิล หัวหน้าศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่แพะ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้ได้รับรางวัลดังกล่าว สำหรับแผนงานในการส่งเสริมสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวงต่อจากนี้ไป จะส่งเสริมและผลักดันให้สหกรณ์มีปริมาณธุรกิจเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาและผ่านระดับมาตรฐานสหกรณ์ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ รวมทั้งจะพัฒนาสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวง จำนวน 3 สหกรณ์ ใน 2 จังหวัดได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ 2 สหกรณ์ คือ สหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงแม่โถ จำกัดและสหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงบวกเต๋ย จำกัด จังหวัดลำพูน 1 สหกรณ์ ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรห้วยต้มนำเจริญ จำกัด ให้เป็นสหกรณ์ต้นแบบ สำหรับเป็นแบบอย่างให้สหกรณ์อื่น ๆ ได้นำไปประยุกต์ใช้และจัดการศึกษาอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับสหกรณ์และการบริหารการดำเนินธุรกิจสหกรณ์ให้แก่คณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวงอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มพูนทักษะ ประสบการณ์และศักยภาพในการปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้น โดยคาดหวังว่าการส่งเสริมและพัฒนางานสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวงจะมีการดำเนินธุรกิจที่เติบโต เจริญก้าวหน้า มีคุณภาพในการให้บริการแก่สมาชิกดียิ่งขึ้น มีศักยภาพในการดำเนินงานมากขึ้น จนสามารถช่วยเหลือตนเองได้ต่อไปในอนาคต ตลอดจนสมาชิกของสหกรณ์มีความรู้ความเข้าใจในหลักการอุดมการณ์และวิธีการสหกรณ์ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถพัฒนาตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป.
 

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th วันที่ 15 กันยายน 2558