เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » สรุปหนังสือ » รายละเอียด

พลิกชีวิต คิดเชิงบวก

   
ผู้เรียบเรียง : NAPOLEON HILL 
สำนักพิมพ์ : บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน)
จำนวนหน้า : 152 หน้า
ราคา : 130 บาท
ผู้สรุป : พูนสุข มนัสวิวัฒน์  
   
   
บทสรุป :

                ผู้สรุป อาสาสมัครช่วยงานมูลนิธิอาจารย์จำเนียร  สาระนาค  โดยเข้าร่วมประชุมช่วงวันที่ 26 -27 มิถุนายน 2553 พบว่า ประธานกรรมการ ท่านรองเอ็นนู  ซื่อสุวรรณ รองประธานกรรมการ และกรรมการ รวมถึงจิตอาสาที่ผู้สรุปรู้จัก  ต่างก็มีแนวคิดเชิงบวก  จึงช่วยพลิกชีวิตของนักเรียน  นักศึกษา  ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาจนถึงปริญญาโท  และการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุบัติภัยหรือภัยพิบัติต่างๆ ด้วย

                หนังสือเล่มนี้เน้นเรื่องการใช้ทัศนคติเชิงบวกทุกๆวัน และทุกๆวิธีการ  จะมีผลให้มีชีวิตที่อิ่มเอมเปรมสุขมีความพึงพอใจและโชคดีเสมอ

                ทัศนคติเชิงบวก POSITIVE  MENTAL  ATTITUDE หรือ PMA  ถูกเรียกขานว่า “ฉันทำได้และจะทำ”

                เมื่อคุณมีทัศนคติเชิงบวก  คุณจะมีความสุขกับตนเองและกับผู้อื่น  คุณจะมีความนับถือตนเอง มีความรู้สึกดีๆ  ประสบกับเรื่องดีๆ  และห่างไกลจากเรื่องร้ายๆ

                ทัศนคติต้องกลายเป็นนิสัย  สามารถฝึกฝนได้โดยไม่รู้ตัว     ผู้เขียน คือ นโปเลียน ฮิลล์  ให้คำนิยามของทัศนคติเชิงบวกไว้ว่า  “เป็นสภาวะจิตที่มั่นใจ ซื่อสัตย์และสร้างสรรค์  ซึ่งแต่ละบุคคลได้สร้างขึ้นและรักษาไว้ด้วยวิธีที่เขาเป็นผู้เลือกเองให้เป็นไปตามแรงปรารถนา โดยขึ้นอยู่กับการประยุกต์ใช้ของตนเอง

                ความหมายของ PMA มีดังนี้

                P ( POSITIVE) : คือ ขุมพลังซึ่งมีมีคุณลักษณะในเชิงบวก  เช่น  ความซื่อสัตย์  ศรัทธา  ความรัก ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  ความหวัง  การมองโลกในแง่ดี  ความกล้าหาญ  ความคิดริเริ่ม  เมตตากรุณา ความขยันขันแข็ง  มีน้ำใจและมีสามัญสำนึกที่ดี

                M (MENTAL) :  คือพลังในจิตใจมิใช่ร่างกาย  พึงระลึกไว้ว่า  “จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว”

                A (ATTITUDE) :  ความรู้สึกหรืออารมณ์ทัศนคติมีความเกี่ยวข้องกับความรู้สึกขั้นพื้นฐานของคุณเอง  บุคคลอื่น  สถานการณ์  เงื่อนไข  เป็นต้น

                ทัศนคติเชิงบวกช่วยให้มองสถานการณ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น  และสามารถแปรเปลี่ยนโชคร้ายให้เป็นความสำเร็จ โดยการเรียนรู้จากมัน  แล้วใช้ความรู้นั้นให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเองต่อไป

                ทัศนคติเชิงบวกสอนให้คิดและทำอย่างสร้างสรรค์สอนให้เรียนรู้ในการไขว่คว้าโอกาส

                การสร้างทัศนคติเชิงบวกด้วยวิธีการ 10 ขั้นตอน ดังนี้ คือ

                1. ควบคุมจิตใจของคุณเองด้วยการโน้มน้าว

                    การฝึกฝนตนเองในการขจัดความคิดเชิงลบของผู้อื่นบ่อยๆ  จนกลายเป็นการตอบสนองแบบอัตโนมัติและฉับพลันทันใด  โดยจิตใต้สำนึกจะส่งข้อความมายังจิตรู้สำนึกเป็นความคิดเชิงบวกในทันที

                2. เอาใจจดจ่อกับสิ่งพึงปรารถนาและหลีกเลี่ยงจากสิ่งไม่พึงปรารถนา               

                   เคล็ดลับการมุ่งเน้นความคิดให้เป็นเชิงบวก  คือ  การตื่นตัวอยู่ตลอด  มั่นใจตนเองและปลดปล่อยความตึงเครียด

                3. ยึดถือกฎ “ใจเขาใจเรา”   คือ  การปฏิบัติต่อผู้อื่นในลักษณะเดียวกับที่คุณต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อคุณ

                4. ขจัดความคิดเชิงลบออกให้หมดด้วยการทบทวนตนเอง  โดยการเขียนสิ่งที่ฉันไม่อยากเป็น ดังนี้

                     (1) รู้สึกสงสารตนเอง

                     (2) อยากโทษคนอื่น

                     (3) ทุกข์ใจ

                     (4) เป็นคนเห็นแก่ตัว

                แล้วทบทวนทั้ง 4 ข้อ ทุกเช้า

                5. จงใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แล้วแบ่งปันความสุขให้ผู้อื่นด้วย

                     การที่จะมีความสุขนั้น ต้องกระทำสิ่งต่างๆ อย่างมีความสุข  ซึ่งจะส่งผลให้พบกับความรู้สึกร่าเริงและกระตือรือร้น

                6. สร้างนิสัยใจกว้าง

                    จงเปิดใจกว้างให้แก่ผู้คนทั่วไป  ยอมรับผู้คนในแบบที่เขาเป็น  ไม่ใช่แบบที่คุณต้องการให้เป็น มองหาจุดดีของผู้อื่นและเรียนรู้ที่จะชอบผู้อื่น

                7. เตือนตนเองด้วยความคิดเชิงบวก

                     การที่คุณจะรักษาทัศนคติเชิงบวกเอาไว้ได้นั้น  จะต้องควบคุมสิ่งเร้าใจที่เกิดขึ้นจากภายนอก การควบคุมดังกล่าวสามารถใช้ได้ใน 3 รูปแบบ คือ

(1)    การเตือน คือ  การสัมผัสทั้งห้า  (การมองเห็น  การได้ยิน  การสัมผัสทางกาย  รสชาติ และกลิ่น)  อันเป็นช่องทางที่ได้รับสิ่งเร้าจากภายนอกในชีวิตประจำวัน

                     (2) การเตือนตนเอง  เป็นกระบวนการชักพาสิ่งเร้าเข้าสู่ตนเองอย่างจูงใจ จะถูกเตือนตนเองให้มองหาสิ่งดีๆ ในทุกๆ สิ่งที่คุณเห็น  ได้ยิน  รับรส  ได้กลิ่นหรือรู้สึก

(3) การเตือนอัตโนมัติ  เป็นการส่งและสื่อสารข้อมูลที่เก็บอยู่ในจิตใจสำนึก  กลับไปยังจิตรู้สำนึก

8. พลังแห่งการอธิษฐาน

                     การอธิษฐานเป็นกระบวนการซึ่งเรารับรู้  แล้วเตรียมตัวเองเพื่อเปลี่ยนแปลง โดยผู้เขียนเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะรับรู้รับฟังความในใจของคุณไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่

                9. กำหนดเป้าหมาย

                     การกำหนดเป้าหมายเป็นวิธีการหนึ่งในการพุ่งจุดสนใจไปยังสิ่งที่คุณต้องการ

                10. ศึกษา  คิดและวางแผนทุก ๆ วัน

                       แรงบันดาลใจไปสู่ความคิดใหม่ ๆ เกิดจากการ อ่านและการศึกษามีความสำคัญยิ่งต่อการฝึกฝนทัศนคติเชิงบวก     ทั้ง 10 ขั้นตอน ผู้เขียนแนะนำให้เขียนไว้เพื่อเตือนความจำและต้องตั้งใจฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอโดยผู้เขียนมีข้อความและคำคมดังนี้

                “วรรณกรรมทุกชิ้นล้วนประกอบขึ้นด้วยตัวอักษรเพียง 44 ตัวเหมือนกัน

 “ผลงานเพลงทุกเพลงล้วนประกอบขึ้นด้วยตัวอักษรเพียง 12 ตัว เหมือน ๆ กัน”

“ทุกสีได้มาจากการผสมแม่สีเพียง 3 สี เหมือนกัน”

                ดังนั้นการนำทั้ง 10 ขั้นตอนนี้ไปใช้เพื่อให้ถึงหลักชัย  ซึ่งก็คือ  ทัศนคติเชิงบวกนั่นเอง ขอให้ผู้อ่านประสบแต่ความสุขตลอดไป  เงินเดือนก็เพิ่มขึ้น  โบนัสก็ได้มาก  อย่าลืมเก็บออมไว้ใช้ในยามจำเป็นด้วยนะคะ  สำหรับผู้สรุปก็ใช้เงินออมในอดีตมาใช้ในยามเกษียณอายุ  ก็มีความสุขดีค่ะ และได้ฝึกฝนคิดเชิงบวกตามที่สามีแนะนำอยู่เสมอ

   
สารบัญ