เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » รายการ E-clipping » รายละเอียด E-clipping
พร้อมเพย์ลดใช้เงินสดแสนล. สมาคมแบงก์ตั้งเป้าเห็นผลใน5ปี ยอดลงทะเบียนล่าสุด18ล้านราย

          นายยศ กิมสวัสดิ์ ประธานสำนักระบบการชาระเงิน สมาคมธนาคารไทย กล่าวในงานสัมมนา "ความเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรมทางเศรษฐกิจจากธุรกรรมในระบบพร้อมเพย์" ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า ขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนระบบ "พร้อมเพย์" แล้ว 18 ล้านคน ประมาณ 38 ล้านบัญชี เนื่องจากหนึ่งคนลงทะเบียนผูกได้หลายบัญชี คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ทันไตรมาสแรกปีหน้านี้ ซึ่งจะช่วยลดการใช้เงินสดลงได้มาก จากปัจจุบันที่ใช้เงินสดอยู่ประมาณ 97%

          "เราตั้งเป้าว่า หากคนใช้บริการพร้อมเพย์และการชาระเงินทางดิจิทัลออนไลน์มากขึ้น ในปี 2560 น่าจะลดการใช้เงินสดลงได้ประมาณ 5% หรือ 0.05-0.07% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และภายในอีก 5 ปีข้างหน้า จะลดเงินสดลงได้ 15-20% ของจีดีพี หรือประมาณ 1 แสนล้านบาท ช่วยลดต้นทุนการจัดการเงินสดของภาคธุรกิจ ประชาชน รวมถึงลดภาระงบประมาณภาครัฐลงได้อีกมาก" นายยศ กล่าว

          นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า ปัญหาจากบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ปัจจุบันมักเกิดจากด้านผู้ใช้บริการ หรือผู้บริโภค มีการเปิดเผยข้อมูลโดยไม่จำเป็น เช่น กรอกข้อมูลตัวเลขบัตรประชาชนเพียงแค่จะได้ลดราคาสินค้าหรือบริการเพียง 5% การสมัครสมาชิกต่างๆ ด้วยการกรอกข้อมูลโดยไม่พิจารณา ทำให้เปิดช่องให้ผู้อื่นเข้าถึงตัวตนได้ง่ายขึ้น แต่เชื่อว่าในอนาคตข้อมูลบัตรประชาชนจะต้องปรับให้มีความปลอดภัยมากขึ้น เพื่อให้ระบบแยกการเข้าถึงและให้ปลอดภัยในการเอาไปใช้มากขึ้น

          "ผู้บริโภคตระหนักและตื่นตัวในการนำข้อมูลไปใช้ให้มากขึ้น โดยการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์อาจเริ่มจากวงเงินเล็กๆ ก่อน อย่างธุรกรรมอี-คอมเมิร์ซใน ไทยปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านล้านรายการ โตขึ้นประมาณ 10% และปีนี้ คาดว่าจะโตขึ้นเป็น 2.5 ล้านล้านรายการ ส่วนหนึ่งที่โตได้น้อยกว่าสิงคโปร์ เพราะคนยังไม่มั่นใจในการโอนชาระเงิน" นางสุรางคณา กล่าว

 

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 14 ธ.ค. 2559



เอกสารที่เกี่ยวข้อง