เกร็ดน่ารู้ เรื่อง เปลี่ยน Big Data ให้เป็นข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่ง
ธนาวัฒน์ มาลาบุปผา
ECOMMERCE COACH
คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ สมาคมอีคอมเมิร์ซประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์
หนึ่งในกลยุทธ์ของการทำธุรกิจคือ ต้องหมั่นสำรวจคู่แข่งอยู่เสมอ เพื่อมองหาโอกาสพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น และอยู่เหนือคู่แข่งแต่นับจากนี้ การทำความเข้าใจคู่แข่ง อาจไม่เพียงพอ ยุคนี้เป็นยุคที่คุณต้องแข่งขันกับตัวเอง และคู่แข่งที่สำคัญก็คือ การนำข้อมูลมหาศาลมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ การมีข้อมูลอยู่ในมือก็ช่วยให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปได้อย่างมีทิศทาง และมีประสิทธิภาพ
ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจกันก่อนนะครับ Big Data จริงๆ แล้วอยู่รอบๆ ตัวเรา ก็พวกข้อมูลต่างๆ ที่เราได้รับมาในแต่ละวัน เช่น ข้อมูลจากเพื่อนในเฟซบุ๊ก ข้อมูลจากฝ่ายบุคคลในบริษัท หรือข้อมูลอะไรก็ได้ แต่ประเด็นคือ ข้อมูลมันใหญ่มาก และยังไม่ถูกนำมาวิเคราะห์เลย ซึ่งการที่เรามี Big Data แล้ว แต่ไม่มีการวิเคราะห์ ข้อมูลนั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไรครับ อุปสรรคประการหนึ่ง ก็คือ องค์กรยังขาดบุคลากรที่จะดึงข้อมูลมาวิเคราะห์ให้เกิดมูลค่าเพิ่มได้
5 ประโยชน์เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ
อี-คอมเมิร์ซด้วยข้อมูล
1.เรียนรู้ และเข้าถึงลูกค้า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริง การที่เรามีข้อมูลของลูกค้ามากๆ เราก็สามารถนำไปต่อยอดในการทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจง หรือทำ Personalized กับลูกค้าแต่ละคนได้ ข้อมูลนี้เองที่เป็นแหล่งข้อมูลเชิงลึกที่จะช่วยให้เรากับลูกค้าใกล้ชิดกันมากขึ้น และสร้างความผูกพันกับลูกค้าได้ในระยะยาว
2.เข้าใจพฤติกรรมการซื้อสินค้า เพื่อนำมาปรับกลยุทธ์การขายหรือแม้กระทั่งการตั้งราคาสินค้า ข้อมูลทำให้เราเข้าใจว่าลูกค้าซื้อสินค้าอะไรไป ความถี่ในการซื้อ หรือรู้ถึงขนาดที่ว่า ลูกค้าชอบซื้อสินค้าช่วงโปรโมชั่นหรือไม่ จะทำให้เราสามารถวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อให้ขายสินค้าได้มากขึ้น
3.จัดการสินค้าคงคลัง และประมาณการสินค้าที่จะนำมาขายเพื่อสร้างกำไร ข้อมูลจะช่วยให้เราเข้าใจว่าสินค้าตัวไหนที่เกิดยอดขาย เมื่อไหร่ และสินค้าชิ้นไหนขายไม่ได้ ถ้าเรามีระบบการแทร็กสินค้าเข้ามาช่วยในการจัดการข้อมูล การทำสต๊อกสินค้าก็จะสะดวกขึ้นด้วย ต่อไปนี้ก็จะรู้แล้วว่าจะนำสินค้าประเภทใดมาขายให้ได้กำไร และสินค้าก็ไม่ค้างสต๊อกด้วย
4.ช่วยแก้ปัญหาและวางแผนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต การที่เรามีข้อมูลจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้เฉียบคมขึ้น และป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดในอนาคตได้ โดยเฉพาะปัญหาการใช้บริการของลูกค้าที่ต้องแก้ไขเร่งด่วน ซึ่งข้อมูลจะเป็นตัวขับสำคัญในการจะนำ AI (Artificial Intelligence) และ ML (Machine Learning) เข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการลูกค้า
5.พัฒนาผลิตภัณฑ์ การบริการ และนวัตกรรมทางธุรกิจ การนำข้อมูลมาต่อยอดในการทำวิจัยเพื่อพัฒนาในหลายๆ ด้าน ไม่เพียงแค่นำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการเท่านั้น แต่ทุกฝ่ายในองค์กรสามารถนำข้อมูลไปใช้เพื่อส่งเสริม สนับสนุนการทำงานในแผนกของตนเองให้มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลมากขึ้น
ท่านผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ อาจมีคำถามว่า Big Data จะยุ่งยากเกินไปหรือเปล่า แล้วจะทำได้จริงไหม ต้องใช้งบเท่าไร หรือไม่มีผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์จะทำยังไงดี
ผมขอตอบอย่างนี้ครับ ข้อมูลทุกอย่างไม่ใช่คำตอบ แต่ข้อมูลที่ถูกต้อง และตรงกับคำถามที่เราต้องการค้นหาคำตอบต่างหากที่จะช่วยให้เรานำข้อมูลมาใช้ได้อย่างมีความหมาย ลองนำข้อมูลมาวิเคราะห์กันดูครับ น่าจะมองเห็นอะไรบางอย่างที่ช่วยจุดประกายในการวิเคราะห์ข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม รู้อย่างนี้แล้ว เริ่มลงมือทำเลยนะครับ
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 19 ตุลาคม 2560
