เกร็ดน่ารู้ เรื่อง รวยด้วย "ดาวเรือง" ปลูก 20 ไร่กำไร 4 ล้าน
ดลมนัส กาเจ
ปัจจุบัน "ดาวเรือง" กำลังเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย ในแต่ละปีสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรถึง 2,000 ล้านบาท อย่างเกษตรกรชาวโคราช "สุภิญโญ ใจมั่น" วัย 49 ปี จาก ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ปลูกในพื้นที่ 20 ไร่ สร้างรายได้หักต้นทุนแล้วกำไรไร่ละ 1 แสนบาทต่อรุ่น ทำให้แต่ละปีมีรายได้สุทธิถึง 4 ล้านบาท สายพันธุ์ลูกผสมได้รับความนิยมมากที่สุด
สุภิญโญ บอกว่า เดิมเคยปลูกมะม่วง และรับซื้อมะม่วงด้วย แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงหันมาทดลองปลูกดาวเรืองในพื้นที่ 5 ไร่ เมื่อ 15 ปีก่อน ครั้งแรกไปเอาเมล็ดพันธุ์มาจากปากคลองตลาด ต่อมาบริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด ให้ทดลองนำเมล็ดพันธุ์ดาวเรืองลูกผสม "เทวี" ตรา "ศรแดง" มาปลูก พบว่าให้ผลผลิตดี ให้ดอกใหญ่ ออกดอกต่อเนื่อง ไม่ขาดรุ่นแม้ในฤดูแล้ง ลักษณะเด่นคือ ดอกมีสีทองเข้มสวย เป็นที่นิยมในตลาดอย่างมาก ทำให้ครอบครัวของมีรายได้เพิ่มขึ้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่พลิกชีวิตทำให้ประสบความสำเร็จ และขยายพื้นที่ปลูกเพิ่ม 20 ไร่
การปลูกดาวเรืองนั้น ภิญโญบอกว่า พื้นที่ 1 ไร่ จะปลูกได้ 4,000 ต้น ใน 1 ปีสามารถปลูกได้ 2 รอบ ใช้เวลาต่อรอบ 4 เดือน รอบแรกปลูกเดือนมีนาคม จากนั้นให้พักดินอีก 4 เดือน โดยนำพืชชนิดอื่นมาปลูก เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พืชเหล่านี้จะช่วยดูดซับสารเคมีตกค้างในดินขึ้นมา ทำให้ดินกลับมาสมบูรณ์ จึงเริ่มปลูกดาวเรืองในฤดูกาลใหม่ในเดือนพฤศจิกายน หลังจากปลูกได้ 2 เดือน ดอกก็จะโตเต็มที่ สามารถตัดดอกขายได้ ต้นดาวเรือง 1 ต้น จะเก็บไว้ 4 แขนง และจะแตกออกเป็น 8 กิ่ง เท่ากับ 1 ต้น จะได้ 8 ดอก เมื่อตัดดอกออกจะแตกเพิ่มอีก 1 เท่าตัว เป็น 16 ดอก และเพิ่มเป็นทวีคูณเรื่อยๆ ทุกกิ่งทุกแขนงจนกว่าจะครบ 2 เดือน จึงตัดทิ้งพักดินเพื่อปลูกใหม่ เฉลี่ยแล้ว 1 ต้นจะได้ 25-30 ดอก
อย่างไรก็ตาม การปลูกดาวเรืองนั้น จะเริ่มที่เตรียมพื้นที่ปลูก โดยไถกลบหน้าดิน ตากดินให้แห้งเพื่อฆ่าเชื้อโรค ปรับดินให้ละเอียด เพาะต้นกล้าในถาด โดยดินผสมกับวัสดุเพาะ เช่น ปุ๋ยคอก ขุยมะพร้าว ขี้เถ้าแกลบ ใช้เพาะ 7-10 วัน ก็สามารถนำมาลงหลุมปลูกได้ ใช้เงินทุนทั้งฤดูกาล 2-3 หมื่นบาท ปัจจุบันปลูกทั้งหมด 8 หมื่นต้น ตัดดอกช่วงเช้า ตัดวันเว้นวัน จะได้ดอกครั้งละประมาณ 2 แสนดอก 1 รอบจะตัดได้ 30 ครั้ง ขายในราคาตั้งแต่ดอกละ 0.8-1.5 บาท หักต้นทุนแล้วจะเหลือกำไรไร่ละ 1 แสนบาท
ด้าน อิสระ วงศ์อินทร์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด ผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ตราศรแดง บอกว่า ปัจจุบันตลาดเมล็ดพันธุ์ดาวเรืองมีมูลค่าราว 80 ล้านบาท หรือ 320 กิโลกรัมต่อปี แบ่งเป็นการจำหน่ายเพื่อการพาณิชย์เป็นดาวเรืองตัดดอกร้อยละ 90 ส่วนที่เหลือเป็นดาวเรืองกระถางที่ใช้เพื่อการประดับตกแต่งตามบ้านพักอาศัยและเทศกาลต่างๆ
สำหรับเมล็ดพันธุ์ดาวเรืองตัดดอกมีการใช้จำนวน 290 กิโลกรัมต่อปีนั้นจะถูกส่งขายในประเทศประมาณ 10 ล้านดอกต่อวัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 98 และส่งออกต่างประเทศ 2 แสนดอกต่อวัน หรือร้อยละ 2 โดยเมล็ดดาวเรือง 1 กิโลกรัม มี 3 แสนเมล็ด ใน 1 เมล็ดจะให้ดอก 25-30 ดอก โดยเฉลี่ยราคาขั้นต่ำดอกละ 0.7-0.8 บาท หากคำนวณดูคร่าวๆ แล้วมูลค่าของดาวเรืองในปัจจุบันสูงถึง 2,000 ล้านบาทต่อปี
"ตอนนี้มีเกษตรกรนิยมหันมาปลูกดาวเรืองมากขึ้น เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคาดอกดาวเรืองขนาดจัมโบ้เคยได้ราคาถึงดอกละ 1.80 บาท ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรอย่างงดงาม ส่วนเมล็ดพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ดอกดาวเรืองลูกผสมพันธุ์ "เทวี" ซึ่งมีดอกขนาดใหญ่พิเศษ สีทองโดดเด่นตามความต้องการตลาด ดอกมีขนาดใหญ่จัมโบ้ ให้ดอกดกต่อเนื่องจำนวนมาก และคุณภาพดีแม้ในสภาพอากาศแล้ง จึงเป็นที่นิยมปลูกมากที่สุด" อิสระ กล่าว
นับเป็นพืชเศรษฐกิจที่น่าสนใจอีกชนิดหนึ่ง หากต้องการรายละเอียด สามารถศึกษาข้อมูลจาก สุภิญโญ ใจมั่น ที่โทร.08-4962-1649
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก วันที่ 21 กรกฎาคม 2559 หน้า 6
