เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » รายการเกร็ดน่ารู้ » รายละเอียดเกร็ดน่ารู้

เกร็ดน่ารู้ เรื่อง Gen Y ลูกค้าชั้นดี ลูกหนี้ชั้นไหน



tmp_20161110115605_1.jpg


          Gen Y กำลังสร้างหนี้…ปรากฏการณ์นี้แปลกจริงหรือ

          “ณัฐพงศ์” อายุ 31 ปี พนักงานบริษัทบันเทิงแห่งหนึ่ง เป็นหนี้ 1.7 ล้านบาท เพราะเพิ่งซื้อคอนโดละแวกอ่อนนุช โดยใช้สิทธิ์สวัสดิการบริษัทที่ทำร่วมกับธนาคารเมื่อกลางปีก่อน

          “เขต” อายุ 33 ปี กำลังวางแผนแต่งงาน เขากำลังมองบ้านทาวน์เฮาส์ชานเมืองที่พอจะมีอนาคตกับระบบขนส่งมวลชน คิดจะกู้เงินร่วมกันแฟนสาว...จ่ายเงินดาวน์จำนวนหนึ่ง แล้วค่อยผ่อนต่อ

          ส่วน “หยก” กับ “ตูน” อายุ 25 ปี ยังไม่มีหนี้สินกับสถาบันการเงินใด มีเพียงคำสัญญากับพ่อที่ตกลงจะผ่อนจ่ายค่าโทรศัพท์เครื่องใหม่หลังรูดบัตรเครดิตจ่ายไปก่อนหน้า

          ลูกหนี้เจนวาย

          ระหว่างที่คนเจนเนอเรชั่นวาย (เกิดปี 2523-2540) ดำเนินชีวิตไปตามรูปแบบธรรมดาๆ ทั้ง เรียน ทำงาน กินข้าวนอกบ้าน นั่งร้านกาแฟ เดินตลาดนัด ฯลฯบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ได้เปิดเผยข้อมูลโดยพิจารณาฐานข้อมูลบัญชีสินเชื่อในระบบที่มีสมาชิกทั้งสิ้น 93 แห่ง ทั้งสถาบันการเงินที่รับฝากเงิน และสถาบันการเงินไม่รับฝากเงิน ณ สิ้นเดือน ส.ค. ซึ่งมีสินเชื่อทั้งสิ้น 92.50 ล้านบัญชี ทั้งนี้พบว่ากลุ่มคนเจนวาย อายุ 19-36 ปี (เกิดปี 2523-2540) เป็นกลุ่มที่มีการขอสินเชื่อรายใหม่เพิ่มขึ้นในทุกประเภทสินเชื่อ ทั้งสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล

          “ในกลุ่มสินเชื่อบ้านนั้น แต่ละปีจะมีบัญชีลูกค้าใหม่เพิ่มเฉลี่ยปีละ 3 แสนบัญชี และครึ่งแรกในปีนี้ พบลูกค้าใหม่ 1.6 แสนบัญชี ในจำนวนนี้แบ่งเป็นเป็นการกู้ของลูกค้าเจนวายถึง 50% เพิ่มขึ้นจาก 46% และ 40% จากปี 2558 และปี 2557 ตามลำดับ”

          “ส่วนกลุ่มสินเชื่อรถยนต์ ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีบัญชีใหม่ 6.3 แสนบัญชี เป็นลูกค้าเจนวาย 43% เพิ่มขึ้นจาก 2 ปีก่อน คือ 41% และ 38% ตามลำดับ ขณะที่สินเชื่อบัตรเครดิตมีลูกค้าใหม่ 1 ล้านบัญชีนี้ พบว่าเป็นกลุ่มเจนวายถึง 53% เพิ่มขึ้นจาก 50% ในปีที่ผ่านมา”ข้อมูลระบุประหนึ่งว่าคนเจนวาย กำลังเป็นกลุ่มสร้างหนี้และพึงระวังหนี้เสียในสินเชื่อทุกประเภท

          มันจะเป็นเพราะชั้นเชิงการขาย โปรโมชั่น หรือความต้องการเชิงปัจเจกที่ทำให้ตัวเลขหนี้พุ่งสูงขึ้นก็มิอาจทราบได้

          “ไพโรจน์” (สงวนนามสกุล)ที่ปรึกษาสายด่วนชมรมหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ให้ความเห็นอีกด้านหนึ่งว่า จากประสบการณ์ให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์ พบว่า เจนวายกำลังประสบปัญหาด้านการเงินเพิ่มสูงขึ้นจริงๆ โดยเฉลี่ยจะมีการโทรเข้ามาสัปดาห์ละ 5-10 ราย

          “สาเหตุส่วนใหญ่ที่เก็บข้อมูลมานั้น มาจากการไม่มีวินัยและไม่มีความรู้ด้านการเงิน มีพฤติกรรมใช้เงินในลักษณะใช้ก่อน-จ่ายทีหลัง มีบัตรเครดิต-บัตรกดเงินสด มากกว่า 3-4 ใบ ทำให้ไม่สามารถบริหารหนี้ได้ เอาตัวรอดเพียงการจ่ายเงินขั้นต่ำตามวงเงินในแต่ละเดือน” อาสาสมัครสายด่วนชมรมหนี้ให้ความเห็น

          กลายเป็นว่ากลุ่มคนเจนวายที่กำลังเติบโตขึ้นอยู่ในวัยที่มีภาระต้องใช้จ่าย ในขณะเดียวกันคนกลุ่มนี้กลับไม่มีประสบการณ์ทางการเงิน ขาดการวางแผนใช้เงิน คิดว่าตนเองสามารถบริหารหนี้ได้ แต่ความเป็นจริงมีหลายรายที่กลับทำสิ่งตรงกันข้าม

          “เขาไม่รู้เลยว่า เงินเดือนออกมาต้องวางแผนอะไรบ้าง คิดว่า บัตรเครดิตเหมือนบัตรเอทีเอ็ม ใช้ก่อน-ค่อยหามาจ่ายทีหลัง ทั้งที่มีการเสียดอกเบี้ยถึงร้อยละ 20 ในกรณีที่จ่ายไม่เต็มจำนวน หรือบัตรกดเงินสดก็จะมีอัตราดอกเบี้ยมากกว่านั้นคือราวๆ 28% กลายเป็นใช้บัตรหนึ่ง เพื่อหาทางปิดอีกบัตรหนึ่ง”

          เจนวาย จ่ายง่ายจริงหรือ

          ถ้าคนเจนวาย คือ ผู้ที่มีอายุ 19-36 ปี คนวัยนี้จึงครอบคลุมทั้งกลุ่มนักศึกษา (อายุ 19-23ปี) คนเริ่มต้นทำงาน (อายุ 24-29 ปี) ไปจนถึงคนทำงานสักระยะหนึ่งที่กำลังสร้างฐานะครอบครัว (30-36 ปี) ถึงเช่นนั้นสถิติผู้เป็นหนี้ที่สูงขึ้นเชื่อมโยงกับเรื่องเจอเนเรชั่นจริงหรือ ?

          รายงานการวิเคราะห์“Insightกลยุทธ์มัดใจผู้บริโภคGen Y”ของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ อธิบายตอนหนึ่งถึงลักษณะของคนกลุ่มนี้ว่า ผู้บริโภคกลุ่มนี้มีขนาดใหญ่ที่สุด และมีแนวโน้มว่า จะยังคงมีขนาดใหญ่กว่าเจเนอเรชั่นอื่นๆ ในอนาคตอีกด้วย และถึงแม้จะเทียบกันในช่วงเวลาเกิดกับคนกลุ่มอื่น กลุ่ม Gen Y ก็ยังมีขนาดประชากรใหญ่กว่าเจเนอเรชั่นก่อนหน้าอยู่ดี ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะอัตราการเกิดของประชากรทั่วโลกเริ่มจะชะลอตัวลง ทำให้เจนวายมีแนวโน้มที่จะเป็นผู้บริโภคกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด

          “ในประเทศไทย เมื่อเทียบกับเจเนอเรชั่นอื่นๆ คนกลุ่มนี้มักมีรายได้สูงทั้งที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว และมีแนวโน้มที่จะมีอัตราการใช้จ่ายสูงเมื่อเทียบกับคนรุ่นก่อน ดังนั้นเมื่อคำนึงถึงขนาดและศักยภาพในการใช้จ่ายแล้ว ตลาดบริโภคนี้จึงสำคัญ”

          เมื่อมีคนจำนวนมาก-จำนวนการสั่งซื้อก็ยิ่งมาก แต่ก็ไม่ใช่เจนวายทุกคนที่พร้อมจะซื้อและเป็นหนี้เหมือนกันหมด นั่นเพราะคนกลุ่มนี้มีลักษณะการซื้อและความสนใจเฉพาะตัว

          ครีเอทีฟระดับซีเนียร์รายหนึ่งในวงการเอเยนซีโฆษณายืนยันว่า เจนวายชอบอะไรที่เป็นแบบเฉพาะตัว การสื่อสารต้องเป็นไปในลักษณะเฉพาะตัวด้วยเช่นกัน และสำหรับนักโฆษณาแล้ว เขาไม่ใช่มองแค่การเป็นเจนวาย แต่ต้องมองถึงเจนวายที่เป็นนักศึกษา เจนวายนักบิน เจนวายสตาร์ทอัพ แล้วค่อยแยกเรื่องที่จะพูด พร้อมๆ กับเสนอสินค้าและโปรโมชั่น ผ่านมีเดียที่คนกลุ่มนี้ใช้เป็นประจำ

          “มันต้องไม่เฟค (Fake) แต่ต้องจริงใจ ใส่ใจ และทำให้เห็นว่าชีวิตเขาจะดีขึ้นอย่างไร หากได้รับบริการนี้ และถ้ายังไม่ซื้อทันที ก็อย่าเพิ่งไปตื๊อ แต่ต้องหาวิธีที่เหมาะสม จนกว่าเขาจะตัดสินใจ” เขายืนยัน

          ขณะที่อนงค์ลักษณ์ ทรงประโคนผู้ก่อตั้งบริษัท คลิกคอนโด จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ ฉายภาพเจนวายในมุมอสังหาฯ ว่า คนเจนวายมีอัตราการการซื้ออสังหาริมทรัพย์ และยอมเป็นหนี้สูงขึ้นก็จริง แต่ก็ไม่ได้ซื้อเยอะ ซื้อมาก ในความหมายของการสิ้นเปลือง แต่พวกเขาซื้อเพราะเป็นหนึ่งในแผนการของชีวิตที่อยากจะสร้างอนาคต สร้างครอบครัว มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง

          “ไม่ใช่การซื้อเพราะสิ้นเปลือง เหมือนเครื่องประดับ อุปกรณ์ไอที แต่คนอายุประมาณนี้เขาซื้อเพื่อลงหลักปักฐาน ทำงานสักพัก มีความคิดก้าวหน้า เขาก็อยากสร้างหลักฐานเร็วๆ อยากยืนด้วยตัวเองเร็วๆ ส่วนถ้าเป็นพวกเก็งกำไรจะมีเจนวายเป็นส่วนน้อยมาก อาจจะเป็นคนที่อายุ 35 ขึ้นไป ที่พอมีความพร้อมด้านเศรษฐกิจ” ตัวแทนอสังหาฯ กล่าว

          เรื่องเจนวาย โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง

          นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนเจนวาย กลายเป็นประเด็นทางสังคม เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาก็โดนจับตามองในมิติอื่นๆมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่มีอัตราการแต่งงานต่ำ เปลี่ยนงานบ่อย มีความเป็นตัวเองสูง จนอาจสร้างความหนักใจให้กับคนเจนก่อนหน้าที่มีความสัมพันธ์กันทั้งในรูปแบบของสมาชิกในครอบครัวหรือหัวหน้างาน

          ศ.ดร.ภูเบศร์ สมุทรจักรรองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ สถาบันประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งศึกษาวิจัยพฤติกรรมของกลุ่มเจนวายมาโดยตลอด บอกว่า คนเจนวายมีลักษณะเช่นนั้นจริงๆ แต่ไม่ใช่ความผิดที่ต้องโทษใคร และถ้าปัญหาอยู่ตรงไหนก็ไปแก้ตรงนั้นจะดีกว่าที่จะมาโทษว่าเป็นเพราะช่วงวัย

          “ถ้าคนรุ่นก่อนมีความคิดจะทำงานแล้วซื้อบ้านค่อยซื้อรถ แต่ถ้าเป็นคนเจนวายเขาคิดจะทำพร้อมๆ กัน เพราะเขาคิดว่ามันจำเป็น คุ้มค่า และเป็นการแสดงถึงความอยากที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตเร็วๆ”

          ความต้องการมีมาก..คงไม่เถียง แต่อีกด้านหนึ่งการศึกษาและเทคโนโลยีก็ช่วยให้คนกลุ่มนี้มีการศึกษาสูงเช่นกัน ข้อมูลทางวิชาการบอกไว้ว่าคนเจนวายมีรายได้มากกว่าคนรุ่นเดิม บางคนมีเงินเดือนประจำ บางคนเป็นฟรีแลนซ์ อีกไม่น้อยทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งทั้งหมดมันเป็นตัวแปรสำคัญที่จะยกฐานะของประเทศให้สูงขึ้น จากรายได้ปานกลางระดับล่างสู่ปานกลางระดับสูง และทำให้ชนชั้นกลางในประเทศมีจำนวนมากขึ้น

          “พวกเขาคาดหวังชีวิตไว้สูง และไม่ใช่แค่ทำงาน และกลับบ้าน แต่เขาคิดถึงการมีชีวิตที่สมดุล ระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว เขาไม่ต้องรอถึงเกษียณแล้วไปต่างประเทศ แต่คนกลุ่มนี้มองเรื่องการใช้ชีวิตตั้งแต่ช่วงนี้เลยด้วยซ้ำ”ศ.ดร.ภูเบศร์นักวิจัยที่ศึกษาประชากรเจนวายบอก และว่า เมื่อฐานตลาดมีพฤติกรรมดังกล่าว จึงเป็นเรื่องธรรมดาของบรรดาธุรกิจ รวมถึงบริษัทสินเชื่อที่พร้อมจะกระโจนเข้ามาจับกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ โดยที่บางครั้งแทบไม่ได้มองถึงความเป็นไปได้ในการผ่อนชำระด้วยซ้ำ

          “เขามาตั้งบูธที่ด้านล่างออฟฟิศเลยครับ บอกว่าไม่ต้องใช้หลักฐานอะไรมาก แค่บัตรประชาชนกับมีสลิปเงินเดือนย้อนหลัง3-4เดือน ไม่เกิน1สัปดาห์เขาก็อนุมัติและส่งบัตรมาให้ถึงบ้าน”เจนวายรายหนึ่งซึ่งเพิ่งเริ่มงานได้ไม่นาน เล่าถึงประสบการณ์ทำบัตรเครดิตใบแรกเมื่อไม่กี่เดือนก่อน

          ไม่มีใครรู้หรอกว่าเขาจะใช้บัตรนี้ไปกับอะไรบ้าง!

 

ที่มา: www.bangkokbiznews.com