เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » รายการเกร็ดน่ารู้ » รายละเอียดเกร็ดน่ารู้

เกร็ดน่ารู้ เรื่อง “ภาวุธ” รุก “อี-บิซ” เต็มตัว ผุด “อีฟราสตรัคเจอร์” ลุยตลาดออนไลน์



tmp_20153003133517_1.JPEG


             ผู้พัฒนาเว็บไซต์ “ตลาดดอทคอม” บุก “อี-บิซ” สุดตัว ควบรวม 4 ธุรกิจออนไลน์ในเครืออยู่ใต้ร่ม “อีฟราสตรัคเจอร์” มุ่งตอบโจทย์ผู้ประกอบการออนไลน์ครบวงจรรายแรกในอาเซียน ทั้งเปิดร้านค้าออนไลน์ ระบบชำระเงิน การทำตลาด วิเคราะห์ข้อมูลออนไลน์ และโซลูชันอื่นๆ พร้อมเริ่มเจาะตลาดสิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม พม่า หวังขึ้นแท่นผู้นำอันดับ 1 ของอาเซียน ก่อนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2562
       
             นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้พัฒนาเว็บไซต์ “ตลาดดอทคอม” และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีฟราสตรัคเจอร์ จำกัด (efrastructure Inc.) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2557 ด้วยทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 1 ล้านบาท โดยมีแผนลงทุน 100 ล้านบาทในปี 2558 เพื่อดำเนินงานเป็นบริษัทโฮลดิ้ง ทำหน้าที่ควบคุมดูแลและเชื่อมโยงการดำเนินงานของ 4 บริษัทในเครือ ประกอบด้วย 1. บริษัท เพย์ โซลูชั่นส์ จำกัด (Pay Solutions) ให้บริการระบบอี-คอมเมิร์ซที่ครอบคลุมการรับชำระเงินอย่างครบวงจรทั้งในระบบออนไลน์และออฟไลน์ 2. บริษัท เรดแร็งค์ จำกัด (RedRank) ให้บริการด้านการค้นหาออนไลน์ (Search Marketing) 3. บริษัท โซเชียลอิงค์ จำกัด (Zocial, Inc.) ให้บริการด้านการรวบรวมข้อมูล ตลอดจนวิเคราะห์ผลข้อมูลออนไลน์ทั้งในไทยและในอาเซียน และ 4. บริษัท คอมแพริซัน จำกัด (Comparison) ให้บริการด้านการเปรียบเทียบข้อมูลราคาสินค้าออนไลน์
       
             การก่อตั้ง “อีฟราสตรัคเจอร์” มีวัตถุประสงค์เพื่อขานรับและเป็นฝ่ายขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) ของภาครัฐที่มีแนวโน้มจะเพิ่มบทบาทขึ้นเป็นหนึ่งในรูปแบบกิจกรรมทางเศรษฐกิจกระแสหลักในอนาคต โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอีให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้อย่างมีศักยภาพ โดยถือเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิตอลและระบบออนไลน์อย่างครบวงจรรายแรกและรายเดียวในประเทศไทยและเอเชีย
       
             “จากประสบการณ์ดำเนินธุรกิจอี-คอมเมิร์ซผ่านเว็บไซต์ตลาดดอทคอมมานาน 15 ปี ทำให้บริษัทฯ มีความพร้อมในการนำเสนอช่องทางการดำเนินธุรกิจออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยได้รู้จักกับกลุ่มธุรกิจดิจิตอลต่างๆ อีกมากมายที่สามารถตอบสนองความต้องการครบมิติทุกๆ ด้านในวงการอี-บิสิเนส เริ่มตั้งแต่การเปิดร้านค้าออนไลน์ ระบบการชำระเงิน การทำการตลาดออนไลน์ การนำเสนอบทวิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาด และโซลูชันอื่นๆ ในลักษณะวันสตอปเซอร์วิส”
       
             นอกจากบริษัทในเครือทั้ง 4 แห่งแล้ว “อีฟราสตรัคเจอร์” ยังมีพันธมิตรทางธุรกิจอีก 4 แห่งคือ “ตลาดดอทคอม” ผู้นำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในประเทศไทยด้วยจำนวนสินค้าประเภทต่างๆ มากกว่า 3 ล้านรายการ รวมถึง “winter egency” ผู้ดำเนินธุรกิจเอเยนซีดิจิตอลออนไลน์ รวมทั้ง “THAIWARE” ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ ระบบไอที และอื่นๆ เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจออนไลน์
       
             นายภาวุธกล่าวอีกว่า ในปี 2558 บริษัทฯ มีแผนขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน เริ่มตั้งแต่สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม และพม่า โดยจะดำเนินงานใน 2 ลักษณะ คือใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการขยายธุรกิจและซื้อธุรกิจออนไลน์ในแต่ละประเทศ โดยตั้งเป้าว่าภายใน 5 ปีจะเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดอาเซียนทั้งในแง่ของระบบการบริหารงานและจำนวนลูกค้าผู้ใช้บริการ พร้อมรายได้รวมประมาณ 400 ล้านบาท ก่อนนำบริษัทฯ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2562
       
             สำหรับภาพรวมธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในกลุ่มประเทศอาเซียนมีมูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาทในปี 2557 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 2.84 หมื่นล้านบาทในปี 2558 หรือเติบโตขึ้นถึง 31% จากปี 2554 ซึ่งมีมูลค่าเพียง 9.9 พันล้านบาท โดยประเทศที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีสูงสุด 4 อันดับแรก คือ อินโดนีเซีย 42% ฟิลิปปินส์ 28% ไทย 22% และมาเลเซีย 14% ในขณะที่ประเทศไทยมีประชากรทั้งสิ้น 67 ล้านคน มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นจำนวน 31.2 ล้านคน หรือประมาณ 46% แต่มีการใช้เฟซบุ๊กสูงถึง 34 ล้านคน คิดเป็นอันดับ 7 ของโลก
       
             ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุถึงภาพรวมของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในประเทศไทย ในปี 2556 มีมูลค่าถึง 7.68 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.17% จากปี 2555 โดยเฉพาะธุรกิจในลักษณะของผู้ประกอบการกับผู้บริโภคโดยตรง หรือ B2C มีการเติบโตมากที่สุดคิดเป็นมูลค่า 1.82 แสนล้านบาทจาก 1.21 แสนล้านบาทในปี 2555 ในขณะที่ธุรกิจในลักษณะผู้ประกอบการภาคเอกชนกับภาครัฐ หรือ B2G มีมูลค่า 3.47 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 3.4 แสนล้านบาทในปี 2555 ส่วนธุรกิจในลักษณะผู้ประกอบการกับผู้ประกอบการ หรือ B2B มีมูลค่า 2.38 แสนล้านบาท ลดลงจาก 2.82 แสนล้านบาทในปี 2555 ลดลงจาก 2.82 แสนล้านบาทในปี 2555 


ขอบคุณข้อมูลและภาพข่าวจาก : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน  วันที่ 25 มีนาคม 2558