เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » รายการเกร็ดน่ารู้ » รายละเอียดเกร็ดน่ารู้

เกร็ดน่ารู้ เรื่อง เกษตรกรหันมาปลูกดาวเรือง สร้างรายได้หลักล้าน




          ปัจจุบันตลาดเมล็ดพันธุ์ดาวเรืองมีมูลค่าประมาณ 80 ล้านบาท หรือ 320 กิโลกรัมต่อปี โดยแบ่งเป็นการจำหน่ายเพื่อการพาณิชย์เป็นดาวเรืองตัดดอกร้อยละ 90 ส่วนที่เหลือเป็นดาวเรืองกระถางที่ใช้เพื่อการประดับตกแต่งตามบ้านพักอาศัยและเทศกาลต่างๆ และสำหรับเมล็ดพันธุ์ดาวเรืองตัดดอกจำนวน 290 กิโลกรัมต่อปี จะถูกส่งขายในประเทศประมาณ 10 ล้านดอกต่อวัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 98 และส่งออกต่างประเทศ 2 แสนดอกต่อวัน หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2 โดยศรแดง เปิดเผยว่า พันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ดอกดาวเรืองลูกผสมพันธุ์ "เทวี" ซึ่งมีดอกขนาดใหญ่พิเศษ สีทองโดดเด่นตามความต้องการตลาด ตัวดอกมีขนาดใหญ่จัมโบ้ ให้ดอกดกต่อเนื่องจำนวนมาก และคุณภาพดีแม้ในสภาพอากาศแล้ง ยังสามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกได้เป็นอย่างดี

          ด้านเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จจากการปลูกดาวเรือง คือ นายสุภิญโญ ใจมั่น อายุ 49 ปี ชาวโคราชได้หันมาทดลองปลูกดาวเรืองเพราะเห็นว่ากำไรดีเริ่มปลูกครั้งแรกโดยการซื้อเมล็ดพันธุ์มาจากปากคลองตลาด ต่อมา "ศรแดง" ได้นำเมล็ดพันธุ์ดาวเรืองลูกผสม "เทวี" มาให้ทดลองปลูก พบว่าให้ผลผลิตดี ดอกดก ให้ดอกใหญ่ ต่อเนื่อง ไม่ขาดรุ่น โดยนายสุภิญโญปลูกดาวเรืองจำนวน 20 ไร่ ปลูกมาแล้วเกือบ 15 ปี สร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ

          "เราทำไร่ดาวเรืองครั้งแรกเริ่มแค่ 5 ไร่เพราะกลัวจะขาดทุน แต่พอทำแล้วผลออกมาดี ก็ขยายขนาดขึ้นมาเรื่อยๆ จนปัจจุบันปลูกทั้งหมด 20 ไร่ ใช้เวลาปลูกต่อปีไม่นาน เริ่มจากเพาะกล้าลงดินก่อนรวมระยะเวลาประมาณ 2 เดือน ดอกก็จะโตเต็มที่ตัดได้แล้ว และสามารถตัดดอกที่ออกมาใหม่เรื่อยๆ ได้อีกประมาณ 2 เดือน หรือประมาณ 20 มีด หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และการเจริญเติบโต

          ถ้าเราดูแลดีก็จะได้ผลผลิตดี ส่วนการตัดเราจะตัดดอกประมาณ 2 วันครั้ง หนึ่งมีดจะได้ดอกประมาณ 140,000 ถึง 150,000 ซึ่งพันธุ์นี้จะให้ดอกดกมาก และเป็นที่ต้องการของตลาด ราคาจะอยู่ที่ดอกละ 25 สตางค์ถึง 1 บาท 80 สตางค์ ขึ้นอยู่กับขนาดดอกและช่วงเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาจะสูงมากในช่วงวันพระ ช่วงฤดูหนาว" นายสุภิญโญ กล่าว

          นายสุภิญโญ กล่าวต่อว่า "การปลูกดาวเรืองนั้นเมล็ดพันธุ์ 1 ซอง จะมีประมาณ 1,000 เมล็ด และ 1 ต้นจะให้ดอกขนาดจัมโบ้ ประมาณ 25-30 ดอก หลังจากนั้นดอกจะมีขนาดลดลงเรื่อยๆ โดยเฉลี่ย 1 ต้น สามารถตัดดอกได้กว่า 60 ดอกเลยทีเดียว นับว่าคุ้มค่ามากสำหรับการปลูกดอกดาวเรือง ที่สำคัญใช้เงินลงทุนไม่มากจะมีค่าใช้จ่ายในส่วนของเมล็ดพันธุ์ ค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าแรงคนงานและอื่นๆ ตกอยู่ประมาณ 2-3 หมื่นบาทต่อไร่ อย่างปีนี้รายได้หักค่าใช้จ่ายแล้ว อยู่ที่ประมาณ 1 แสนบาทต่อไร่ นับว่าคุ้มเลยทีเดียว"

          นายอิสระ กล่าวเสริมว่า "นอกจากการจำหน่ายเมล็ดพันธุ์แล้ว ศรแดงยังสนับสนุนเกษตรกร โดยการจัดให้มีบุคลากรเข้าไปดูแลเกษตรกรผู้ใช้เมล็ดพันธุ์ของ "ศรแดง" อย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอนการปลูก เนื่องจากดอกดาวเรืองถือเป็นพืชเศรษฐกิจ มีตลาดรับซื้อตลอดทั้งปีถึง 10 ล้านดอกต่อวัน หรือประมาณ 7.5 ล้านบาทต่อวัน ทำให้ดาวเรืองกลายมาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้เกษตรกรได้นำไปเพาะปลูกเป็นอาชีพซึ่งนับได้ว่าดาวเรืองเป็นพืชเศรษฐกิจชั้นนำ ที่ทำรายได้อย่างมหาศาลให้กับเกษตรกรไทยเลยทีเดียว"

 

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง วันที่ 27 มิถุนายน 2559