เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » สรุปหนังสือ » รายละเอียด

ปั้นคนให้สร้างแบรนด์....สไตล์ P&G

   
ผู้เรียบเรียง : HIROKO WADA 
สำนักพิมพ์ : สถาบันเทคโนโลยีไทย ญี่ปุ่น
จำนวนหน้า : 92 หน้า
ราคา : 180 บาท
ผู้สรุป : พูนสุข มนัสวิวัฒน์  
   
   
บทสรุป :

 

              คุณฮิโรโกะ  วาดะ  ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เป็นผู้บุกเบิกหญิงชาวญี่ปุ่นคนแรกของบริษัท

THE PROCTER & GAMBLE COMPANY (P&G) จนเป็นรองประธานบริษัท ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ตรงจาก การทำงานด้านพัฒนาบุคลากรภายในองค์กร เธอสอนงานลูกน้องในด้านต่างๆ เช่น การเขียนรายงานสรุป การนำเสนองาน และการให้ทำงานที่ท้าทาย เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาอย่างรวดเร็ว

                                เธอเล่าว่า บริษัท P&G มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบรนด์ระดับโลก ความลับที่เป็นจุดแข็งของ P&G อยู่ที่ การตลาดซึ่งมีรากฐานมาจากแผนการวิจัยและ การพัฒนาบุคลากรเพราะสร้างนักการตลาดที่เก่งๆขึ้นมา

                                ผู้เขียนใช้ภาษาง่ายเข้าใจง่ายทำให้ผู้แปลเรียบเรียงได้อย่างชัดเจน  และเรียงร้อยได้สมบูรณ์

                                จึงแนะนำ ให้หาอ่านได้จากห้องสมุด ชั้น 8 คุณต้อย วัลลภา และน้องๆ  ยินดีค้นหาให้ค่ะ สรุปได้ดังนี้

* ต้องให้พนักงานฝึกฝนทักษะในการคัดเลือก ข้อมูลจำนวนมากที่อยู่กระจัดกระจาย  จนตกผลึกแล้ววิเคราะห์ข้อมูล

* ความสามารถในการวิเคราะห์และการคิดเชิงกลยุทธ์เป็นทักษะที่ต่อเนื่องกันจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานทุกอย่างไม่เฉพาะเรื่องการตลาดเท่านั้น

* เพื่อไม่ให้ความคิดเชิงกลยุทธ์และแผนกลยุทธ์ที่วางไว้จบลงแค่บนกระดาษ  ต้องนำแผนและแนวคิดที่วางไว้ปฏิบัติจริงด้วย

* การบริหารแบรนด์  จำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยที่สำคัญ ซึ่งมีผลต่อต้นทุนและกำไรทางธุรกิจ  ได้แก่ ค่าใช้จ่ายทางการตลาด ค่าวัตถุดิบค่าใช้จ่ายในการลงทุนด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์ความเปลี่ยนแปลงของอัตราต่างประเทศ

* การสอนให้คนเก่งจนสามารถเอาชนะเราได้ถือว่าเป็นการยกระดับความสามารถของเราขึ้นอีกขั้นจึงจำเป็นต้องจัดระบบสร้างวัฒนธรรมในองค์กรให้เป็นเช่นนี้

* แนวคิดของบริษัท P&G คือ “ทุกสิ่งทุกอย่างเราทำเพื่อผู้บริโภค” โดยมีพันธกิจที่ว่า “เราต้องเป็นแบบที่อยากเป็น” 

* พลังในการสื่อสาร คือ ความสามารถในการสื่อสารความคิดของตนเองไปยังผู้อื่น  มีผลต่อความรู้สึกของผู้รับ  สามารถจูงใจให้ทำอะไรบางอย่าง

* ปัจจัยที่บริษัทต้องการจากพนักงาน ประกอบด้วย

(1) ความเป็นผู้นำ

                (2) ความคิดริเริ่ม

                (3) การทำงานโดยเรียงลำดับความสำคัญของงาน

                (4) ความคิดสร้างสรรค์

                (5) การทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิผล

                (6) ความคิดเชิงกลยุทธ์และความสามารถในการแก้ปัญหา

                (7) ความสามารถในการสื่อสาร

                (8) ความชำนาญเฉพาะด้านในแต่ละฝ่าย

* การประเมินผลการดำเนินงานของบริษัท ประกอบด้วยปัจจัยสำคัญหลายประการ คือ

                (1) การเปรียบเทียบผลการปฏิบัติงานที่ตนรับผิดชอบกับที่ผ่านมา

                (2) แผนการปฏิบัติงาน  ที่ตนเองรับผิดชอบในปีต่อไป

                (3) การพัฒนาความสามารถและทักษะเพื่อการพัฒนางานในสายอาชีพ
* ผู้เขียนเมื่อคราวดำรงตำแหน่ง  Brand Manager ได้จัดอบรมเกี่ยวกับการเขียน Work &Deployment Plan และให้พนักงานประเมินตนเอง หลังจากนั้นก็คัดเลือกคนที่พัฒนาได้

* ที่บริษัท P+G มอบคู่มือการฝึกสัมภาษณ์งานให้กับระดับผู้จัดการเพื่อ ให้มีประสบการณ์ตรง และมีการประเมินผลวิธีการสัมภาษณ์เพื่อตรวจสอบด้วย

* การคิดเชิงกลยุทธ์ หลักเบื้องต้น คือการคิดตามขั้นตอนอย่างเป็นเหตุเป็นผล  จากนั้นก็วางแผนธุรกิจขึ้นมา

* ในฐานะเป็นผู้นำ  จำเป็นต้องมีความสามารถในการวาดภาพวิสัยทัศน์ของสินค้าที่อยากให้เป็นในอนาคตแม้ว่าผู้อื่นจะยังมองไม่เห็น  และต้องจูงใจให้ผู้อื่นทำให้วิสัยทัศน์นั้นเป็นจริงขึ้นมา

* หลังจากผู้เขียนผ่านประสบการณ์เป็น Brand Manager มา 7 ปี ได้เลื่อนขึ้นเป็น Marketing  Manager เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่า บริษัท P+G ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงในตลาดญี่ปุ่น

* ทุกโครงการมักจะเริ่มต้นจากการมองหาประเด็นปัญหากำหนดว่าควรทำอะไรหลังจาการนั้นจึงจะถึงเวลาปรากฏตัวของคนที่สามารถทำงานได้  ไม่ใช่เริ่มต้นจากกการดูว่าคนที่มีอยู่นี้ควรมอบหมายงานหรือธุรกิจอะไรให้ทำ  แต่เป็นการกำหนดงานที่ต้องทำก่อนแล้วจึงมองหาคนที่มีความสามารถเหมาะกับงานนั้น

* บริษัท P&G มีคำกล่าวว่า “ผลงานขององค์กรขึ้นอยู่กับโครงสร้างขององค์กร” โดยคำนึงถึงการไม่ยึดติดกับโครงสร้างเดิมมากเกินไป 

* ตราบใดที่ยังไม่ปรับเปลี่ยนปัจจัยพื้นฐาน (วิสัยทัศน์ กลยุทธ์ และโครงสร้างองค์กร) ก็ไม่สามารถทำให้เกิดการปรับปรุงหรือการเปลี่ยนแปลงที่เห็นผลลัพธ์สักเท่าไร

* การตั้งเป้าหมายไว้สูงอาจทำให้คนอื่นมองว่าทำไม่ได้ง่าย  แต่ความท้าทายนั้นจะทำให้องค์กรเข้มแข็งขึ้น  จึงไม่ควรคิดว่าทำไม่ได้ตั้งแต่แรก  ถ้าทุกคนร่วมแรงร่วมใจใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่  ทำให้บรรลุเป้าหมาย  ก็จะทำให้เกิดความสามัคคีมากขึ้น  และผลลัพธ์ก็จะปรากฏตามมา

* พลังองค์กรของบริษัท P&G  ถูกทดสอบด้วยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่  ในวันที่ 17 มกราคม 1995 (2528) วัดความสั่นสะท้อนได้ 7.3 ริกเตอร์  ในเขตพื้นที่ฮันชินและ อาวาจิ  มีผลให้อาคารสำนักงานใหญ่ของ P&G ที่  โกเบ  ไม่พังสลายแต่เครื่องมือ และเอกสารต่างๆกระจัดกระจาย  สปริงเกอร์ทำงานผิดพลาด  พ่นน้ำออกมาจนภายในห้องทำงานเปียกแฉะไปหมดซึ่งพนักงานระดับล่างได้ช่วยกันคนละไม้คนมือและผู้บริหารระดับสูงประชุมหารือเพื่อแก้ปัญหาสำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้  ผู้เขียนได้เลื่อนตำแหน่งเป็น General Manager เพราะเธอรวบรวมพนักงานประมาณ 600 คนให้เดินทางไปทำงาน ที่โรงงาน  ณ  เมือง โอซาก้า

              * ผู้บริโภคให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

              * ผู้เขียนได้นำแบบคิดและการฝึกอบรม เรื่องความเป็นผู้นำควรมี ถึง 3 ประการ คือ

                                 (1) ENVISION นำองค์กรด้วยวิสัยทัศน์ ดังนี้

                                  ก.กำหนดวิสัยทัศน์ (แนวทางในอนาคต ) และยกวิสัยทัศน์ขึ้นมาใช้ตลอดเวลา

                                  ข.โฟกัสไปที่ความเป็นไปได้

                                  ค.แสดงความเชื่อมั่นต่อวิสัยทัศน์ของตนด้วยคำพูดและการกระทำ

                                (2) ENERGIZE (สร้างแรงบันดาลใจ) ดังนี้

                                 ก.กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน

                                 ข.ตื่นตัวตลอดเวลา

                                 ค.มีความจริงใจในการสื่อสาร

                                 ง.แสดงความเอาใจใส่ต่อผู้อื่น

                                 (3) ENABLE (พัฒนาบุคลากรและองค์กร) ดังนี้

                                  ก.เป็นผู้นำในการดำเนินการเพื่อพัฒนาระบบ

                                  ข.สร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมในการพัฒนาบุคลากร

                                  ค.ชมเชยและให้รางวัลแก่ความสำเร็จและความทุ่มเทของลูกน้อง

                                  ง.ดำเนินการโดยปรับตามสถานการณ์

* ในปี 1998 (2541) ผู้เขียนได้เลื่อนตำแหน่งเป็น  รองประธานบริษัทชาวญี่ปุ่นคนแรกโดยมีความรับผิดชอบการพัฒนาธุรกิจใหม่ในตลาดเอเชีย

* ภารกิจของรองประธาน คือ การสร้างแบรนด์ระดับโลกขึ้นใหม่  เพื่อให้บริษัท P&G เจริญเติบโต อย่างต่อเนื่อง

 * ปี 2000 (2543) ผู้เขียนลาออกจาก บริษัท P & G ได้รับการกล่าวขวัญและชมเชยจากผู้บริหารระดับสูงและระดับล่าง

* ปี 2001 (2544) ผู้เขียนดำรงตำแหน่งประธานบริษัท DYSAN , JAPAN และประธานบริษัท TOYS “ R” US , JAPAN                                                                                                                                                                                           

                อ่านจบแล้ว อยากให้อ่านกันค่ะ เพราะเป็นหนังสือเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรบุคคล  และผู้เขียนได้ถ่ายทอดประสบการณ์ตรงจากการทำงานกับบริษัท P & G เป็นเวลา 23 ปี ในมุมมองด้านการพัฒนาบุคลากรภายในองค์กร พอๆกับการพัฒนาธุรกิจปีใหม่ไทยขอให้สุขใจทุกคนค่ะ 

 

               

   
สารบัญ