เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

โครงการพัฒนาพื้นที่รอบวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร

ข่าววันที่ :24 ก.ค. 2558

Share

tmp_20152407103043_1.jpg

         เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี พร้อมด้วยนายดนุชา สินธวานนท์ รองเลขาธิการกปร. นายกิจจา ผลภาษี ที่ปรึกษาสำนักงานกปร. นายวิชัย แหลมวิไล อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ และเจ้าหน้าที่สำนักงานกปร.ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการพัฒนาพื้นที่โดยรอบวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหารอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพื่อติดตามความก้าวหน้าและการดำเนินงานสนองพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการพัฒนาพื้นที่และสนับสนุนด้านการเกษตรกรรมที่ปลอดภัยจากสารพิษ เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตและรายได้ให้แก่เกษตรกร โครงการพัฒนาพื้นที่โดยรอบวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหารอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2525 โดยให้มีการพัฒนาที่ดินบริเวณติดต่อกับวัดญาณสังวรารามฯ เพื่อเป็นแหล่งพัฒนาการเกษตร พัฒนาแหล่งน้ำ วนอุทยาน เพื่อการรักษาป่าไม้ สัตว์ป่า และราษฎรในพื้นที่ให้สามารถประกอบอาชีพทางการเกษตรได้ดีขึ้นและให้ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำบริเวณคลองบ้านอำเภอ เขตอำเภอบางละมุง และอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมของราษฎรในพื้นที่ และสนับสนุนกิจกรรมทางศาสนาของวัดญาณสังวรารามฯ พร้อมทั้งส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่บริเวณโครงการให้เป็นวนอุทยานรักษาป่าและสัตว์ป่า ในการนี้ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือสำนักงานกปร. ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานสนองพระราชดำริ โดยร่วมกับจังหวัดชลบุรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการพัฒนาพื้นที่รอบวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร บนพื้นที่ประมาณ 2,500 ไร่ ครอบคลุม 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง ตำบลนาจอมเทียน ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จากการเข้าพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินงานของโครงการ ของคณะองคมนตรีในครั้งนี้พบว่า การดำเนินงานที่ผ่านมาประสบความสำเร็จตามเป้าหมายด้วยดี เป็นผลให้พื้นที่รอบวัดญาณสังวรารามฯ มีความอุดมสมบูรณ์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน พื้นที่โดยรอบที่เป็นป่าปรากฏพันธุ์พืช และสัตว์ป่าประจำท้องถิ่นเข้ามาอยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ซึ่งนับเป็นตัวชี้วัดที่แสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของผืนป่าที่ได้ดำเนินการตามแนวพระราชดำริในการฟื้นฟูป่า ส่วนทางด้านการพัฒนาอาชีพ พบว่าในปัจจุบันมีเกษตรกรและประชาชนทั่วไปให้ความสนใจเข้ารับการอบรมจากศูนย์ฝึกฯ แห่งนี้อย่างต่อเนื่อง และต่างได้นำความรู้ไปปฏิบัติใช้ในพื้นที่ของตนเอง ดังจะเห็นได้จากที่มีแปลงเพาะปลูกพืชนานาชนิดในพื้นที่โดยรอบที่เป็นของประชาชนเองปรากฏให้เห็นโดยทั่วไป ควบคู่กับการมีซึ่งพืชผักหลากหลายชนิดจำหน่ายในท้องตลาดของพื้นที่แบบไม่ขาดตลาด โดยไม่ต้องนำเข้ามาจากต่างจังหวัดที่ห่างไกลที่ทำให้ราคาต้องเพิ่มสูงมากขึ้นตามระยะทางของการขนส่ง.“
 

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/ วันที่ 24 กรกฏาคม 2558