เกร็ดน่ารู้ เรื่อง 7 ทักษะที่ซีอีโอยุคดิจิทัลต้องมี
โดย : ชนิตา ภระมรทัต
มี 7 ทักษะที่ ซี อีโอ PwCประเทศไทยฟนธงภายในงานเผยผลสํารวจ Global CEO Survey ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ วาเปนทักษะที่ทําใหซีอีโอสามารถนําพาองค กรใหโลดแลนตอไดในโลกยุคดิจิ ทัลที่วากันวาการเปลี่ยนแปลงจะเร็วยิ่งกวาแสง
ศิระ อินทรกําธรชัย ประธานกรรมการบริหารและหุนสวนบริษัท PwC ประเทศไทย กลาววา สําหรับ 7 ทักษะที่จําเปนตอซี อีโอ (ไทยและกลุ มประเทศอาเซียน) ประกอบดวย
1. ตองมองรอบดาน (Ability to see around corners) ตองรู ทัน รูรอบทั้งในธุรกิจตัวเองและธุรกิจคูแขง
2. ต องอดทน มุงมั่ นต ออนาคตที ่ ไมชัดเจน และหาความแนนอนไดยากขึ้น(Tolerance for ambiguity) ซีอีโอจึงยิ่ง ตองมีความอดทน และพรอมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นมาอยางตอเนื่อง
3. ตองมีความยืดหยุนในการตัดสินใจ (Agility in decision making) ตลอดจนเปดใจรับสิ่งใหมๆ หากพิจารณาวามันจะนําไปสูสิ่งที่ดีกวา
4. ตองปรับการทํางาน - ระบบการปฏิบัติการใหสอดคลองกับสภาพแวดลอมที่เปลี่ยนแปลงไปเสมอ (Adaptability in execution)
5. ตองใชเทคโนโลยีใหเปน (At ease with technology) ซีอีโอยุคนี้ตองกาวใหทันเทคโนโลยีที่รุดหนาไปทุกๆ วินาที จําเปนตองมีวิสัยทัศนในการนําเอามันมาใชตอยอดทางธุรกิจ ขณะเดียวกันก็ตองสงเสริมใหองคกรมีความพรอม สงเสริมใหบุคลากรทุกคนมีความพรอม มีทักษะ โดยการสงเสริมฝกฝน ใหมีการใชเทคโนโลยีไดอยางมีประสิทธิภาพ
6. ตองสรางองคกรใหเต็มไปดวยทีม-บุคลากรที่ดีมีความสามารถ ( Surrounded by a great team) ซึ่งจะเกิดขึ้นไดก็ตองอาศัยทักษะขอสุดทาย นั่นคือ
7. ตองรูจักถอมตน (Humility) ซีอีโอยุคใหมจําเปนตองถอมตัว ถอมใจ พรอมจะเปนโรลโมเดลที่ดี จูงใจผู้ใตบังคับบัญชาใหมารวมทํางานอยางเต็มความสามารถ เพื่อทําใหองคกรเขมแข็งและอยูรอดไดแมวาจะตองเผชิญกับอุปสรรคทาทายนานับประการ
ทั้งนี้ PwC ไดทําการสํารวจ Global CEO Survey มาอยางตอเนื่อง และเปนครั้งที่ 18 แลวในปนี้ ซึ่งครอบคลุมซีอีโอกวา 1300 ราย ภายใน 77 ประเทศทั่วโลก ใน 22 อุตสาหกรรมชั้นนํา มีสัดสวนซีอีโอชาย 93% และซีอีโอหญิง 7% โดยทําการสัมภาษณ ในรูปแบบที่หลากหลายทั้งออนไลน โทรศัพท และสัมภาษณตัวตอตัวและในการสํารวจนี้มีซีอีโอของประเทศกลุมอาเซียน 7 ประเทศ ไดแก กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟลิปปนสสิงคโปร ไทย เวียดนาม จํานวน76 คน ซึ่งพวกเขาทั้งมีมุมมองที่ คลายและแตกตางจากซีอีโอทั่วโลก ดังตอไปนี้
เรื่องของความเชื่อมั่นตอเศรษฐกิจโลกในปนี้ ซีอีโออาเซียนมองวาจะดีขึ้นตางไปจาก ซีอีโอทั่วโลกซึ่งมองวานาจะติดลบ และสอดคลองกับประมาณการณเศรษฐกิจอาเซียนของไอเอ็มเอฟที่มองวาการเติบโตของภูมิภาคอาเซียนจะรุง แตที่โดดเดนมากๆ ก็คือ CLMV หรือกัมพูชา ลาว พมา โดยเฉพาะเวียดนามที่กําลังเติบโตไลตามไทยตามมาแบบติดๆ
สําหรับปจจัยที่สงผลกระทบตอเศรษฐกิจโลกที่สรางกังวลใหกับซีอีโออาเซียน 3 อันดับแรก ก็คือ
1.ความวุนวายทางการเมือง
2. นโยบายการเก็บภาษีที่ทางภาครัฐพยายามเรงสรางประสิ ทธิภาพแตในเวลาเดียวกันกลับสรางกดดันทางเศรษฐกิจ
3. กฎระเบียบเขมงวดเกินไป ทั้งจากภาครัฐและหนวยงานที่ กํากับดูแล ขณะที่ซี อีโอโลกกังวลในเรื่องตอไปนี้ 1. ความวุนวายในประเทศตะวันออกกลาง รวมถึงปญหาการสูรบในประเทศยูเครน 2. นโยบายการเงินในประเทศแกนนําของโลกซึ่งไมสอดคลองกัน และ 3.ความกังวลกับกลุมประเทศเกิดใหม ซึ่งคาดวาจะขยายตัวที่ชาลง
ในเรื่องของการเติบโตของรายไดขององคกร ขณะที่ซีอีโอทั่วโลกมองวารายไดจะไมเติบตัว เนื่องจากมีความความกังวลใน 4 เรื่องหลักๆ ไดแก
1. กฎระเบียบที่เขมงวดมากเกินไปจากหนวยงานภาครัฐ และหนวยงานกํากับดูแล
2. เรื่องการขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะ
3. ภาระหนี้ขาดดุลการคลังในหลายๆ ประเทศ
4. ความวุนวายทางการเมือง รวมถึงการสูรบในตะวันออกกลาง
ตรงขามกับซีอีโออาเซียนที่มองบวกวาการเติบโตของรายไดองคกรจะเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีความเชื่อมั่นดวยวาในอีก 3 ปขางหนารายไดจะยังคงเติบโตอยางตอเนื่อง แตเมื่อไดมองถึงโอกาสอุปสรรคแลว ซีอีโออาเซียน มีความกังวลในเรื่องของการแขงขันขามสายธุรกิจ เรื่องของการติดสินบน คอรัปชั่น และการขาดแคลนคน
"ในอนาคตขางหนาคูแขงธุรกิจจะไมจํากัดอยูภายในอุตสาหกรรมเดียวกันเทานั้น อาจมีการขามหวยมาแขงกับธุรกิจของเรา พูดถึงเมืองไทยเราปฏิเสธไมไดวา ธุรกิจพลังงานทดแทนกําลังอยูในกระแส ทุกคนตางใหความสนใจ หรือธุรกิจรับเหมา กอสรางเวลานี้ก็ผันตัวเองไปทําธุรกิจอสังหาริมทรัพยไปทําโรงแรม และลาสุดธุรกิจสื่อสิ่งพิมพกําลังผันตัวเองไปทําซูเปอรมารเก็ต ทุกวันนี้ธุรกิจผันตัวเองจากธุรกิจเดิม ไปยังธุรกิจอื่นเพื่อชวยขยายการเติบโตไดในอนาคต"
และมี 2 ธุรกิจที่ซีอีโออาเซียนกําลังจับตา เพราะมองวาจะกลายเปนคูแขงสําคัญในอนาคต นั่นคือ ธุรกิจ เทคโนโลยี โทรคมนาคม และธุรกิจคาปลีก คาสง เพราะสามารถนําเอาเทคโนโลยีไปตอยอดกระทั่งสามารถแขงขันไดในหลายธุรกิจ
ซีอีโออาเซียนมองวามีปจจัยสนับสนุนที่ชวยทําใหธุรกิจของพวกเขาไปตอไดอยู 2 ปจจัย ก็คือ 1. การหาพันธมิตรธุรกิจที่เปนกลุมผูผลิตและซัพพลายเออรตลอดจน เครือขายธุรกิจและองคกรการคาในประเทศนั้นๆ ที่จะเอื้อในการเขาถึงกลุมลูกคาใหมและตลาดใหม และ 2. การบริหารความหลากหลายของบุคลากร ซึ่งความกังวลของซีอีโออาเซียนตางจากซีอีโอโลกที่นอกจากทั้ง 2 ปจจัยแลว พวกเขามองวาเปนเรื่องเทคโนโลยี แถมยังมองเปนปจจัยที่สําคัญที่สุดอีกดวย " ความกังวลของซีอีโอทั่วโลกที่เกิดขึ้นอยางตอเนื่อง คือ ความขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะ ความสามารถการหาคนเกงเขามาอยูดวยวายากอยูแลว แตการทําใหเขาอยูกับเรายากยิ่งกวาองคกรตองมีความสามารถบริหารความหลากหลาย พนักงานตองมั่นใจวาผูบริหารดูแลใหความสําคัญและรับรูวาพนักงานทุกคนไมเหมือนกันมีความแตกตางและสามารถนําความแตกตางมาผสมผสาน จนกอใหเกิดประโยชนตอองคกร"
ถามวาผลสํารวจนี้จะสงกระตุนทําใหองคกรธุรกิจไทยเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด ศิระบอกวาสําหรับเขามองวาที่สําคัญมี อยู 3 เรื่องหลักๆ ไดแก
1. Modernization องคกรตองทําการปรับเปลี่ยนการทํางานใหมีประสิทธิภาพมากที่สุด
2. การนําเอาเทคโนโลยี ดิจิทัลมาเปนสวนหนึ่งของแผนกลยุทธ เพราะธุรกิจไหนที่มองไมเห็นความสําคัญในเรื่องนี้บอกไดเลยวาอยูไดยาก เพราะในไมชาการซื้อขายทุกอยางจะผานเทคโนโลยีทั้งหมด
3. เพิ่มประสิทธิภาพดานโลจิสติกสนั่นเปนเพราะการขนสงยังตองอาศัยการปฏิบัติไมสามารถสงผานทางออนไลน
"อีกเรื่องที่มองวา PwC เปนความตองการของตลาด ก็คือการซื้อกิจการการควบรวม เพราะการทําใหธุรกิจเติบโตตามสภาพจะชาเกินไป หลายครั้งเราพบวาธุรกิจสรางรายไดของ ตัวเองใหเติบโตแบบกาวกระโดดไดโดยการซื้อกิจการ ดังนั้น M&A ในบานเราจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ"
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : กรุงเทพธุรกิจ 20 ก.พ. 58