เกร็ดน่ารู้ เรื่อง ชาวนาปลูกเตยหอมแทนข้าวชี้ราคาดี-ลงทุนทีเดียวขายยาว10ปี
กำแพงเพชร - ชาวนาหนุ่มใหญ่เมืองกล้วยไข่พลิกผืนนา 10 ไร่ หันปลูกเตยหอม หนีปัญหาราคาข้าวตกต่ำ-ผันผวน บอกทำรายได้ดีกว่า ปลูกครั้งเดียวตัดส่งโรงงานเฉาก๊วย-ทำน้ำสมุนไพรขายได้ทุก 3 เดือนครึ่ง ยาวถึง 10 ปี
กำแพงเพชร - ชาวนาหนุ่มใหญ่เมืองกล้วยไข่พลิกผืนนา 10 ไร่หันทำนาเตยหอม หนีปัญหาราคาข้าวตกต่ำ-ผันผวน บอกทำรายได้ดีกว่า ปลูกครั้งเดียวตัดส่งโรงงานเฉาก๊วย-ทำน้ำสมุนไพรขายได้ทุก 3 เดือนครึ่ง ยาวถึง 10 ปี
หลังสิ้นยุครัฐบาลจำนำข้าวในราคาแพงนำตลาด ทำให้ราคาข้าวตกต่ำ ผันผวนไม่แน่นอน รวมทั้งปัญหาภัยแล้งที่ต่อเนื่องยาวนานในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เกษตรกร ชาวนาหลายท้องที่พยายามพลิกผืนนาปลูกพืชอื่นที่เชื่อว่าได้ราคาดีกว่าข้าว หรือทนแล้ง ใช้น้ำน้อยแทนนั้น
เช่น กรณี นายสมศักดิ์ เอกวัฒน์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 197 หมู่ 6 ต.สระแก้ว อ.เมืองกำแพงเพชร ที่เคยทำนาข้าวมาค่อนชีวิต บอกว่า เปลี่ยนแปลงชีวิตจากเกษตรกรชาวนามาเป็นเกษตรกรปลูกใบเตยหอมแทน เนื่องจากราคาใบเตยในท้องตลาดแพงมาก จึงได้ปรับพื้นที่นามาปลูกใบเตยหอมประมาณ 10 ไร่
นายสมศักดิ์เปิดเผยอีกว่า ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนจากการทำนามาปลูกใบเตยนั้น ตนได้รับคำแนะนำจากนายเสริมวุฒิ สุวรรณโรจน์ เจ้าของบริษัทโรงงานเฉาก๊วย ตราเพชร สินค้าโอทอปชื่อดังของกำแพงเพชร บอกให้ตนหันปลูกต้นใบเตยแทนทำนาข้าว
จากนั้นตนก็มีโอกาสไปดูงานเกี่ยวกับการเพาะปลูกเตยหอมที่สุพรรณบุรี นำความรู้ที่ได้มาปลูกต้นใบเตย โดย 1 ไร่มีค่าใช้จ่ายลงทุนอยู่ที่ประมาณ 50,000 บาท โดยโรงงานเฉาก๊วยเป็นคนออกทุนทั้งหมด ผลผลิตที่ได้จึงส่งขายให้โรงงานเฉาก๊วยชากังราว ไม่ต้องส่งขายไกลบ้าน เป็นการสร้างรายได้สู่ชุมชน
ข้อดีของการทำนาเตยหอม คือลงทุนปลูกครั้งเดียวเก็บเกี่ยวตัดขายได้นานถึง 10 ปี ใบเตยนอกจากสามารถนำไปจำหน่ายสดในท้องตลาดแล้ว ยังได้นำไปเป็นส่วนผสมของเครื่องดื่มสมุนไพรออกจำหน่ายอีกด้วย
นายสมศักดิ์บอกว่า การปลูกใบเตยหอมนั้นเราจะต้องมีพื้นที่ใกล้น้ำค่อนข้างแฉะ มีน้ำหมุนเวียนตลอดปี มีร่มเงารำไรให้ต้นเตยไม่โดนแสงแดดโดยตรง ซึ่งในส่วนของตนได้แบ่งพื้นที่ขุดสระขนาด 2 ไร่เพื่อเก็บกักพักน้ำไว้ไม่ให้แร่สนิมส่งผลเสียต่อต้นใบเตยด้วย
ส่วนการปลูกในพื้นนาก็ต้องเตรียมดินคล้ายกับการทำนา แต่ทำเพียงครั้งเดียวให้พื้นที่เรียบ จากนั้นเตรียมต้นพันธุ์เตยหอมที่มีรากปักลงในแปลง โดยทำเหมือนการดำนา แต่ละต้นห่างกันประมาณ 40 ซม. พร้อมกับคอยสูบน้ำ คอยดูแล และไม่มีการใช้สารเคมี หากมีวัชพืชขึ้นภายในพื้นที่เพาะปลูกตนก็จะใช้คนงานคอยถอนเพื่อจะได้ปลอดสารเคมี รอจนอายุได้ 7 เดือนก็สามารถตัดใบขายได้ จากนั้นทุกๆ 3 เดือนครึ่งจะตัดขายได้ต่อเนื่อง มีเงินหมุนเวียนครั้งละ 2 แสนกว่าบาท
สำหรับใบเตยหอมสามารถนำไปประกอบอาหารคาว หวาน ได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ก็ยังไปประกอบร่วมกับดอกไม้ในการไหว้พระ ซึ่งในตลาดมีความต้องการใบเตยหอมเป็นอย่างมาก สรรพคุณของเตยหอม ใบช่วยดับกระหายเพราะมีกลิ่นหอมเย็น รากและลำต้นใช้เป็นยารักษาโรคเบาหวาน มีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงไร่.
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา วันที่ 27 พฤษภาคม 2559 หน้า 19
