เทคนิคการใช้เงินอย่างชาญฉลาด
ผู้เรียบเรียง : พรพรรณ อัจฉริยากุล | ||
จำนวนหน้า : 160 หน้า | ||
ราคา : 135 บาท | ||
ผู้สรุป : พูนสุข มนัสวิวัฒน์ | ||
บทสรุป :
หนังสือเล่มนี้ประสงค์จะให้ผู้อ่านมีความสุขสบายในบั้นปลายชีวิต หากใช้เทคนิคการใช้เงินและออมเงินโดยบริหารเงินอย่างเป็นระบบ รู้คุณของเงินคนรอบข้างก็จะสุขสบายไปด้วย เคล็ดลับที่ผู้เขียนเน้นย้ำก็คือ อย่าเป็นคน “ เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย ”และมีคำเตือนอีกหลายประเด็น ดังนี้ * การเก็บออมเงินไว้เพียงอย่างเดียวไม่สามรถทำให้ชีวิตมั่นคงได้ ต้องรู้จักนำเงินออมไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการนำเงินไปลงทุนในตลาดทุนหรือสร้างกิจการเล็กๆ เพื่อให้เงินออมงอกเงยขึ้นมาเรื่อยๆ *หลักการง่าย 4 อย่าง คือ - รู้จักออม - รู้คุณค่าของเงิน - รู้จักสร้างหลักประกัน - กล้าเสี่ยงที่จะลงทุน * การฝากเงินไว้กับธนาคารเพื่อกินดอกเบี้ยเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มเก็บเงิน *เมื่อมีเศษเหรียญให้ใส่ในกระปุกทุกๆวันเมื่อถึงปลายเดือนให้เปิดกระปุกเพื่อเอาเศษเหรียญไปแลกกลับมาเป็นธนบัตรนับเป็นการฝึกวินัยทางการเงินที่ดีวิธีหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อฝึกวินัยการเห็นค่าของเงินทุกบาททุกสตางค์ * การประกันชีวิตรูปแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็นประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพ ย่อมเป็น หลักประกันความมั่นคงให้กับชีวิต เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรก็มีเงินรักษาและเงินชดเชย ในรูปแบบหนึ่งแบบใดกลับคืนมาและยังนำเงินก้อนนี้ไปลงทุนด้านอื่นเพิ่มขึ้นเพื่อให้เงินออมมีมูลค่าเพิ่มขึ้น * การเก็บเงินในรูปของทองคำไม่จำเป็นต้องเก็บทองคำแท่งไว้กับตัวเก็บเพียงใบจอง เท่านั้นก็จะอุ่นใจ เพราะทองคำแท่งมีสภาพคล่องตัวสูงสามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ ในทันที * เพื่อให้เกิดความ คุ้มค่าของเงินมากที่สุดควร แบ่งเงินออมไปฝากในรูปแบบบัญชีที่ให้ผลตอบแทนสูงและ แบ่งเงินเปิดบัญชีออมทรัพย์ เพื่อที่จะเบิกเงินออกมาใช้ในยามฉุกเฉิน * การจะทำให้เงินที่หามาได้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นและสามารถใช้เงินให้เกิดประโยชน์ได้ อย่างสูงสุดประการแรกที่ทำได้คือ ต้องรู้ว่าในแต่ละวันใช้จ่ายไปกับสิ่งใดบ้าง *ข้อดีของการทำรายการการใช้เงิน คือ (1) ทำให้รู้พฤติกรรมการใช้จ่ายของตนเอง (2) เป็นข้อมูลเปรียบเทียบที่ใช้ในการวางแผนรายจ่ายในแต่ละเดือน (3) ทำให้ทราบถึงรายจ่ายที่ไม่จำเป็น และสามารถตัดรายจ่ายนั้นๆออกไป (4) ช่วย ปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายระหว่างเดือน 5 ส่วน * วิธีการง่ายๆในเรื่องเทคนิคการจัดสรรเงิน 10 ส่วน มีดังนี้ (1) เก็บเงิน 1 ส่วน (2) เงินสำรองฉุกเฉิน 1 ส่วน (3) ให้บุพการี 3 ส่วน (4) เงินใช้จ่ายระหว่างเดือน 5 ส่วน * ก่อนซื้อของใช้เทียบราคากับปริมาณให้มองหาสินค้า ซื้อ 1 แถม 1 * ลดราคาแล้วค่อยซื้อ * ซื้อของสดต้องไปตลาดสด เพราะไม่แช่แข็ง * มีคูปองอย่าลืมใช้ เพราะช่วยให้ประหยัด * หากใช้บัตรเครดิตเพื่อให้ประโยชน์ต้องเลือกบัตรที่ปลอดค่าธรรมเนียมรายปี * การประกันภัย เป็นการลดภาระความเสียหายที่เกิดจากภัยต่างๆ แทนที่เจ้าของ ทรัพย์จะต้องเป็นผู้รับภาระทั้งหมด * การเตรียมพร้อมด้านการเงินที่ต้องนึกถึงในการทำประกันชีวิต ก็คือ ความสามารถใน การชำระเบี้ยประกันในระยะยาว * ก่อนที่จะนำเงินไปลงทุนทำอะไรก็ตาม จำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานในเรื่องการลงทุน โดยเฉพาะเรื่องของอัตราเงินเฟ้อ และความเสี่ยง * การกระจายความเสี่ยง คือ การแบ่งเงินทุนออกเป็นหลายๆส่วนเพื่อนำไปลงทุนในหลายๆด้าน * การนำเงินเก็บดองไว้ในสมุดเงินฝากไม่ต่างอะไรกับการนั่งรอให้เงินเสื่อมค่าลงไปทุกวัน * กฎเหล็กก็คือไม่ควรเสี่ยงลงทุนในเรื่องที่ไม่มีความชำนาญ * เตรียมช่องทางการเงินหลังวัยเกษียณด้วยการการเก็บเงินสักก้อนเมื่อเริ่มทำงาน ใหม่ ๆไป ดาวน์ซื้อที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะคอนมิเนียม ยิ่งซื้อเร็วเท่าไรราคาก็ยังไม่แพง ก็มีโอกาสให้เช่าเร็วขึ้นเพื่อนำเงินค่าเช่ามาช่วยลดภาระที่จะต้องผ่อนกับธนาคาร ผู้สรุปได้มีโอกาสคุยกับรุ่นน้องบางคนที่เก็บเงินรวมกับกู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ไปซื้อคอนโด จนเป็นเจ้าแม่เก็บเงินค่าเช่าไปเที่ยวต่างประเทศได้สำเร็จ เธอผู้นี้อายุปัจจุบัน 50 ปี คุณคิดดูซิว่า หลังเกษียณเธอจะมีความสุขปานใดน่าอิจฉาจัง และล่าสุดเธอนำเงินออมในบัญชีบวกกับเงินกู้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ไปสร้างอพารต์เมนต์ 40 ห้อง ให้เช่าห้องละ 3,000-4,000 บาท เรียกได้ว่าบริหารเงินเพื่อเพิ่มมูลค่าได้มากขึ้นดีกว่าเก็บไว้ในบัญชีเรื่องอย่างนี้ อยู่ที่การตัดสินใจ และต้องกล้าเสี่ยงลงทุนหวังว่า น้องๆ คนอื่นๆ จะเริ่มต้นออมเงินตั้งแต่เริ่มทำงานก็ได้เปรียบกว่าคนที่เริ่มต้นช้าโชคดีนะคะหากทำได้ก็จะมีความสุขในบั้นปลายชีวิตอย่างแน่นอน เพราะผู้สรุปปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เขียนจึงสบายในวัยเกษียณค่ะ |
||