นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธนาคารจะปล่อยกู้ต่อยอดกองทุนหมู่บ้านที่ธนาคารได้รับ มอบหมายจากรัฐบาลวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ให้หมดภายในปี 2559 โดยขณะนี้ได้เริ่ม ปล่อยกู้ไปบางส่วนแล้ว ภายในปีนี้จะปล่อยกู้ได้ 1 หมื่นล้านบาท และปีหน้าอีก 1 หมื่นล้านบาท
สำหรับการปล่อยกู้ต่อยอดกองทุน หมู่บ้าน จะปล่อยให้กับหมู่บ้านที่มีผลการดำเนินงานดีมาก และดี ซึ่งตอนนี้มีอยู่กว่า 5 หมื่นกองทุน โดยจะปล่อยกู้แห่งละไม่เกิน 1 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี ระยะเวลากู้ 2 ปี ซึ่งถือเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ซึ่งหากนำกองทุนหมู่บ้านรวมกับเงินที่ให้รัฐบาลมาก่อนหน้า จะทำให้กองทุนหมู่บ้านมีต้นทุนการเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 2.5% ต่อ เมื่อเทียบกับกองทุนหมู่บ้านไปปล่อยคิดอัตราดอกเบี้ยจากสมาชิก 5-12% ทำให้กองทุนยังมีกำไร
ทั้งนี้ การเร่งสินเชื่อต่อยอดกองทุนหมู่บ้านจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากซึ่งเป็นนโยบายรัฐบาล และเป็น การเพิ่มรายได้ให้กับฐานราก ให้มีการ จับจ่ายใช้สอยและการลงทุนเพื่อประกอบอาชีพมากขึ้น
นายลักษณ์กล่าวว่า นอกจากการปล่อยกู้ต่อยอดกองทุนหมู่บ้านแล้ว รัฐบาลยังให้ธนาคารเข้าไปช่วยดูกองทุนหมู่บ้านในส่วนที่มีปัญหายังไม่สามารถรับเงินเพิ่มทุนรอบใหม่อีก 1 ล้านบาท ซึ่งมีอยู่ 2 หมื่นกองทุน โดย ธ.ก.ส. รับผิดชอบ 3,000 กองทุน ที่เหลือเป็นธนาคารออมสินรับผิดชอบดูแล โดยการดูแลของ ธ.ก.ส. จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ในส่วนแรกคือกองทุนหมู่บ้านที่มีปัญหาเล็กน้อยก็จะให้คะแนะนำแก้ไขการดำเนินงานให้ดีขึ้น และให้กองทุนหมู่บ้านทำเรื่องขอเงินเพิ่มทุน ที่ค้างอยู่
สำหรับในส่วนที่สอง เป็นการแก้ไขกองทุนหมู่บ้านที่มีปัญหาหนัก เนื่องจากมีหนี้เสียจำนวนมาก โดยจะให้กองทุนหมู่บ้านทำแผนฟื้นฟูแยกหนี้เสียออกจากหนี้ดี เพื่อเสนอขอเงินเพิ่มทุนที่ยัง ค้างอยู่ โดยรัฐบาลจะทยอยจ่ายเป็นงวดตามความคืบหน้าของการทำตามแผนฟื้นฟู เริ่มจากรอบแรก 3 แสนบาท รอบสอง 3 แสนบาท และรอบสาม 4 แสนบาท นอกจากนี้ ยังจะให้สมาชิกกองทุน ทำประชาคมเปลี่ยนกรรมการบริหารกองทุนหมู่บ้านชุดใหม่ด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 22 มิ.ย. 58 หน้า 12
