เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » รายการเกร็ดน่ารู้ » รายละเอียดเกร็ดน่ารู้

เกร็ดน่ารู้ เรื่อง ผู้หญิงสมัยใหม่ต้องดูแลได้ทุกอย่าง



tmp_20151407114542_1.jpg


             หนูดี วนิษา อัจฉริยะสร้างได้

             ไม่ง่ายเลยนะคะเป็นสาวทำงานสมัยนี้ เพราะโลกยุคใหม่หลังจากผู้หญิงได้ลุกขึ้นเรียกร้องสิทธิจนเราได้สิทธิ "เท่าเทียม" กับผู้ชายแล้วผลที่ตามมาก็คือ ผู้หญิงหลายคนเลือกจะทำให้ได้ครบทั้งหน้าที่สาวโบราณ คือ ทำอาหาร ดูแลบ้าน เลี้ยงลูก และหน้าที่สาวยุคใหม่คือ ทำงานออฟฟิศ ก่อตั้งบริษัท เรียนกันสูงๆ จบปริญญาโท ปริญญาเอก เรียกได้ว่า ผู้หญิงก้าวออกมาจากโลกในบ้าน/หลังบ้าน มาสู่โลกของผู้ชายอย่างสง่าผ่าเผย หลายคนทำหน้าที่นี้ได้ไม่แพ้ผู้ชาย แง่ดีมีมากมายแต่แง่ที่ติดมาก็คือ "ความเครียด" ที่เพิ่มตามมาแบบไม่รู้ตัว ทั้งต้องห่วงหน้าพะวงหลัง งานก็ต้องทำให้ได้ดี ที่บ้านก็ต้องไม่ขาดตกบกพร่อง สาวๆ หลายคนเลยเลือกที่เมื่อแต่งงานแล้วพอมีลูกก็ขอ "เว้นวรรคการทำงาน" สักสามปีห้าปีจนลูกเข้าโรงเรียน ส่วนบางคนไม่สามารถทำได้อาจด้วยเรื่องเศรษฐกิจหรือโปรเจคงานที่คั่งค้าง เลยเข้าสู่โหมดเหมือนคนที่มีงานเต็มเวลาสองงานด้วยกันเหตุการณ์นี้มักเกิดขึ้นกับสาววัย 30 อัพหลายๆ คนที่เป็นคุณแม่ทำงาน

             สมัยนี้นะคะ โสดก็เครียดอย่างคนโสด แต่งงานแล้วก็เครียดอย่างคนแต่งงาน พอมีลูกก็เครียดแบบคนมีลูก คือสามารถเครียดได้กับ ณ ทุกจุดของชีวิต การดูแลบริหารความเครียดของสาวรุ่นใหม่จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะด้วยความที่เรามีสิทธิต่างๆ มากมาย แถมทำอะไรสังคมก็เปิดโอกาสหมดแล้ว เราจะเลือกอะไร และเมื่อเลือกมาแล้วจะมีความสุขจริงดั่งที่ฝันไว้หรือไม่ นี่เป็นคำถามที่สำคัญมาก งานในฝัน...ได้มาแล้วคือฝันร้ายหรือฝันดีผู้ชายในฝัน...ได้มาแล้วคือฝันร้ายหรือฝันดี ถามตัวเองและให้ดีๆ เพราะคงไม่มีใครอยากเสียใจเมื่อสิ่งที่เลือกมาแล้วไม่เป็นดังที่ฝัน แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เราพาไปกับตัวเราในทุกๆ ที่นั่นก็คือ "ร่างกาย" โดยเฉพาะร่างกายของผู้หญิงเป็นระบบชีวภาพที่ละเอียดอ่อนสูงมาก หนูดีเลยอยากมาแนะนำวิธีดูแลจากหนังสือของหมอนักเขียนคนโปรด ซึ่งมีหนังสือแปลเป็นไทยมา 2 เล่มแล้ว คือแพทย์หญิงจาง เจียเป้ย ผู้อำนวยการ Kang Hua Chinese Medical Centre เป็นแพทย์พิเศษดูแลน้ำหนักตัว แพทย์พิเศษดูแลสตรีหลังคลอดบุตร โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแพทย์ไทเป หนังสือเล่มแรกของคุณหมอที่หนูดีอ่านคือ "สุขภาพดีสวยใส ต้องใส่ใจที่มดลูก" และเล่มล่าสุดที่เพิ่งออกคือ "หุ่นสวย สุขภาพดีสมวัย ต้องใส่ใจประจำเดือน" (สนพ.ซีเอ็ด) ดีทั้งสองเล่มค่ะ

             ปกติแล้วสาวๆ รุ่นใหม่มักมองสิ่งที่เกิดขึ้นในร่างกายเป็นเรื่องน่ารำคาญ และเป็นเรื่องที่ทำให้เราเสียเวลา เช่น ดูสิมีประจำเดือนอีกแล้วน่ารำคาญจัง ปวดท้องด้วย หรือพอเป็นหวัดเป็นไข้ก็เซ็งๆ ว่า ดูสิ ทำอะไรไม่ได้เลย

             ทั้งๆ ที่ความเจ็บป่วยและอาการปวดต่างๆ เป็นสัญญาณเตือนว่าเราต้องหันมาใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ และการมีประจำเดือนไม่ใช่เรื่องน่ารำคาญใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นการบอกว่า ร่างกายเรากำลังอยู่ในจุดพีคที่สมบูรณ์และแข็งแรงมากที่สุดแล้วในชีวิต เพราะมันคือสัญญาณที่บอกว่า เราพร้อมจะให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตรุ่นต่อไป

             ดังนั้น จงอย่ารำคาญและมองเหมือนมันเป็นสิ่งที่ปิดกั้นไม่ให้เราได้ทำอะไรๆ ที่เป็นสิทธิโดยชอบธรรมของสาวรุ่นใหม่ เช่น มันรบกวนเวลาสอบ มันทำให้เราปวดหัวและประชุมไม่ดี ทำให้เราไปดำน้ำหรือปีนเขาไม่ได้ หนังสือเล่มที่หนูดีแนะนำนี้จะพาไปทำความรู้จักร่างกายเราในรูปแบบใหม่ ด้วยสายตาของแพทย์ปัจจุบันและเพิ่มมุมมองอันน่าทึ่งของแพทย์แผนจีนเข้ามาเป็นของแถมด้วย โดยเน้นการดูร่างกายของสาวๆ ตั้งแต่วัย 15 และช่วง 20, 30, 40, 50 ซึ่งแต่ละช่วงก็ต้องดูแลแตกต่างกันออกไป เช่น

             ช่วงอายุ 15 ปี ควรจัดสมดุลอาหารให้ดีเพราะเป็นช่วงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายครั้งใหญ่ หากกินอาหารไม่ดีจะส่งผลถึงการเจริญเติบโตระยะยาวของผู้หญิงคนนั้นได้ โดยเฉพาะช่วงมีประจำเดือนควรกินอาหารที่มีแมกนีเซียมและแคลเซียมสูง

             ช่วงอายุ 20 ปี ควรเริ่มจัดระเบียบชีวิตกับการมีประจำเดือน แต่ปัญหาคือ สาวๆ วัยนี้มักเลือกลดความอ้วนด้วยวิธีผิดๆ ซึ่งอาจส่งผลเสียระยะยาวถึงระบบรังไข่ คุณหมอเองมีคนไข้สาวอวบที่ตั้งใจลดความอ้วนสำหรับงานแต่งงานด้วยการบริโภคแอปเปิลเป็นหลักตลอดหนึ่งเดือน ในวันงานเธอสวยผอมมากจนคนชมไม่ขาดปาก แต่หลังจากนั้นเธอพบว่าประจำเดือนไม่มา ในที่สุดก็ตรวจพบว่า ร่างกายเธอช็อกและเข้าสู่ภาวะหมดประจำเดือนก่อนวัย

             คุณหมอจึงเตือนว่า การลดความอ้วนแต่ละครั้งอาจมีต้นทุนสูงแบบที่เรานึกไปไม่ถึง อายุเท่านี้ก็ยังควรกินอาหารให้สมดุล งดอาหารไขมันสูง/ทอด/รสจัดช่วงประจำเดือน ไม่กินของธาตุเย็น เช่น แตงกวา แตงโม ฟักเขียวช่วงประจำเดือน และอย่ากินเค็มมาก

             ช่วงอายุ 30 ปี ระบบเผาผลาญของเราเริ่มทำงานไม่ดีเท่าอายุ 18-25 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่เมตาบอลิซึมของเราทำงานดีสุดในชีวิต จากนั้นอัตราดังกล่าวจะลดลง 5-10 % ในทุกช่วงสิบปี ยิ่งอายุมากขึ้นจะยิ่งอ้วนง่ายแม้ทำตัวแบบเดิมแต่โอกาสพุงยื่นจะมาเยือนเร็วกว่ามาก

             ดังนั้น ยังคงต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอโดยเฉพาะวันหลังหมดประจำเดือนนั้น หากตั้งใจออกกำลังกายจะลดน้ำหนักได้เร็วมาก ระวังอาหารเค็มให้หนักๆ และจะดูว่าเค็มไปหรือยัง คุณหมอแนะนำสังเกตง่ายๆ ว่าแค่บะหมี่ 1 ซองก็โซเดียมทะลุเป้าแล้วค่ะ (เฮ้อ เป็นผู้หญิงไม่ง่ายจริงๆ) หากอยากมีชีวิตที่สมดุลและมีความสุข เราต้องเข้าใจว่า ร่างกายและสมองเป็นระบบเดียวกันที่แยกไม่ออก ต้องทำงานร่วมกันและหากเราหันมาดูแลร่างกายดีมากๆ สมองของเราก็จะดีและมีความสุขตามไปด้วย

             เพราะผู้หญิงยุคใหม่ต้องดูแลชีวิตได้ทุกด้านจริงๆ ค่ะ

 

 

ขอบคุณข้อมูลและภาพข่าวจาก : เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ  วันที่ 13 ก.ค. 58