เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » รายการเกร็ดน่ารู้ » รายละเอียดเกร็ดน่ารู้

เกร็ดน่ารู้ เรื่อง Marketing Start up 4.0




          แนวคิดทางธุรกิจเริ่มจากที่การทำธุรกิจส่วนใหญ่จะเริ่มจากการเน้นการพัฒนาระบบการผลิตเพื่อให้ต้นทุนการผลิตต่ำที่สุด (Production concept) เพราะต้นทุนที่ต่ำกว่าย่อมนำมาซึ่งกำไรที่มากกว่า

          แต่บทเรียนทางธุรกิจบอกว่าแม้ว่าต้นทุนจะต่ำกว่าก็ไม่ได้รับประกันถึงรายได้ที่สูงขึ้น เพราะลูกค้าให้ความสนใจกับคุณภาพของสินค้าด้วย ถ้าสินค้าคุณภาพไม่ดีลูกค้าก็จะไม่ซื้อ องค์กรควรได้เน้นย้ำถึงการปรับปรุงคุณภาพของสินค้าเพราะเชื่อว่าถ้าสินค้ามีคุณภาพดีก็จะสามารถทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้ (Product concept)

          ธุรกิจก็ได้บทเรียนต่อมาว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะบ่อยครั้งสินค้าที่คุณภาพไม่ดีกลับขายได้มากกว่าสินค้าที่คุณภาพดี ธุรกิจจึงต้องหาวิธีที่พยายามจูงใจให้ลูกค้าซื้อทละเป็นการเน้นเทคนิคการขาย (Selling concept) แทน

          แต่ต่อมาก็ได้เรียนรู้ว่า การขายไม่ได้รับประกันถึงความสำเร็จในอนาคต จึงเกิดแนวคิดว่าองค์กรควรเน้นแนวคิดของการตลาด (Marketing concept) ที่ไม่ได้ให้ความสำคัญเพียงแค่เทคนิคการขายเท่านั้นแต่ต้องครบเครื่องส่วนประสมทางการตลาด

          แต่อย่างไรก็ตามแนวคิดทางการตลาดอาจจะไม่เพียงพอ ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมจึงต้องมีการพิจารณาถึงสังคมและสภาพแวดล้อมด้วย จึงเกิดแนวคิดของการตลาดเพื่อสังคม (Societal Marketing Concept) ซึ่งก็ควรจะเป็นเช่นนั้น

          แต่ต่อมาก็มีแนวคิดอีกว่านอกจากส่วนประสมทางการตลาดและการรับผิดชอบต่อสังคมแล้วการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและฝ่ายต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ (Relationship Marketing) และการสร้างการตลาดภายในองค์กร (Internal Marketing) ก็เป็นสิ่งสำคัญด้วยเช่นกันก็ทำให้เกิดแนวคิดของ Holistic Marketing  ที่เสมือนจะบอกว่าต้องทำทุกอย่างครบทั้งสี่มิติ

          จะว่าไปแล้วแนวคิดทางการตลาดของ Holistic Marketing นี้เองที่ทำให้เกิดการเรียกที่ง่ายขึ้นว่าเป็น Marketing 3.0 ซึ่งเป็นมุมมองว่าถ้าทำได้ทั้งหมดอย่างที่กล่าวมาจะทำให้องค์กรได้กลายเป็นองค์กรที่สามารถสร้างได้ถึงระดับ Human Spirit คือลูกค้ามีความผูกพันกับองค์กรถึงขั้นวิญญาณ ในขณะที่ Marketing 1.0 เป็นการเน้นคุณภาพของสินค้า และ Marketing 2.0 เป็นการตลาดที่เน้นถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลักเท่านั้น

          การตลาดรูปทบบ 3.0 มีความต้องการถึงระดับขั้นการสร้างส่วนแบ่งทางการตลาดในทุกๆด้านไม่ว่าจะเป็น Mind share (ลูกค้านึกถึงอยู่ตลอดเวลา) Heart share (แบรนด์ที่ลูกค้ารักที่สุด) และยังเพิ่มเติมถึงขั้น Spirit share ที่ต้องการให้ลูกค้าเกิดความมุ่งมั่นในวิญญาณที่จะแบรนด์นี้ตลอดไปเพราะความหลงใหลในแบรนด์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ถึงขั้นปวารณาตัวเป็นสาวก

          แต่ปัจจุบันแนวคิดการตลาดทั้งหมดนี้ กิจกรรมการตลาดทั้งหมดนี้ต้องพัฒนาให้อยู่ในรูปของดิจิทัลให้หมด และสามารถเพิ่มขีดความสามารถโดยอาศัยเทคโนโลยีทางด้านดิจิทัล เมื่อทำเป็นดิจิทัลหมดจึงจะได้กลายเป็นลักษณะในอุดมคติของการตลาด 4.0 เพราะองค์กรที่นอกจากจะได้พัฒนาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่องและทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจหรือความผูกพันและองค์กรที่อยู่ได้อย่างยั่งยืน และทุกอย่างต้องสามารถสร้างให้เป็นองค์กรแห่งคุณค่าของลูกค้า สังคม ผ่านการสื่อสารดิจิทัลทุกรูปแบบ

          คำถามที่ลองเช็คได้ว่าองค์กรของท่านคือ องค์กรแห่งการตลาด 4.0 หรือไม่ก็คือ คุณภาพชีวิตของลูกค้า คุณภาพชีวิตของพนักงานและคุณภาพของสังคมตลอดจนความสุขของทุกคนทุกฝ่ายในโลกใบนี้จะดีขึ้นผ่านกิจกรรมทางด้านดิจิทัลทุกรูปแบบแล้วหรือยัง ดังทิศทางการตลาดที่เป็นไปในทิศทางของ Internet of Things และเป็นเรื่องของ Everything of lives และรวมไปถึง  Digital in every business ครับ

 

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 22 ธ.ค. 2559