เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » รายการ E-clipping » รายละเอียด E-clipping
พร้อมเพย์ ไม่พร้อม สะเทือนถึงอี-เพย์เมนต์

          เกียรติศักดิ์ ผิวเกลี้ยง

          ในที่สุดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็แถลงเป็นทางการแล้วว่า สถาบันการเงินไม่สามารถให้บริการพร้อมเพย์ได้ทันภายในเดือน ต.ค.นี้ โดยต้องเลื่อนไปยาวถึงไตรมาสแรกปี 2560 ถือเป็นเรื่องกระทบความเชื่อมั่นการดำเนินโครงการระบบชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-เพย์เมนต์) ของรัฐบาลอยู่ไม่น้อย

          ทั้งนี้ บริการพร้อมเพย์ถือเป็น ขั้นแรกของโครงการอี-เพย์เมนต์ต้องสะดุดลง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ อภิศักดิ์  ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ยืนยันว่า โครงการพร้อมเพย์จะต้องเริ่มภายในเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งความไม่พร้อมก็มาจากระบบที่ยังไม่มีความเสถียรในเรื่องการทำธุรกรรมและความปลอดภัย

          ความไม่พร้อมเพย์นี้เอง ยังทำให้โครงการอื่นๆ ของระบบอี-เพย์เมนต์ล่าช้าไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งเครื่องรูดบัตร หรืออีดีซี การตรวจสอบการเสียภาษีผ่านระบบพร้อมเพย์ ที่สำคัญความไม่เชื่อมั่นของการดำเนินโครงการอื่นๆ จะมีมากขึ้นตามไปด้วย

          ธปท.แถลงการเลื่อนระบบพร้อมเพย์ครั้งนี้ว่า ธนาคารที่เข้าร่วมทั้ง 21 แห่ง และบริษัทที่ทำระบบพร้อมเพย์ เห็นร่วมกันว่าระบบยังไม่มีความพร้อม ต้องใช้เวลาในการทดสอบให้รอบด้านให้มีความถูกต้องปลอดภัย และมีความน่าเชื่อถือของการทำธุรกรรม รวมทั้งต้องให้ทุกธนาคารที่เกี่ยวข้องมีความพร้อมที่จะให้บริการพร้อมเพย์ในหลายช่องทาง และรองรับธุรกรรมที่จะมากขึ้นในอนาคต

          ขณะเดียวกัน ธปท.ยังเห็นว่า ธนาคารที่เข้าร่วมควรเตรียมความพร้อมการให้บริการลูกค้า มีการอบรมพนักงานที่สาขา เจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ การเตรียมดูแลลูกค้าที่มีปัญหาให้ได้รับความเป็นธรรม และกำหนดระยะเวลาการแก้ปัญหาให้ลูกค้าอย่างเหมาะสม

          จากแถลงของ ธปท.ทั้งหมด สรุปได้ว่า การบริการพร้อมเพย์ยัง มีความไม่พร้อมอยู่มาก นอกจาก ระบบไม่พร้อมแล้ว ธนาคารที่เข้าร่วมเองก็ยังไม่พร้อม รวมถึงผู้ที่จะใช้บริการเองก็ยังไม่มีความเข้าใจที่ดีพอ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลยังประชาสัมพันธ์เรื่องนี้น้อยมาก รวมถึง ธปท.เองก็ไม่มีความพร้อมที่จะขับเคลื่อนโครงการนี้ให้ทันได้ตามกำหนดที่วางเป้าไว้

          นอกจากนี้ ในช่วงที่มีการดำเนินการอี-เพย์เมนต์ และเริ่มกดปุ่มเดินหน้าพร้อมเพย์ของ ธปท.และสถาบันการเงินที่เข้าร่วม ก็มีปัญหากรณีการเปลี่ยนบัตรเอทีเอ็มเป็นบัตรชิปการ์ด ที่ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเอาเปรียบลูกค้า โดยการคิดค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนบัตร โดย ธปท.ไม่สามารถควบคุมดูแลได้อย่างที่ควรเป็น ทำให้การดำเนินโครงการพร้อมเพย์ถูกหางเลขไปด้วย

          หลังจากนั้นยังมีกรณีของตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสินถูกแฮ็กกดเงินสดออกไปจากตู้กว่า 10 ล้านบาท ธนาคารออมสินต้องปิดบริการตู้เอทีเอ็มกว่า 3,000 ตู้ ตั้งแต่เดือน ส.ค. 2559  เพื่อปรับปรุงระบบใหม่จนถึงปัจจุบันยังไม่สามารถเปิดให้บริการเป็นปกติได้ครบทุกตู้ ยิ่งกระทบมั่นใจในการ ใช้ระบบพร้อมเพย์ เพราะข่าวนี้ทำให้คนส่วนใหญ่ในชนบท ที่ไม่คุ้นกับบริการทางการเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์รู้สึกไม่ปลอดภัย จากเหตุตู้เอทีเอ็มของออมสินถูกแฮ็ก แม้ความเสียหายที่เกิดขึ้นตกกับธนาคารไม่ใช่ลูกค้าก็ตาม

          นอกจากนี้ ชื่อพร้อมเพย์ก็เป็น อีกประเด็นที่ถูกตั้งข้อสังเกต โดย อภิศักดิ์ออกมาพูดทีเล่นทีจริงหลายครั้งว่าไม่เห็นด้วยกับชื่อ พร้อมเพย์  ที่อาจทำให้บริการนี้มีปัญหา เพราะพร้อมเพย์แปลว่าพร้อมจ่าย ทั้งที่ พร้อมเพย์เป็นการโอนเงินให้กับผู้รับ จึงน่าจะใช้ชื่อ พร้อมรับ มากกว่า แต่เมื่อตั้งชื่อเป็นพร้อมจ่าย อาจทำให้ ไม่มีใครอยากมาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ

          ด้าน สมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ออกมายอมรับการเลื่อนใช้พร้อมเพย์ออกไปอีกหลายเดือนว่า  ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการดำเนินโครงการอี-เพย์เมนต์ทั้งหมด แต่หากมีความจำเป็นในเรื่องของความปลอดภัยก็จำเป็นต้องยอม เพราะหากฝืนทำไป ทั้งที่ไม่พร้อมอาจจะเสียหายมากกว่า ซึ่ง ธปท.เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการเรื่องนี้ ก็ต้องเร่งดำเนินการเพื่อไม่ให้กระทบความเชื่อมั่นกับโครงการ อี-เพย์เมนต์

          ขณะที่ วิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง ระบุว่า เรื่องความปลอดภัยของระบบพร้อมเพย์ถือว่ามีความสำคัญมาก หากไม่พร้อมจะต้องยืดเวลา ออกไปก็เป็นเรื่องที่ยอมรับได้

          การล่าช้าของโครงการอี-เพย์เมนต์ ไม่ใช่มีแค่ในส่วนของส่วนแรก พร้อมเพย์เท่านั้น ยังมีความล่าช้า ในส่วนที่สองคือ เรื่องการติดตั้ง เครื่องอีดีซีที่ธนาคารพาณิชย์ต้องการให้รัฐบาลลดหย่อนภาษีจากการลงทุนติดตั้งเครื่อง ทำให้จากเดิมที่จะติดตั้งได้ก่อนสิ้นปีนี้ ถูกเลื่อนไปปีหน้าและกว่าจะติดตั้งได้ครบ 4-5 แสนเครื่อง ก็กลางปีหน้า

          ขณะเดียวกัน การประชาสัมพันธ์โครงการอี-เพย์เมนต์ ก็ทำได้ไม่เต็มที่ จากเดิมที่มีแผนจะแจกรางวัล เพื่อจูงใจให้คนมาใช้ระบบพร้อมเพย์ แต่เมื่อพร้อมเพย์ต้องเลื่อนออกไป การติดตั้งเครื่องอีดีซีล่าช้ากว่ากำหนด การประชาสัมพันธ์ก็ทำได้ยากขึ้น และ อาจส่งผลให้คนไม่เชื่อมั่นระบบอี- เพย์เมนต์ในภาพรวมทั้งหมด

          สำหรับระบบอี-เพย์เมนต์ มี 5 โครงการที่สำคัญ โครงการที่ 1 การลงทะเบียนพร้อมเพย์ ตั้งแต่ 15 ก.ค. 2559 และจะเริ่มมีการโอนเงิน ผ่านพร้อมเพย์ภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้ ที่ล่าสุดถูกเลื่อนออกไปปีหน้า

          โครงการที่ 2 การเพิ่มการใช้บัตรและติดตั้งเครื่องรูดบัตรก็ล่าช้าออกไป โครงการที่ 3 ระบบภาษีเชื่อมกับระบบพร้อมเพย์ โครงการที่ 4 อี-เพย์เมนต์ภาครัฐ ให้การเบิกจ่ายเงินโอนเงินของภาครัฐผ่านพร้อมเพย์ทั้งหมด และโครงการที่ 5 การทำประชาสัมพันธ์โครงการอี-เพย์เมนต์

          เมื่อโครงการแรกสะดุด ไม่พร้อม เดินหน้าไม่ได้ ก็กระทบต่อโครงการ อื่นๆ เดินหน้าต่อไปไม่ได้ เพราะต้องรอให้โครงการแรกสำเร็จเสียก่อน ที่สำคัญหากโครงการแรกพร้อมเพย์  เรียกความเชื่อมั่นให้กลับมารวดเร็วไม่ได้ ก็จะทำให้ระบบอี-เพย์เมนต์ และระบบบริการทางการเงินไฮเทคอื่นที่จะขับเคลื่อนออกมาในอนาคตมีปัญหาความไม่เชื่อมั่นเพิ่มขึ้นอีกด้วย

          ดังนั้น พร้อมเพย์จึงเป็นปัญหาที่ ธปท.และสถาบันการเงินที่เข้าร่วมต้องเร่งมือดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะ ยิ่งปล่อยให้ช้าออกไปมาก ความ น่าเชื่อถือของระบบอี-เพย์เมนต์ที่เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลมีปัญหาและไม่เกิดผลตามเป้าที่ตั้งใจไว้ ว่าระบบอี-เพย์เมนต์จะยกระดับเศรษฐกิจ ของไทยให้ดีขึ้นก้าวกระโดดแซงหน้าเศรษฐกิจของเพื่อนบ้าน


ที่มา  :  หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์  วันที่ 13 ต.ค. 59  หน้า B5

 



เอกสารที่เกี่ยวข้อง