เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

ลุ้นเบิกจ่ายรัฐเซอร์ไพรส์ศก.ครึ่งปีหลังธปท.ชี้ภาพรวมเดือนก.ค.ยังอ่อนแอ-สรท.จ่อหั่นส่งออกอีกรอบ

ข่าววันที่ :2 ก.ย. 2558

Share

tmp_20150209105757_1.jpg

          นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจมหภาค ฝ่ายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า จากการประเมินทิศทางเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังผ่านปัจจัยต่าง ๆ ที่ออกมามีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับช่วงครึ่งแรก แต่อาจมีปัจจัยจากการลงทุนภาครัฐที่สูงกว่าคาดการณ์ไว้ และการประเมินดังกล่าวยังไม่รวมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทีมรัฐบาลใหม่ด้วย ซึ่ง ธปท.อยู่ระหว่างการทบทวนใหม่จะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในการประชุมครั้งหน้า โดยคงมีการปรับตัวเลขประมาณการต่าง ๆ รวมทั้งการส่งออกด้วย

          “ช่วงที่ผ่านมาการเบิกจ่ายภาครัฐถือว่าทำได้ดีกว่าคาด เพียงแต่เม็ดเงินของภาครัฐไม่ได้สูงเมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจ ขณะที่ภาคการส่งออกที่มีสัดสวนต่อเศรษฐกิจค่อนข้างมากยังคงชะลอตัวเช่นเดียวกับทางด้านอุปสงค์ในประเทศ ทั้งหมดนี้จึงทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไม่ได้มากเท่ากับที่อยากเห็น โดยสาเหตุที่มองว่าจะมีเซอร์ไพรส์จากการเบิกจ่ายของภาครัฐ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะที่ผ่านมาหน่วยงานต่าง ๆ ได้เร่งก่อภาระผูกพันไว้สูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งต้องดูว่าช่วง 2 เดือนหลังของปีงบประมาณจะมีการเบิกจ่ายเม็ดเงินส่วนนี้ออกมาได้มากน้อยแค่ไหน” นายดอนกล่าว

          ขณะที่ ธปท.ระบุว่า ภาพรวมกิจกรรมทางเศรษฐกิจไทยในเดือนกรกฎาคม 2558 ยังคงอ่อนแอ มีเพียงการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายของภาครัฐที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยการส่งออกยังซบเซาการบริโภคภาคเอกชนยังลดลง สอดคล้องกับระดับความเชื่อมันภาคเอกชนที่อยู่ในระดับต่ำ และอุปสงค์ที่อ่อนแอส่งผลต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ ทำให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ยังส่งผลต่อเนื่องมายังเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งปีหลังด้วย โดยมองว่าภาพรวมเศรษฐกิจในเดือนสิงหาคมก็ยังไม่น่าจะดีเท่าเดือนกรกฎาคม

          ด้านนายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่าแนวโน้มการส่งออกปีนี้มีโอกาสต่อกว่าเป้าหมายที่คิดว่าจะติดลบ 4.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งจะรอดูตัวเลขการส่งออกในเดือนสิงหาคมอีกครั้งก่อนตัดสินใจว่าจะปรับลดเป้าหมายหรือไม่ ซึ่งหาจะให้การส่งออกอยู่ในเป้าหมายเดิมจะต้องมียอดส่งออกเดือนละไม่ต่ำกว่า 1.85 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมามียอดส่งออกเพียง 1.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และปกติเดือนสิงหาคมจะเป็นเดือนที่มียอดส่งออกค่อนข้างสูง แต่หากยอดต่ำลงอีกก็คงจะต้องปรับเป้าหมายการส่งออกปีนี้ลดลงต่ำกว่าติดลบ 4.2%

          ทั้งนี้ การส่งออกที่ลดลงส่วนหนึ่งมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังลดลงต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้าเนื่องจากสงครามเศรษฐกิจที่รุนแรง ประเทศต่าง ๆ พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อความอยู่รอด โดยเฉพาะการใช้กลยุทธ์ลดค่าเงินเพื่อกระตุ้นการส่งออก ทำให้สินค้าไทยแข่งขันยากขึ้นแม้ค่าเงินบาทจะอ่อนตัวลงก็ตาม แต่เงินสกุลอื่น ๆ ก็อ่อนค่าลงด้วย

          นายนพพรกล่าวถึงนโยบายของทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ว่า การออกมาประกาศนโยบายเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นความมั่นใจของประชาชนและผู้ประกอบการ โดยรัฐบาลควรประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจต่าง ๆ อย่างชัดเจนว่า จีดีพี อัตราเงินเฟ้อ จะขยายตัวเท่าไร การส่งออกจะขยายตัวได้อย่างไร รวมทั้งจะต้องกำหนดกรอบเวลาในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างชัดเจนว่าจะใช้เวลากี่เดือน มีแนวทางปฏิบัติอย่างไร จึงจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนทำให้กลับมาใช้จ่าย และลงทุนเพิ่มขึ้น

 

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : คมชัดลึก ฉบับวันที่ 2 ก.ย. 2558