เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » รายการ E-clipping » รายละเอียด E-clipping
คอลัมน์: เกษตรยุคใหม่: เครื่องอบแห้งข้าว

          ระหว่างการปลูกก็ต้องการน้ำมาก แต่ตอนเก็บเกี่ยวต้องการน้ำน้อยหรือความแล้ง หากเก็บเกี่ยวมาแล้วมีฝนตก ก็จะทำให้ข้าวเปลือกไม่แห้งและเกิดความเสียหายได้มาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีวิธีการแก้ปัญหาในแต่ละช่วงที่แตกต่างกัน อย่างเช่น เครื่องอบแห้งข้าวเปลือก กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตข้าว เพราะเราไม่สามารถ ควบคุมฝนได้ เมื่อก่อนนี้เมื่อเราเก็บเกี่ยวข้าวมาแล้วก็มักจะตากให้แห้งด้วยแสงแดด แต่ถ้าไม่มีแดดก็ต้องมีทางเลือก คือการใช้เครื่องอบแห้งข้าวเปลือก

          เมื่อก่อนนี้การเก็บเกี่ยวข้าวทำโดยการใช้เคียวและเก็บเกี่ยวด้วยมือ ข้าวที่เก็บเกี่ยวค่อนข้างจะแห้งเพราะต้องรอให้ข้าวแก่จัดจึงจะเก็บเกี่ยว เมื่อนำมาตากแห้งก็ใช้เวลาไม่นาน และอีกอย่างหนึ่งคือแต่ละรายก็มีข้าวไม่มาก หากมีลานตากและมีฝนตกลงมาก็สามารถคลุมผ้าหรือเคลื่อนย้ายหลบฝนได้

          ปัจจุบันการเก็บเกี่ยวเปลี่ยนแปลงไปมีการใช้รถเก็บเกี่ยวเข้ามาแทนที่แรงคน เครื่องเก็บเกี่ยวดังกล่าวจะเก็บเกี่ยวในขณะที่ข้าวยังมีความชื้นสูงอยู่มาก เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ในนาจนแห้งก็จะเกิดความเสียหายระหว่างเก็บเกี่ยวได้มาก ดังนั้นข้าวที่เก็บเกี่ยวมาได้จึงต้องใช้เวลานานในการตากแห้ง และที่สำคัญคือเมื่อใช้เครื่องเก็บเกี่ยวก็จะสามารถเก็บได้เร็วมาก จึงได้ข้าวครั้งละมหาศาลจนอาจเกิดปัญหาลานตากไม่เพียงพอ และหากเจอฝนในช่วงดังกล่าวการจัดการกองข้าวก็ทำได้ยากมาก

          การพัฒนาเครื่องอบแห้งข้าวเริ่มมานานแล้ว และมีหลายเครื่องหรือหลายระบบที่มีการผลิตออกมาใช้กันอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การพัฒนางานด้านนี้ต้องทำต่อเนื่องไม่หยุดยั้งเพื่อให้ได้เทคโนโลยีที่ดีขึ้น ประหยัดขึ้น หรือเร็วขึ้น จากเดิมการอบแห้งโดยใช้ลมร้อน หรือใช้ระบบที่เรียกว่าฟลูอิไดซ์เบด ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการอบแห้ง  แต่ก็ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย ตอนนี้เรามีการพัฒนาเครื่องอบแห้งด้วยเทคนิคสปาเต็ดเบด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่น่าสนใจ จุดเด่นก็คือเมล็ดข้าวเปลือกจะได้สัมผัสกับอากาศร้อนที่ใช้อบแห้งได้โดยตรงและทั่วถึงกว่าการอบแห้งทั่วไปที่เมล็ดข้าวจะอยู่นิ่ง ดังนั้นเทคนิคใหม่นี้จะทำให้การลดความชื้นเป็นไปได้เร็วขึ้น

          เครื่องต้นแบบที่พัฒนาขึ้นมานี้เป็นผลงานของ ดร.เทวรัตน์ ตรีอำนรรค และทีมงานจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สามารถอบแห้งข้าวได้ครั้งละไม่เกิน 100 กิโลกรัม และลดความชื้นลงได้ต่ำกว่า 14% โดยที่เมล็ดข้าวเปลือกไหลวนอยู่ในห้องอบเพียงประมาณ 20 วินาทีเท่านั้น การที่เครื่องต้นแบบมีขนาดไม่ใหญ่และอบได้ครั้งละไม่มาก ก็เพราะว่าความตั้งใจในการพัฒนาเครื่องนี้ก็เพื่อเกษตรกรรายย่อย หรือกลุ่มเกษตรกร โรงสีชุมชนขนาดเล็ก โดยมีจุดประสงค์เพื่อการทดแทนลานตาก และก็แน่นอนว่าน่าจะพัฒนาให้มีกำลังการอบแห้งเพิ่มขึ้นได้ รวมทั้งพัฒนาให้เป็นระบบต่อเนื่อง มีการลำเลียงเมล็ดข้าวเข้าสู่ห้องอบได้อย่างต่อเนื่องโดยการพัฒนาระบบลำเลียงข้าวเพิ่มเติม

          อย่างน้อยที่สุดตอนนี้เราก็จะเห็นช่องทางและโอกาสในการพัฒนาเครื่องอบแห้งขนาดเล็กที่เหมาะสมสำหรับเกษตรกรหรือโรงสีชุมชนขึ้นมาได้ และมีโอกาสนำมาผลิตในปริมาณมากเพื่อให้ถึงมือเกษตรกรอย่างทั่วถึง และจะเป็นการลดความเสียหายของข้าวเนื่องจากความชื้นสูงลงได้อย่างมาก

          ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการขายข้าวโดยไม่ถูกตัดราคาเนื่องจากความชื้นสูง ดังเช่นที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

 

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก วันที่ 27 มิถุนายน 2559



เอกสารที่เกี่ยวข้อง