แต่ถ้าจะปล่อยให้คนวัยนี้ไปลงทุน แต่ตราสารหนี้ที่ให้ดอกเบี้ยต่ำ อาจจะเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะการลงทุนตราสารหนี้ หรือทิ้งเงินไว้ในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เพียงอย่างเดียว ไม่ได้ช่วยให้เงินงอกเงยขึ้นมาได้เลย โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงเงินเฟ้อที่เป็นศัตรูของเงินออม
แม้ว่าในอนาคตอัตราดอกเบี้ยในประเทศจะมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นแล้วก็ตาม แต่ก็คงไม่ได้กลับไปสูงลิบลิ่วเท่ากับในยุคที่พ่อแม่เรายังสาวอีกแล้ว
แล้วถ้าไม่อยากลงทุนในหุ้นเพราะกลัวความเสี่ยง แต่ก็อยากชิมลางผลตอบแทนดีๆ แบบเดียวกับที่คนลงทุนในหุ้นเขาได้กัน น่าจะลองเข้าไปหาความรู้เรื่อง "หุ้นกู้อนุพันธ์" กันดูสักหน่อย
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี ให้ความหมายของ "หุ้นกู้อนุพันธ์" หรือ Structured Note ว่าเป็นตราสารหนี้ที่จะจ่ายผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย หรือชำระคืนเงินต้นโดยอ้างอิงกับตัวแปรที่กำหนด เช่น ราคาหลักทรัพย์ ราคาสินค้า ดัชนีราคาหลักทรัพย์ อัตราแลกเปลี่ยน หรืออะไรก็ได้ที่คนออกตราสารประเภทนี้ออกแบบให้อ้างอิงกับตัวแปรต่างๆ
การกำหนดผลตอบแทนหรือการชำระคืนเงินต้นโดยอ้างอิงกับตัวแปรต่างๆ สามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่น
1.กำหนดผลตอบแทนแปรโดยตรงกับตัวแปรอ้างอิง คือ เมื่อราคาของตัวแปรอ้างอิงเพิ่มขึ้น ผลตอบแทนของหุ้นกู้อนุพันธ์ก็เพิ่มขึ้นตาม
2.กำหนดผลตอบแทนแปรผกผันกับตัวแปรอ้างอิง ถ้าราคาของตัวแปรอ้างอิงลดลง ผลตอบแทนของหุ้นกู้อนุพันธ์จะเพิ่มขึ้น ในทางตรงกันข้ามหากราคาของตัวแปรอ้างอิงเพิ่มขึ้น ผลตอบแทนจากหุ้นกู้อนุพันธ์ก็จะลดลง
3.กำหนดผลตอบแทนแบบขั้นบันไดตามช่วงราคาของตัวแปรอ้างอิง เช่น กำหนดการจ่ายดอกเบี้ยของหุ้นกู้อนุพันธ์ขึ้นอยู่กับ SET Index อาจจะกำหนดไว้ว่า
ถ้า SET Index : ต่ำกว่า 1,500 จะไม่จ่ายดอกเบี้ย
ถ้า SET Index : ขึ้นไปอยู่ระหว่าง 1,501-1,650 จะจ่ายดอกเบี้ยให้ 5%
ถ้า SET Index : ขึ้นไปสูงกว่า 1,650 จะจ่ายดอกเบี้ยให้ 10%
4.กำหนดผลตอบแทนเป็นช่วงของราคาตัวแปรอ้างอิง เช่น การจ่ายดอกเบี้ยของหุ้นกู้อนุพันธ์ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน อาจจะกำหนดไว้ว่า
ถ้าเงินบาทต่อเหรียญสหรัฐ : ต่ำกว่า 33 บาท/เหรียญสหรัฐ จะจ่ายดอกเบี้ยให้ 2%
ถ้าเงินบาทต่อเหรียญสหรัฐ : อยู่ระหว่าง 33.01-34 บาท/เหรียญสหรัฐ จะจ่ายดอกเบี้ยให้ 5%
ถ้าเงินบาทต่อเหรียญสหรัฐ : สูงกว่า 34 บาท/เหรียญสหรัฐ จะจ่ายดอกเบี้ยให้ 2%
นอกจากนี้ บลจ.เอ็มเอฟซี ยังบอกอีกว่า การกำหนดผลตอบแทนหรือการชำระคืนเงินต้นของหุ้นกู้อนุพันธ์ยังสามารถทำได้อีกหลายวิธี ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้อนุพันธ์สามารถออกแบบการจ่ายผลตอบแทนหรือการชำระคืนเงินต้นเพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะและสถานการณ์ของบริษัทในขณะนั้นๆ ได้
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ธนชาต แนะนำนักลงทุนที่มีการลงทุนในหุ้นอยู่แล้วว่า สามารถใช้หุ้นกู้อนุพันธ์ในการบริหารความเสี่ยงได้
หุ้นกู้อนุพันธ์ (Equity Linked Note : ELN) คือตั๋วเงินระยะสั้น (อายุ 30-60 วัน) ที่เหมือนหุ้นกู้ทั่วไป แต่การจ่ายผลตอบแทนและชำระคืนเงินต้นจะขึ้นอยู่กับราคาอ้างอิงของหุ้น หรือดัชนีหุ้นที่อ้างอิง
"นักลงทุนระยะยาวที่เห็นว่าราคาหุ้นที่ตนถือนั้นปรับตัวขึ้นมามาก จึงอยากขายทำกำไรออกไปก่อน แต่ยังต้องการซื้อหุ้นดังกล่าวกลับคืนเมื่อราคาปรับลงมาถึงระดับที่ต้องการ สามารถใช้กลยุทธ์ขายหุ้นทำกำไรออกไปก่อนแล้วมาถือหุ้นกู้อนุพันธ์ไว้แทน"
รวมทั้งใช้เป็นแหล่งพักเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากในระหว่างที่รอซื้อหุ้นในราคาเป้าหมายที่วางไว้
การเลือกหุ้นอ้างอิงของหุ้นกู้อนุพันธ์ ควรเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดีและมีการ จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นหุ้นที่นักลงทุนต้องการที่จะลงทุน หรือลงทุนอยู่แล้ว และควรมีสภาพคล่องพอสมควร เพื่อรองรับการทำกำไรหรือความต้องการใช้เงิน
ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 14 มี.ค. 2560