เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

เตือนระวังโรค "โคนเน่าหัวเน่าในมันสำปะหลัง"

ข่าววันที่ :25 มิ.ย. 2558

Share

tmp_20152506121258_1.jpg

          นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า จากรายงานของสำนักงานเกษตรจังหวัด 54 จังหวัดที่ปลูกมันสำปะหลัง (วันที่ 3 มิถุนายน 2558) มีพื้นที่มันสำปะหลังยืนต้น 7,714,487 ไร่ พบการระบาดของศัตรูมันสำปะหลัง 2 ชนิด คือ เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง และปัญหาโคนเน่า-หัวเน่าในมันสำปะหลัง โดยมีพื้นที่ระบาดรวม 8,142 ไร่ เช่น ที่ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา พบจำนวน 890 ไร่ แต่อยู่ในระดับที่ไม่รุนแรง

          กรมส่งเสริมการเกษตรจึงร่วมกับกรมวิชาการเกษตร กำหนดมาตรการและคำแนะนำแก้ไขปัญหา 5 มาตรการ คือ
         1. มาตรการติดตาม เฝ้าระวัง คือ โดยสำรวจเดือนละครั้ง หากช่วงฝนตกชุกความชื้นในอากาศสูง สำรวจสัปดาห์ละครั้ง แต่หากช่วงฝนตกชุกต่อเนื่องติดต่อกันให้สำรวจทุกวัน

          2. มาตรการก่อนการปลูก ให้ทำความสะอาดแปลงและเครื่องจักรกลการเกษตร

          3. มาตรการระหว่างการระบาด ประกอบด้วย 1) พื้นที่ระบาดวิกฤติ ร้อยละ 50 ของพื้นที่ประเมิน ให้ไถทิ้งเก็บซากเผาทำลาย ตากดิน เปลี่ยนชนิดพืชปลูก 2) พื้นที่ระบาดรุนแรง ร้อยละ 30-50 ของพื้นที่ประเมิน มันสำปะหลังอายุ 1-3 เดือน ให้ไถทิ้ง อายุ 4-7 เดือนใช้วิธีเดียวกับอายุ 1-3 เดือน แล้วใช้ปูนขาวหว่านโดยรอบ มันสำปะหลังอายุ 8 เดือนขึ้นไป ให้เร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตทันทีและเปลี่ยนปลูกพืชหมุนเวียนเพื่อตัดวงจรของเชื้อรา 3) พื้นที่ระบาดปาน กลาง ร้อยละ 10-29 ของพื้นที่ประเมิน มันสำปะหลังอายุ 1-7 เดือน ขุดถอนไปทำลาย อายุ 8 เดือนขึ้นไป ให้เร่งเก็บเกี่ยว 4) พื้นที่ระบาดน้อย ร้อยละ 10 ของพื้นที่ประเมิน ปฏิบัติเช่นเดียวกับพื้นที่ระบาดปานกลาง และถ้ามันสำปะหลัง ได้อายุเก็บเกี่ยวให้เร่งเก็บเกี่ยว

          4. มาตรการหลังเกิดการระบาด ร้อยละ 50 ให้เปลี่ยนพืชปลูกเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว เช่น อ้อย ข้าวโพดหรือพืชตระกูลถั่ว เกินร้อยละ 21-50 ให้เลื่อนฤดูปลูก น้อยกว่าร้อยละ 20 ใช้ปูนขาวหว่าน ใช้ราไตรโคเดอร์มา

          และ 5. มาตรการการมีส่วนร่วมของชุมชน ใช้ "ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน" โดยชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม ติดตามเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัย ร่วมรณรงค์การป้องกันกำจัด การวิจัยระดับชุมชนและการประชาสัมพันธ์ข่าวสารของทางราชการ

 

ขอบคุณข้อมูลและภาพข่าวจาก : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์  วันที่ 25 มิ.ย. 58