เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

ครม.สั่งชาร์จเพิ่มค่าธรรมเนียมค้าข้าว

ข่าววันที่ :6 ส.ค. 2558

Share

tmp_20150608141336_1.jpg

          รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า  ที่ประชุมครม.ได้ให้ความเห็นชอบปรับปรุงกฎกระทรวง ตามพ.ร.บ.การค้าข้าว พ.ศ.2489 โดยอัตราค่าธรรมเนียมเดิม ใช้มาเป็นระยะ เวลายาวนาน ไม่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ และขณะนี้ผู้ประกอบการค้าข้าวมีการขยายกำลังการผลิตของโรงสีและปริมาณหรือมูลค่าการ ซื้อขายที่สูงขึ้น จึงเห็นว่าควรมีการปรับปรุงใหม่

          ทั้งนี้อัตราค่าธรรมเนียมที่คณะกรรมการปฏิบัติการตามพ.ร.บ.ค้าข้าว พ.ศ.2489 ได้มีการเห็นชอบประกอบไปด้วยการปรับเพิ่มอัตราค่าธรรมเนียมหนังสืออนุญาตให้ประกอบการค้าข้าวประเภทต่างๆ ค่าธรรมเนียม หนังสืออนุญาตให้ประกอบการค้าข้าวส่งออก จากเดิมอัตราฉบับละ 20,000 บาทเพิ่มเป็น 50,000 บาทต่อฉบับ

          ปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมส่งออกข้าวชายแดน โดยมีมูลค่าส่งออกไม่เกินวันละ 500,000 บาท จากเดิมฉบับละ 2,000 บาทเป็น 5 ,000 บาท ส่วนผู้ส่งออกข้าวสารบรรจุกล่อง หรือหีบห่อ อัตราค่าธรรมเนียมฉบับละ 20,000บาท โดยยกเว้นเกษตรกร หรือสหกรณ์การเกษตร

          นอกจากนี้ได้ปรับปรุงค่าธรรมเนียมใบอนุญาตโรงสี จากเดิมโรงสีขนาดเล็กฉบับละ 100 บาท โรงสีขนาดกลาง 250 บาท โรงสีขนาดใหญ่ 500 บาท และหนังสืออนุญาตให้ประกอบการค้าข้าวขายส่ง 100 บาท เป็น โรงสีขนาดเล็กฉบับละ 1,000 บาท กลาง 2,500 บาท ขนาดใหญ่ 5,000 บาท ขายส่งเป็น 1,000 บาท ส่วนท่าข้าวประเภทนำเข้าข้าวจากต่างประเทศ และนายหน้าค้าข้าว  5,000 บาทต่อฉบับ

          สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ได้ให้ความเห็นว่า กระทรวงพาณิชย์ควรคำนึงถึงผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน ของผู้ประกอบการ เพราะต้นทุนสูงขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อราคาข้าวเปลือกเกษตรกรได้

          นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน นายก กิตติมศักดิ์สมาคมโรงสีข้าไทย กล่าวว่า การ ปรับขึ้นอัตราค่าธรรมเนียมการค้าข้าวของ ภาครัฐ  ไม่ส่งผลกระทบต่อการเพิ่มต้นทุนมากนัก แต่เกรงว่าการปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมอาจเป็นขั้นแรกของการที่ภาครัฐ อาจกลับมา เก็บค่าพรีเมียมข้าวอีกครั้งหนึ่ง โดยมีบางฝ่ายเสนอว่าว่าหากการส่งออกข้าวสูงกว่าปีละ 8 ล้านตัน ควรมีการเก็บค่าพรีเมียมข้าว เพื่อเพิ่มเงินรายได้ให้กับรัฐ ซึ่งหากเก็บค่าพรีเมียม ข้าวจริง จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกและราคาข้าวที่อาจถูกดราคาลงได้

          นางสาวบรรจงจิตต์  อังศุสิงห์ รอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า การ ประเปิดประมูลข้าว 6.6แสนตัน 11 ส.ค.นี้ เชื่อว่า จะมีผู้สนใจเข้าร่วมเสนอราคาจำนวนมาก และสามารถอนุมัติขายได้เกือบหมด เพราะหากดูจากการประมูลครั้งที่ผ่านมาพบว่า สามารถอนุมัติขายข้าวได้มากกว่า 70-80%

          "ราคาข้าวที่ลดลงขณะนี้ ไม่ได้เกิดจากการระบายข้าว แต่เกิดจากสถานการณ์ภัยแล้งเริ่มคลี่คลาย มีฝนมากขึ้น ราคาข้าวก็ปรับตัวลดลงมา ซึ่งหากราคาข้าวปรับตัวขึ้น ก็คงไม่มีกระแสข่าวออกมาแบบนี้"นางสาวบรรจงจิตต์ กล่าว

          ในส่วนของสต็อกข้าวเสื่อมนั้น ขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งตรวจสอบในเรื่องของเชื้อรา เชื่อว่าทุกฝ่ายจะเร่งทำงานเพื่อนำข้าวส่วนนี้มาเปิดระบายโดยเร็วที่สุด

          รายงานข่าวแจ้งว่า ราคาข้าวเปลือก ณ วันที่ 5 ส.ค. (กรุงเทพ) ข้าวเปลือกเจ้า 100% ตันละ 8,500 บาท ลดลงจากช่วงวันที่ 3 ส.ค. ที่ตันละ 8,500 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 5% ตันละ 8,200 บาท ลดลงจากตันละ 8,300  บาท ข้าวหอม ปทุมธานี ตันละ 13,200 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง และข้าวหอมมะลิ (ขอนแก่น) ตันละ 13,500-14,100 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

 

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 6 สิงหาคม 2558