เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » รายการเกร็ดน่ารู้ » รายละเอียดเกร็ดน่ารู้

เกร็ดน่ารู้ เรื่อง เข้าโครงการแก้หนี้นอกระบบกับ ธ.ก.ส.พลิกฟื้นชีวิตด้วยเศรษฐกิจใหม่



tmp_20152307140420_1.jpg


คมสันต์ นันทจักร์

          ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ได้จัดทำโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของเกษตรกรและบุคคลในครัวเรือน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา โดยตั้งวงเงิน 10,000 ล้านบาท เพื่อลดภาระหนี้ของประชาชนที่เกิดจากเหตุสุจริตจำเป็นและเป็นภาระหนักได้มีโอกาสฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพให้เกิดความเข้มแข็งตลอดจนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจนสามารถดำรงชีพได้อย่างเป็นปกิตสุข โดย ธ.ก.ส.ได้กำหนดวงเงินกู้ต่อรายไม่เกิน 100,000 บาท อัตรา ดอกเบี้ยร้อยละ 12 ต่อปี

          และเพื่อเป็นการดูแลลูกค้าให้สามารถฟื้นฟูอาชีพได้อย่างยั่งยืน รวมถึงป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจากการตกเป็นหนี้มิให้ตกเป็นภาระของครอบครัว ธ.ก.ส. ได้จัดทำประกันสินเชื่อเงินฝากสงเคราะห์ชีวิตให้แก่ลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการทุกราย ในวงเงินประกัน ไม่เกินรายละ 100,000 บาท ตลอดอายุสัญญา หรือจนกว่าจะชำระหนี้เสร็จ พร้อมกำหนดให้ผู้กู้ต้องเข้ารับการอบรมผื้นผูหลักสูตรบริหารทุนและหนี้ เพื่อปรับแนวคิดในการดำเนินชีวิต เช่นมีการจัดทำบัญชีครัวเรือน เพื่อเป็นแนวทางลดค่าใช้จ่ายและออมเงินเพื่อสร้างฐานะ รวมถึงสามารถชำระหนี้ได้และหยักสูตรการสร้างรายได้ เพื่อสนับสนุนให้ ประกอบอาชีพที่เหมาะสมตามภูมิสังคมและมีรายได้พอเพียง รวมถึงมีเงินเหลือออมโดย ธ.ก.ส. จะจัดอบรมให้สำหรับรายที่พิจารณาแล้วว่ามีปัญหาในการประกอบอาชีพ

          ดร.พัชร์วิสุทธิ์ และ ดร.สวงค์ พุทธิเนตร คู่สามีภรรยานักวิจัย ขาวต่างจังหวัดอำนาจเจริญ ประสบปัญหากับครอบครัวจนทำให้มีหนี้สินล้นพ้นแทบจะหาทางออกไม่เจอจนกระทั่งได้ข่าวว่า ธ.ก.ส. เปิดโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบขึ้น จึงได้ปรึกษาที่ ธ.ก.ส. สาขาอำนาจเจริญว่า จะสามารถดำเนินการอย่างไรบ้านเพื่อปลดเปลื้องภาระหนี้สินที่มีอยู่และสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้ง โดยทาง ธ.ก.ส. สาขาอำนาจเจริญได้รับเข้าโครงการนี้และนำไปอบรมเพื่อพัฒนาและฟื้นฟูอาชีพให้แก่ลูกค้าทั้งสอง

          จนกระทั่งลูกค้าไดัพบ กับเครือข่ายเกษตรกรและพืชชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า "ดาวอินคา" ซึ่งเป็นพืชจากอะเมซอน

          ของชาวเปรู พืชชนิดนี้เติบโตในอากาศ 10C - 30C เจริญเติบโตในระดับความสูงตั้งแต่ 70 เมตร (ป่าต่ำ) ถึง 2,000 เมตร (ป่าสูง) ช่วงชีวิตดาวอินคามีอายุ 20-50 ปี  มีผลเหมือนดาว เมื่อสกัดเมล็ดจะมีน้ำมัน หลังจากสกัดแล้วจะได้แป้งและน้ำตาลที่มีคุณค่าทางชีวภาพสูง มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีโอเมก้า 3, 6, 9 วิตามิน A และ E สามารถนำไปทำผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง เช่นยารักษาโรค เครื่องสำอาง เครื่องดื่ม ซึ่งผลผลิตจากการปลูกพืชชนิดนี้จะมีคู่สัญญาคือบริษัทไทยจีนกรีนเอนเนอร์จี (ประเทศไทย) จำกัดรับซื้อผลผลิตจากประเทศไทยทั้งหมดเพื่อส่งไปยังโรงงานที่เมืองสิบสองปันนา มณฑลยูนาน ประเทศจีน โดยบริษัทจะทำสัญญากับเหษตรกรผู้ปลูกอายุสัญญา 20 ปี ปรับราคาทุก 5 ปี เป็นพืชที่ปลูกง่าย ให้ผลผลิตเร็วใน 7-8 เดือน ปลูกครั้งเดียว อายุ 20-50 ปี ไม่ต้องลงทุนซ้ำ สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเป็นอย่างดี

          โดยขณะนี้ ดร.พัชร์วิสุทธิ์ และ ดร.สวงค์ อยู่ในระหว่างปลูกนำร่องจำนวน 1,250 ต้น บนแปลงวิจัยซึ่งสามารถเก็บผลผลิตได้แล้วในขณะนี้ถึง 10 กิโลกรัม ต่อเดือน ต่อต้น ส่งขายทั้งหมดในราคา รับประกันที่กิโลกรัมละ 40 บาท ซึ่งในระยะแรกจะต้องส่งผลผลิตทั้งหมดให้กับบริษัทตามสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้ แต่ทั้งนี้ก็ยังได้นำใบที่มีสรรพคุณทางยาสูงเช่นเดียวกับเมล็ดมาผลิตเป็นชาสำหรับชงดื่มด้วยและมีผู้สนใจเป็นจำนวนมาก รวมทั้งพยายามสร้างเครือข่ายเพื่อให้เกษตรกรเห็นความสำคัญและสามารถสร้างรายได้เสริมโดยปลูกไว้ตามหัวไร่ ปลายนา เนื่องจากไม่ต้องลงทุนทำการผลิตมากมายแต่อย่างใด

          เกษตรกรหรือผู้ที่สนใจปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ "ดาวอินคา" เพื่อทำเป็นอาชีพหลักหรือประกอบอาชีพเสริม สามารถติดต่อดร.สวงค์ และ ดร.พัชร์วิสุทธ์ พุทธิเนตร เลขที่ 58/4-5 หมู่ 12 ต.บุ่ง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ โทร. 08-1790-5560 และ 09-3464-5352

          และเกษตรกรหรือประชาชนทั่วไปที่ต้องการปลดเปลื้องหนี้สินนอกระบบเพื่อสร้างชีวิตใหม่สามารถติดต่อ ธ.ก.ส.ทุกสาขาทั่วประเทศ พร้อมยินดีให้คำแนะนำและช่วยเหลืออย่างเต็มที่

          วิสัยทัศน์ ธ.ก.ส. : "เป็นธนาคารพัฒนาชนบทที่มั่นคง มีการจัดการที่ทันสมัย ให้บริการทางการเงินครบวงจร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร"

ที่มา : เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 17 เม.ย. 2558