เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » รายการเกร็ดน่ารู้ » รายละเอียดเกร็ดน่ารู้

เกร็ดน่ารู้ เรื่อง คอลัมน์: iheart: เลี้ยงหมูหลุมอินทรีย์คุณภาพดีราคาสูง




          สุพจน์ สิงห์โตศรี เจ้าของฟาร์มหมูหลุมอินทรีย์และผลิตภัณฑ์หมูหลุมอินทรีย์ แบรนด์ G-Pork อธิบายเกี่ยวกับหมูหลุมอินทรีย์ให้ฟังว่า หมายถึงหมูที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ ใช้วิธีขุดหลุม รองพื้นคอกด้วยแกลบ แล้วใช้จุลินทรีย์ที่หมักจากวัสดุธรรมชาติราดทับและใช้ผสมน้ำให้หมูดื่มเพื่อช่วยขจัดกลิ่น

          "อาหารที่หมูกินจะมีส่วนผสมของวัตถุดิบธรรมชาติในท้องถิ่น ไม่ต้องมีน้ำเสียจากการล้างคอกจึงตัดวงจรแมลงวันออกไปทำให้หมูอารมณ์ดี สร้างภูมิคุ้มกันได้เองไม่ต้องใช้วัคซีนหรือยาปฏิชีวนะ เนื้อหมูที่ได้ก็คุณภาพดี ไม่มีกลิ่นคาวและไม่ส่งกลิ่นรบกวน ต่างจากการเลี้ยงหมูทั่วไปที่หมูต้องใช้ชีวิตอยู่ในคอกปูน ต้องทนร้อน แถมยังต้องสูดดมกลิ่นไนโตรเจนของมูลตัวเองตลอด 120 วัน ทำให้ปอดเป็นจุดป่วยง่าย จึงต้องฉีดวัคซีนและยาปฏิชีวนะ"

          เจ้าของฟาร์มหมูหลุมอินทรีย์แบรนด์ G-Pork ให้ข้อมูลต่อว่า หมูที่ถูกเลี้ยงในฟาร์มปิด เมื่อผ่าซากดูจะเจอจุดที่เรียกว่าจุดวิกาฬในตับและปอดอันเป็นสิ่งที่บ่งบอกกลิ่นเหม็น แต่ในหมูหลุมหายไป 6 เท่า หากเทียบกับหมูในระบบฟาร์ม พร้อมทั้งไม่มีจุด วิกาฬ ปอดและตับจึงใสสะอาด เมื่อหมูคุณภาพดี ก็จะทำให้ขายได้ราคาดีกว่าหมูทั่วไปกิโลละ 20 บาท ขณะที่แกลบรองพื้นกลายเป็นปุ๋ยคอกชั้นดี เพราะมีค่าไนโตรเจนและฟอสฟอรัสสูงกว่าระบบฟาร์มหมูทั่วถึง 4 เท่า สร้างรายได้อีกทาง

          "ปัจจุบันผมมีหมู 300 ตัว เลี้ยงในระบบหมูหลุมทั้งหมด ผลผลิตที่ได้ส่งขายโรงเรียนปัญโญทัย ตลาดสุขใจ โรงแรมสามพราน ริเวอร์ไซด์ และในห้างสรรพสินค้าทั่วไป ภายใต้แบรนด์ G-Pork" สุพจน์ ทิ้งท้าย

 

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 28 กรกฏาคม 2559