อาจารย์กฤษณ์ รุยาพรCEO, Asia Pacific Innovation Center Co.,Ltd., e-mail : kris@e-apic.com
ผู้นำที่เก่งเงิน เก่งงาน และ เก่งคน จะเป็นผู้นำต้นแบบที่สามารถเป็นตัวอย่างที่ รู้จักต้นทุนชีวิต มีความซื่อสัตย์ รู้จักออม มี Branding ที่เด่นชัด เข้าใจธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลง เป็นคน Proactive คิดบวก มีวินัยและมุ่งมั่น มีใจบริการและทำงานเป็นทีม โดยมี DNA ต้นแบบที่สำคัญ 7 ประการอันได้แก่
1. มองเห็นโอกาสได้เสมอ (Opportunity Integrative and Strategic Planning)
การมองความผกผันของการเปลี่ยนแปลงและสามารถแปลงสัญญาณที่ซับซ้อนให้กลายเป็นการวางแผนอนาคตเชิงกลยุทธ์เป็นสัญชาตญาณของผู้นำที่เปลี่ยนความนากลัวของความไม่แนนอนให้เป็นโครงสร้างสถาปัตย์กรรมเชิงกลยุทธ์ รวมทั้งการวางแผนเพื่อสร้างกระบวนการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างมีระเบียบแบบแผน
ผมมีโอกาสแลกเปลี่ยนกับผู้นำต้นแบบที่กล่าวอย่างนาสนใจว่า "ผมสร้างระบบการขับเคลื่อนองค์กรด้วยทีมงานแทนที่ผมจะเป็นคนไปบอกว่าเขาต้องทำอย่างไรและอะไร เพราะถ้าผมปล่อยวางการชี้นำได้ทีมงานของผมสามารถนำพาองค์กรให้เกิดความสมดุลใหม่ได้ตลอดเวลาและสามารถเท่าทันธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงดีกว่าผมต้องลงไปชี้นำเอง"
2. เป้าหมายที่ทรงพลัง (Compelling Vision and Dynamic Flexibility)
มีเป้าหมายที่คมชัดที่เต็มเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นในหัวใจ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยนเมื่อเจออุปสรรคที่เกิดขึ้น Dynamic Stability เป็นความสามารถของผู้นำที่สามารถนำการเปลี่ยนแปลงได้อย่างคล่องตัว สามารถที่จะเผชิญกับการไม่แนนอนอย่างเป็นระบบ
ผู้นำมีการตั้งเป้าหมายเป็นการเรียนรู้ที่เข้าใจตัวเองและแข่งกับตัวเองเพื่อพัฒนาต่อยอดความสามารถที่มีอยู่ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น การเข้าใจ Strategic heartbeat ของตัวเองเป็นพลังที่สำคัญที่ทำให้เกิดความคล่องตัวในการก้าวข้ามปัญหาและความท้าทายโดยยังไม่ละวางความมุ่งมั่นจากเป้าหมายที่วางไว้
3. บริหารจัดการการเงินอย่างเป็นระบบ (Financial Engineering and Organize)
การวางรูปพิมพ์เขียวทางการเงินและการบริหารจัดการจะทำให้ผู้นำสามารถเฝ้ามองและตรวจสอบการเคลื่อนไหวของกระแสการเงินและการเจริญเติบโตขององค์กรได้อย่างมีระบบ ถ้าเราสามารถแยกกระบวนการคิดและวิเคราะห์การตัดสินใจของผู้นำและนำมาสร้างเป็นระบบการวัดและติดตามผลการเงิน (Financial Engineering System) ผู้นำสามารถจะใช้ระบบช่วยแนะนำแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงทีและติดตามการเจริญเติบโตได้โดยไม่ต้องคอยไปล้วงลูกจากทีมงาน
4. แก้ปัญหาด้วยใจ (Service minded and Problem Solving)
มีความสามารถในการบริการและแก้ปัญหาด้วยหัวใจ การมองการบริการด้วยหัวใจเป็นหัวใจหลักในการเข้าถึงปัญหาและความต้องการที่แท้จริง การคิดถึงลูกค้าและผู้ร่วมงานด้วยความเมตตาตลอดจนการสร้างกระบวนการแก้ปัญหาเพื่อให้เกิด Win-Win Solution ด้วยการเข้าใจและร่วมแก้ปัญหาของลูกค้าคนสำคัญ การเข้าใจเหตุและผลที่แท้จริงจะทำให้เราสามารถมองภาพของปัญหาที่รากแก้วทำให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างถูกกับความต้องการที่แท้จริง
5. มองธรรมชาติด้วยเหตุผลและคุณธรรม (Logical with Integrity)
มีหลักการและเหตุผลที่ถูกต้องที่มีคุณธรรมและสอดคล้องกับธรรมชาติของการเป็นผู้นำ การเข้าใจเหตุและปัจจัยของการเกิดขึ้นเป็นการมองที่ต้องไม่ยึดติด หลายครั้งผู้นำเมื่อเจอความสำเร็จมักจะมีอัตตาและกิเลสที่ยึดติดทำให้มองไม่เห็นความเป็นจริงของสภาวะแวดล้อม การแข่งขันหรือแม้แต่ความสามารถที่แท้จริงของการแข่งขันที่ทีมงานของเรามีอยู่ทำให้มองกลยุทธ์และวิธีการปฏิบัติที่ถูกต้องตามจังหวะเวลา
การรู้ตัวว่าเราไม่รู้อะไรเป็นความสามารถของผู้นำที่ทำให้เกิดการกระหายที่จะเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา หลายครั้งที่ผู้เขียนพบว่าผู้นำที่ไม่ยึดติดมักจะมีธรรมในใจที่เหมาะกับการเป็นผู้นำในแต่ละสถานการณ์ที่พบเจอ และมักจะสามารถบริหารภาวะผู้นำให้เป็นไปตามสภาวะของการเปลี่ยนแปลงได้อย่างถูกจังหวะและเวลา
6. ดูแลทีมด้วยใจที่เมตตา (Teamwork and Supervisory)
รู้จักการให้น้ำหนักของความสำคัญของงานทั้งระยะสั้นและระยะยาว ตลอดจนมีความสามารถวางแผนการพัฒนาบุคลากรอย่างเป็นระบบเพื่อสร้างความสามารถของทีมงานให้เป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ตลอดจนการ Put the right man with the right heart to the right job
มีการวางแผนการสร้างระบบการพัฒนาผู้นำต้นแบบในอนาคตก่อนที่จะเกิดการขาดแคลนเมื่อโอกาสทองมาถึง การวางแผนเพื่อหยุดพัฒนาเพื่อรุกในอนาคตเป็นความสามารถของผู้นำสายพันธุ์ใหม่ที่ต้องมีความตระหนักในการวางแผนในระยะยาวตลอดจนสามารถเจียระไนความสามารถของทีมงานให้สามารถแสดงผลงานให้เกิดขึ้นตามแผนที่วางไว้พร้อมที่การติดตามผลอย่างเป็นระบบทั้งจะยังช่วยเพิ่มระดับความเชื่อมั่นให้กับทีมงานในการเดินทางไปหาเป้าหมายที่ท้าทาย
7. สื่อสารอย่างรู้ใจ (Communication and Harmonization)
การเปิดรับความคิดและสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพจากทีมงานเป็นความสามารถของผู้นำที่สามารถสะกิดความเก่งของทีมงานให้ทำงานด้วยความทุ่มเท ในอดีตเราต้องการแค่มือของนักปฏิบัติและเราคิดแทนให้ว่าต้องการอะไรแต่ในปัจจุบันเราต้องการทั้งสมองและหัวใจของคนเก่งๆของทีมงานที่มีความหลากหลายที่อยู่ล้อมรอบตัวเรา ถ้าเราสามารถหลอมรวมความเก่งให้เกิดเป็นพลังแห่งอัจฉริยภาพของทีมงานได้ เราก็จะได้ทั้งหัวใจและความเก่งของทีมงานที่จะช่วยเป็นลมส่งท้ายให้ไปถึงเป้าหมายด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ของความสำเร็จร่วมกัน
ที่มา: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 12 - 14 พ.ย. 2558 หน้าที่ 31
รูปภาพจาก : www.careermakeovercoach.com