เมื่อเริ่มออกเดิน ควรเดินช้าๆ สัก 10 นาที แล้วจึงเดินเร็วขึ้นจนเหงื่อออกชุ่มตัว จากนั้นให้ลดความเร็วลง เป็นการเดินแบบสบายๆ รวมเวลาที่ใช้ในการเดินต้องไม่ต่ำกว่าครั้งละครึ่งชั่วโมง ต่อไปเป็นเทคนิคการเดินออกกำลัง ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ ท้าให้ลองอ่านดูเพื่อชั่วโมง ต่อไปเป็นเทคนิคการเดินออกกำลัง ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ ท้าให้ลองอ่านดูเพื่อประสิทธิภาพในการเดินครั้งต่อไป และเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นของตัวคุณเอง
1.การเดินออกกำลังนั้น ลำตัวต้องตั้งตรง ไม่โน้มไปข้างหน้าหรือข้างหลัง ยืดตัวให้เต็มที่ หลังไม่งอ
2.ตามองตรงไปข้างหน้าในระยะประมาณ 20 เมตร
3.ไหล่ไม่ห่อ ให้ผายออกไปด้านหลังเล็กน้อย ในขณะเดินให้ไหล่ยกขึ้น และปล่อยลงตามสบายไม่ต้องเกร็ง
4.การแกว่งแขนขณะเดิน ต้องงอข้อศอกประมาณ 90 องศา กำมือหลวมๆ ไม่ต้องเกร็ง
5.ขณะเดินต้องแกว่งแขนไปในทิศตรงกันข้ามกับขา และต้องแกว่งให้อยู่ในแนวตรงหน้าหลัง รวมทั้งให้ข้อศอกอยู่ชิดลำตัวให้มากที่สุด
6.การลงเท้าในขณะเดิน ต้องให้ส้นเท้าแตะพื้นก่อน แล้วค่อยลงน้ำหนักไปที่อุ้งเท้าและปลายเท้า
7.ขณะเดินต้องก้าวเท้าให้สั้นลง และเดินให้กระชั้นขึ้น วิธีนี้จะช่วยให้ผู้เดินสบายที่สุด ผ่อนคลายที่สุด และออกกำลังได้สมบูรณ์ที่สุด
ส่งท้ายด้วยประโยชน์ของการเดิน จากการศึกษาของคณะแพทย์ในสหรัฐอเมริกา รวมทั้งญี่ปุ่น พบว่า การเดินเป็นการออกกำลังที่ช่วยป้องกันและลดอัตราการเกิดโรคร้ายแรง 7 โรค คือ 1.โรคอ้วน 2.โรคความดันโลหิตสูง 3.เบาหวาน 4.โรคหัวใจและหลอดเลือด 5.ไขมันผิดปกติ 6.อัมพาต และ 7.มะเร็ง โอ้โห! รู้ประโยชน์ของการเดินมากมายอย่างนี้แล้วมาเดินให้ถูกวิธีกันดีกว่า!
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 19 เมษายน 2559 หน้า C4
eclipping_20142212174805_1.doc: ขนาด 30 KB