เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » สรุปหนังสือ » รายละเอียด

เข็มทิศชีวิต 3 ตอน กฎแห่งความสุข

   
ผู้เรียบเรียง : ฐิตินาถ ณ พัทลุง 
สำนักพิมพ์ : บริษัท ไทยยูเนียนกราฟฟิคส์ จำกัด
จำนวนหน้า : 268 หน้า
ราคา : 99 บาท
ผู้สรุป : พูนสุข มนัสวิวัฒน์  
   
   
บทสรุป :

      

               

ผู้เขียนเคยประสบปัญหาอย่างแสนสาหัส มีผลให้ธุรกิจล่มสลาย แต่เธอมีสติ  แล้วเขียนทางออกทำให้เธอมีความสุขลงในหนังสือเข็มทิศชีวิต  เล่มที่ 1  เมื่อปี 2547  เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์เป็นวิทยาทานแก่ผู้อ่าน  นับเป็นตัวอย่างที่ดีและน่ายกย่องที่ควรจดจำ

                หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อเดือน ธันวาคม 2552 อ่านแล้วรู้สึกสบาย ๆ เนื้อหาเข้าใจง่ายมีภาพการ์ตูน ดอกไม้ และเข็มทิศ คั่นทุกบททุกตอนรวมถึงคำคมและสุภาษิตเป็นภาษาอังกฤษจากกวีเอกของโลกและบุคคลตัวอย่างแทรกไว้  ทำให้เคาะสนิมได้เป็นอย่างดี

                ผู้เขียนให้คติ คำสอน ปรัชญา การยกตัวอย่าง การใช้สติ สรุปได้ดังนี้

                *  หยุดหมกมุ่นกับตัวเองได้แล้วโดยกำจัดความทุกข์และให้คำนึงว่า  คนที่รักเราทุกข์มากกว่าเป็นไหน ๆ

                *  ไม่ควรยึดความคิด ความต้องการไว้จนปิดทางออก  ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ก็จะมีการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เรื่องใหม่ ๆ เกิดขึ้นได้ตลอด

*  ความอยากและความเห็นผิด  เป็นตัวบงการอยู่เบื้องหลังการกระทำตามสัญชาตญาณของมนุษย์ถ้ามองไม่ออก รู้ไม่ทัน ก็ไม่สามารถที่จะทำ พูด คิด อย่างเป็นอิสระจากการครอบงำได้

                *  จำได้ไหมว่า เราเคยคิดว่าเมื่อได้สิ่งนี้มาแล้วจะมีความสุข  แต่พอได้มาก็อยากให้คงอยู่ตลอดไป แต่แล้วเราก็อยากได้สิ่งใหม่ ๆ ต่อไป  และคิดว่าเมื่อได้แล้วจะมีความสุขที่แท้จริง  โดยไม่รู้ตัวว่า เราต้องทะยานไปข้างหน้าเพื่อให้ได้มาตามที่ต้องการ  เราก็เลยวนอยู่ในภาวะได้ไม่ทันตอนที่อยาก ไม่ได้อย่างที่อยากก็จะเกิดความทุกข์ ใช่ไหมจ๊ะ?

                *  ปมแห่งความเห็นผิดเกิดจากการไม่เห็นสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง  นับเป็นอันตรายกับชีวิตมากทำให้เราทำผิด  พูดผิด  คิดผิด  ตัดสินใจผิดทั้งต่อตัวเองและต่อคนอื่น

                *  เพื่อให้เราเลิกเป็นทาส  ขอให้ใช้หลักการของการไม่ทำชั่ว  ทำใจให้บริสุทธิ์  ทำดีเพื่อเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวกับชีวิตที่มีค่าของเราให้มั่นคงและยั่งยืน

*  เราทำดีได้ผลดีอยู่แล้ว
ผลดีขั้นที่ 1 คือได้ผลดีกับตัวเราเอง ได้รับความรู้ ความชำนาญ

              ผลดีขั้นที่ 2 คือ เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น

                ผลดีขั้นที่ 3 คือ ให้เราได้ฝึกฝน ขัดเกลาตนเอง

                *  พระพุทธเจ้าประทานหลัก กาลามสูตร  มีความว่า

                                “อย่าปลงใจเชื่อ โดยการเล่าลือ”

“อย่าปลงใจเชื่อ โดยการเรียน การฟังตาม ๆ กันมา”

“อย่าปลงใจเชื่อ โดยการอ้างตำรา”

“อย่าปลงใจเชื่อ โดยการการอนุมาน”

                *  พระพุทธเจ้าสอนว่า

                                “ความดีที่เกิดแล้วให้รักษาไว้  ที่ยังไม่เกิด ทำให้เกิด”

                                “ความชั่วที่เกิดแล้วให้เลิก  ที่ยังไม่เกิด อย่าทำ”

                *  เราไม่สามารถตัดสินผู้อื่นได้ เพราะเราจะไม่มีวันรู้จนแน่ใจได้จริง ๆ หน้าที่ของเรา คือ ไม่ใช่ขัดเกลาผู้อื่น แต่ขัดเกลาตัวเราเอง ขอให้หลีกไกลจากคนที่ทำให้เรามีความเห็นว่าร้าย

                *  เราต้องเป็นผู้ให้ก่อน โลกจึงจะให้เรา เราต้องมีความสุขก่อน  สิ่งดี ๆ จึงจะเกิดขึ้นและจะทำให้เรามีความสุขยิ่งขึ้น

                *  เมื่อมนุษย์ทำความชั่วมาก  ย่อมทำร้ายโลกจนสิ่งอื่นๆ  ไม่สามารถอยู่ได้  ธรรมชาติก็จะรักษาสมดุลให้ตัวเอง ธรรมชาติเตือนเราอยู่เสมอ ถ้าเราไม่หยุดฟัง โลกนี้ก็จะไม่มีมนุษย์อีกต่อไป

                *  เราต้องหมั่นตรวจสอบความเชื่อ  แก่นของชีวิต  เราต้องทำความรู้สึกตัวให้ชัดเจนแล้วคัดเลือกความเชื่อที่นำพาชีวิตของเราไปสู่ความสงบสุข  มั่นคง  เป็นอิสระ  แล้วเชื่อมโยงสิ่งที่เราต้องการเข้ากับความรู้สึกที่เป็นสุข

*  วิธีตอบสนองให้เราหลุดออกจากความเคยชิน ก็คือ การฝึกตัวเองให้ปฏิบัติความดีทีละเล็กทีละน้อย เพื่อให้สมองไม่ต่อต้าน เมื่อเกิดความรู้สึกดี ๆ ก็ค่อย ๆ ขยายครอบคลุมไปทุก ๆ ด้าน ของชีวิต ทั้งด้านความเข้าใจ ทางจิตวิญญาณ  การดูแลร่างกาย   การบำรุงความคิด   การวินิจฉัยโลกตรงตามความเป็นจริง จะสามารถเป็นอิสระจากร่องความเคยชินในสมอง รวมถึงความจริงใจกับตัวเองในการเลือกวิถีชีวิต ทำให้เกิดวินัยในชีวิตย่อมทำให้เรามีความสุขและพัฒนาสิ่งดีงามได้มากขึ้น

                *  คนที่เข้มแข็งจะเรียนรู้และสร้างชีวิตใหม่เริ่มต้นโดยไม่ทำร้ายผู้อื่น มุ่งขัดเกลาปรับปรุงคุณภาพใจและคุณภาพชีวิต

                *  เวลาที่ใจพุ่งไปเกาะแต่ที่ปัญหา  ให้หากิจกรรมที่เป็นบุญมาทำ  บุญแปลว่า ความสุขที่ไม่มีโทษ มีประโยชน์ ช่วยยกใจเราขึ้นมาจากหลุมความทุกข์จากนั้นต้องรู้จักวิธีรักษาคุณภาพของใจ ด้วยการรู้ลมหายใจและรู้ความเคลื่อนไหว

                *  การเรียนรู้ที่สำคัญที่สุดของการเกิดมาเป็นมนุษย์ คือ ดูที่ใจ และพิจารณาว่าความทุกข์เกิดขึ้นได้อย่างไรหายไปได้อย่างไร ทันทีที่เราไปจับ ฉวย ยึด ในที่สุดก็จะพบว่า อะไร ๆ ก็หายไปทั้งนั้น ไม่มีอะไรคุ้มกับการทำไม่ดี

*  สิ่งแรกที่สำคัญอันทำให้ชีวิตของเราเปิดรับสิ่งดีงามเข้ามาในชีวิต  คือ  การให้อภัย  ให้ความเข้าใจและให้ความรัก เมื่อปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอย่อมทำให้เกิดการไหลเวียนพลังงานในร่างกายและจิตใจของเราดี ไม่ติดขัด ดังนั้น ถ้าร่างกายดี ความคิดไหลเวียนดีย่อมเห็นโอกาสและได้รับสิ่งดีงามมากมายในชีวิต

                *  อยากมีชีวิตที่โชคดี มีความรักที่ดี มีความสุขมีฐานะมั่นคง รุ่งเรือง มีพลังชีวิต ต้องไม่นินทาว่าร้ายผู้อื่น จงพูดถึงแต่สิ่งดี ๆ เห็นสิ่งดี ๆ

                *  ทำใจให้กว้างขวาง ฝึกใจให้ทำแต่สิ่งดี ๆ ให้ความนับถือตัวเอง และหาทางออกจากปัญหาย่อมสามารถยกระดับจิตใจได้

                *  การลงทุนทำอะไรสักอย่าง ต้องมีความเข้าใจเหมือนมองผนึกแก้วใสที่พลิกทางไหนก็รู้จักและเข้าใจ เพราะเวลาลงมือทำจริง ๆ จะพบอุปสรรคมากมาย ดังนั้น ต้องมีใจที่พร้อมจะสู้จึงจะรับมือไหว

                *  เมื่ออยากกลับวงจรชีวิตให้อยู่ในทิศทางที่ดีจะต้องปรับพฤติกรรมความคิดของเราเสียก่อน

                *  การค้นพบสิ่งที่เรารัก เราถนัด เริ่มได้หลายทาง แต่ที่สำคัญ คือ การทำสิ่งที่เราทำอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้ความรัก ความถนัด เปิดเผยตัวออกมา

                *  ถ้าเราต้องการมีชีวิตที่ดี เราต้องรักตัวเอง เมตตาตัวเอง จริงใจกับตัวเอง ด้วยการเลือกใช้ชีวิตให้ตรงตามผลที่ต้องการ

                ขอชื่นชมผู้เขียนที่พัฒนาการเขียน จากเล่มที่ 1 เข็มทิศชีวิต ได้อย่างดียิ่ง ถ่ายทอดประสบการณ์และความจริงของการยึดมั่น ถือมั่นที่ไม่จีรังยั่งยืนได้อย่างลึกซึ้ง สมกับเป็นผู้หญิงต้นแบบที่สู้ชีวิตได้อย่างยอดเยี่ยม สมควรนำไปปฏิบัติอย่างยิ่ง

   
สารบัญ