เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » รายการเกร็ดน่ารู้ » รายละเอียดเกร็ดน่ารู้

เกร็ดน่ารู้ เรื่อง ผ่า 6 เทรนด์ แม่เจนเอ็มเจาะพฤติกรรมสู่การตลาด




          ไตรลุจน์ นวะมะรัตน นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) กล่าวว่า เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ทำให้การใช้ชีวิตของผู้บริโภคในแต่ละวันมีการเปลี่ยนแปลงไป เช่น การถ่ายรูปอาหารก่อนรับประทาน และการเลือกรับข้อมูลข่าวสารจากช่วงไพรม์ไทม์ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ผู้บริโภคจะรับข้อมูลข่าวสารมากที่สุดเป็นช่วงมายไทม์ คือผู้บริโภคสามารถเลือกเวลาในการรับข้อมูลข่าวสารในเวลาไหนก็ได้

          จากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคที่อยู่ในสถานะแม่ โดยเฉพาะแม่ใน กลุ่มเจนเอ็ม (GEN M) หรือ Millennial MOM ที่มีอายุระหว่าง 21-35 ปี ในยุคนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากแม่ในยุคก่อนๆ คือหันมาให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีช่วยในการเลี้ยงลูกมากขึ้น

          ด้วยเหตุปัจจัยดังกล่าว สถาบันอาร์แอลจีจึงได้มีการนำเสนอ 6 แนวโน้ม หรือเทรนด์ของแม่เจนเอ็ม ที่สรุปได้จากการทำวิจัยกลุ่มตัวอย่างแม่ไทยทั่วประเทศจำนวนกว่า 2,000 คน โดยวิธีการสำรวจทัศนคติเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพจากช่องทางออนไลน์เพื่อศึกษาพฤติกรรม

          พิมพ์ฐณัช ภฐณวาณิชกุล ผู้จัดการศูนย์วิจัย สถาบันอาร์แอลจี กล่าวว่า จากผลการศึกษาพฤติกรรมของแม่ GEN M พบว่า มีทัศนคติต่อการเลี้ยงลูกในปัจจุบันที่น่าสนใจ และสามารถสรุปเป็นเทรนด์ได้ 6 เรื่อง คือ 1.wOMOM Phenomenon จะเป็น "ผู้หญิง" หรือเป็น "แม่" ฉันก็ยังคงเป็นตัวเองนี่แหละ กล่าวคือ แม่ยุคปัจจุบันไม่ได้มองว่า คนท้องคือคนป่วย แค่มีลูกและยังสามารถทำอะไรต่ออะไรที่เคยทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรือแต่งตัวให้ตัวเองดูดี พร้อมกับรับฟังคำแนะนาจากผู้เชี่ยวชาญในการดูแลตนเอง

          ทั้งนี้ จากผลการศึกษาพบว่า แม่ GEN M มีความต้องการการดูแล น้ำหนักรูปร่างสูงถึง 72% และมีความต้องการที่จะแต่งตัวสวยงามตามแฟชั่นถึง 91% เนื่องจากมองว่าการปฏิบัติตัวดังกล่าวไม่ใช่เรื่องผิด เพราะหากแม่มีความสุขลูกในครรภ์ก็จะมีความสุขไปด้วย

          เทรนด์ที่ 2 คือ 7 to 7 GRAN (nan) NY Hours เรื่องเลี้ยงลูกไว้ใจปู่ย่าตายายที่สุด แม้ว่าแม่ส่วนใหญ่จะเลี้ยงลูกด้วยตนเองคิดเป็นสัดส่วน 45.23% หรือมีคนช่วยเลี้ยงบ้าง 20.93% แต่ถ้าถามถึงคนที่ไว้ใจให้ดูแลลูก แม่ร้อยละ 82.08 ตอบว่า ปู่ย่าตายาย ซึ่งคำตอบดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของปู่ย่าตายายที่มีความหมายถึงความปลอดภัยและมีความอุ่นใจเมื่อลูกอยู่กับปู่ย่ามากกว่าญาติคนอื่นๆ

          สำหรับเทรนด์ที่ 3 คือ No Rule is New Rule แม่ไม่ได้แหกกฎ แค่เปลี่ยนบริบทของคำว่า "ดีที่สุด" เนื่องจากแม่ GEN M มองโลกอย่างเข้าใจ และยอมรับความเป็นไปของโลก เข้าใจถึงความแตกต่างของคนแต่ละคน ทำให้แม่เข้าใจว่าการเป็นแม่ไม่ได้หมายถึงความสมบูรณ์แบบเสมอไป มีการเปิดกว้างมากขึ้นและยอมรับในสิ่งที่แม่ทำและแม่เป็น

          ขณะที่เทรนด์ที่ 4 คือ TAKE IT EASY Theory แม่สายชิล สบาย…สบาย เพราะได้ตัวช่วยเพียบ เนื่องจากแม่สมัยใหม่ใช้วิธีเลี้ยงลูกแบบที่ลูกไม่รู้สึกว่าถูกจับผิด หรือควบคุมจนลูกอึดอัด จึงทำให้แม่เจนนี้เลี้ยงลูกเหมือนเป็นเพื่อนกัน คือ เน้นการให้อิสระตามความเหมาะสมกับวัยและสภาพแวดล้อม

          ในส่วนเทรนด์ที่ 5 คือ INTERNET OF "mother" THINGS แม่ 4จี เอาอยู่ทุกสถานการณ์ ทั้งนี้เป็นเพราะแม่ยุค 4จี จะสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับตัวเองผ่านเทคโนโลยี เพื่อช่วยลดภาระบางอย่าง และเพิ่มความสะดวกสบาย รวมไปถึงเวลาให้กับตัวเองและครอบครัว จึงทำให้ 1 ใน 4 ของแม่บอกว่าอยากจะลองซื้อของใช้ทางอินเทอร์เน็ต เพื่อประหยัดเวลาเดินทางไปร้าน

          ปิดท้ายเทรนด์ที่ 6 คือ TRANS- PARENT Culture สังคมแม่ยุคใหม่ไร้พรมแดน เนื่องจากแม่ 86% ชื่นชอบที่จะพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และปรึกษาปัญหากับแม่คนอื่นๆ โดย 80% แม่ Gen M อ่านรีวิวความคิดเห็นจากแม่คนอื่นๆ ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าสำหรับลูก

          จากผลวิจัยดังกล่าว หากนักการตลาดมีการศึกษาพฤติกรรมของแม่ Gen M ไม่ว่าจะเป็นแนวความคิดที่เปลี่ยนไป หรือความเป็นอิสระ ก็จะทำให้นักการตลาดค้นพบกลยุทธ์ในการวางแผนการตลาดที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ยิ่งถ้าทำให้ช่วยแม่ Gen M สามารถประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่าย ช่วยทำชีวิตให้ง่ายขึ้น และทำให้รู้สึกว่าเป็นคนดี เป็นแม่ที่ดี ยิ่งน่าจะทำให้สินค้าและบริการนั้นๆ ได้รับความสนใจมากขึ้น

 

ที่มา : www.posttoday.com วันที่ 14 กันยายน 2559