นายกฯยางกระบี่ แนะชาวสวนยางใช้เกษตรทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 แก้ปัญหาราคายางแกว่งตัวบ่อยๆ โดยสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว ชี้รัฐบาลให้ขายยางปีละ 1 ล้านตัน
นายบุญส่ง นับทอง นายกสมาคมชาวสวนยางจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ราคายางพาราที่ตลาดกลาง (สุราษฎร์ธานี หาดใหญ่ นครศรีธรรมราช) ณ วันที่ 25 เมษายน 2560 ยางแผ่นดิบคุณภาพชั้น 3 กก.ละ 70.20 บาท ยางแผ่นรมควัน กก.ละ 72 บาท และน้ำยางสด กก.ละ 67-68 บาท ซึ่งเป็นราคาที่อยู่ในระดับกลางๆ ชาวสวนยางไม่เดือดร้อนแต่ก็ไม่มีกำไร นอกจากสวนยางที่เจ้าของกรีดเองในพื้นที่สวนขนาดย่อม ซึ่งที่ชาวสวนยางบางรายไม่เดือดร้อนเพราะนำเกษตรทฤษฏีใหม่มาใช้ ปลูกผัก เลี้ยงปลา เลี้ยงสัตว์ เสริมในพื้นที่สวนยาง เมื่อยางราคาตกจนเจ้าของสวนไม่กรีดยางชั่วคราวเพื่อรอให้ราคาสูงขึ้น ก็ยังมีรายได้จากเกษตรทฤษฎีใหม่ดังกล่าวเลี้ยงครอบครัวให้อยู่ได้
"เมื่อเร็วๆ นี้ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางแห่งชาติ (กนย.) ทั้งฝ่ายราชการและภาคเอกชน จำนวนประมาณ 100 คน ณ ทำเนียบรัฐบาล มีสาระสาคัญ 5 เรื่อง คือ 1.เห็นชอบขยายโครงการเงินกู้ 1 หมื่นล้านบาท เพื่อดูดซับผลผลิตยางพาราในตลาด โดยรัฐบาลช่วยชดเชยดอกเบี้ย 3% ให้เกษตรกรเสียดอกเบี้ยเพียง 2% 2.เห็นชอบให้ขยายเวลาดำเนินการของสถาบันพัฒนาเกษตรกรจากหมดวาระ 31 มีนาคม 2560 เป็นหมดวาระ 31 มีนาคม 2561 3.เห็นชอบให้ขยายเวลาโครงการสร้างความเข้มแข็งของชาวสวนยางในวงเงิน 1.1 หมื่นล้านบาทไปอีก 90 วัน 4.สต๊อกยางที่คงเหลืออีก 1.1 แสนตันให้ขยายเวลาขายโดย กนย.พิจารณาตามความเหมาะสม ถ้าราคาถูกกว่าก็อย่าเพิ่งขาย รอให้ราคาสูงจึงขาย และ5.ประธานเน้นเรื่องขายยางในประเทศ ซึ่งผลิตได้ปีละ 4.2 ล้านตัน แต่ขายได้ปีละ 6 แสนตัน ให้มียอดขายปีละอย่างน้อย 1 ล้านตัน"
นายบุญส่งกล่าวต่อไปว่า ส่วนทางเจ้าของสวนยางผมขอให้เน้นเรื่องปลูกพืชเสริมในสวนยางแทนการปลูกพืชเชิงเดี่ยวคือยางพาราหรือปลูกปาล์มน้ำมัน ซึ่งจะสามารถสร้างอำนาจการต่อรองด้านการตลาดยางพาราได้ ซึ่งชาวสวนยางหลายรายเริ่มปฏิบัติกันจริงจัง
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 30 เม.ย. - 3 พ.ค. 2560
