คุ้นตากับชื่อหนังสือเล่มนี้ไหมค่ะ?  ใช่ค่ะ  ถ้าคุ้นก็หมายความว่า  คุณเคยอ่านเล่ม ๑ มาแล้ว  สำหรับเล่มนี้เป็นหนังสือที่หมอแดง  ยังเป็นห่วงสุขภาพของคุณ  โดยมุ่งหวังให้ผู้ป่วยจะไม่ป่วยเพิ่มขึ้น  และใช้เส้นทางสาย “ธรรมชาติ”  กันมาใช้นานในการรักษาผู้ป่วย      สรุปดังนี้

                                อาหารเป็นยา  รสของยาจะบอกสรรพคุณของยา คือ รสร้อน  รสเย็น  และรสสุขุม

                                -  อาหารพืชผักที่มีรสร้อน  ใช้ในการขับลม  บำรุงธาตุ  ขับโลหิต  ทำให้ร่างกายอบอุ่น  ช่วยย่อยอาหาร  ทำให้ประสาทตื่นตัว  เช่น  พริกไทย  ขิง  ข่า  ตะไคร้  หอม  กระเทียม  ใบกะเพรา  พริก  ถั่วลิสง  เมล็ดมะม่วงหิมพานต์  ลำไย  ขนุน  อาหารปิ้ง  ย่าง  อบ

                                -  อาหารพืชพักที่มีรสเย็น  ใช้แก้อาการร้อน  แก้ไข้  โดยเฉพาะผู้ที่รู้สึกร้อน  กระหายน้ำง่าย  ชอบดื่มน้ำเย็น  ปัสสาวะน้อย  อุจจาระแข็ง  ท้องผูก  ควรกินพืชผักที่มีสีเขียว  ขาว  สำหรับผลไม้ที่มีน้ำมาก  เช่น  ส้ม  สาลี่  ฝรั่ง  แตงโม  ชมพู่  มะละกอ  แอปเปิ้ล  มังคุด  แห้ว  มะนาว  มะม่วงสุก  มะเขือเทศ

                                -   อาหารพืชผักที่มีรสสุขุม  หรือเป็นกลาง  ใช้แก้  เสมหะ  แก้อาการเป็นลมที่หัวใจ

                                v   มะพร้าว  เป็นผลไม้ที่มีแคลเซียม  แมกนีเซียม  ฟอสฟอรัส  โปรแตสเซี่ยม  มีไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้งานได้ภายใน 5 นาที

                                v   การเจ็บป่วยส่วนใหญ่เป็นเพราะระบบย่อยอาหารไม่ดี  จะเกิดสารอาหารที่มีโมเลกุลโตเกินไป  ทำให้เซลล์ขาดอาหารที่จะเอามาเผาผลาญเพื่อให้ได้พลังงานมาทำงาน  อันเกิดจากการขาดเอนไซม์ย่อยอาหาร

                                v   เอนไซม์จากอาหาร  คือ  เอนไซม์ที่อยู่ในอาหารสดซึ่งทำหน้าที่ย่อยอาหารที่เกิดตรงกระเพาะอาหารตอนบน 50%  และอีก 50% จะถูกย่อยโดยเอนไซม์ย่อยอาหาร 

                                v   เอนไซม์ย่อยอาหาร  หลั่งออกมาจากตับอ่อน  ตับ  และลำไส้เล็ก  จะย่อยอาหารให้เป็นโมเลกุลขนาดเล็กเพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ง่าย

                                v   ในช่องปาก  เป็นศูนย์รวมของเส้นลมปราณ  คือ เส้นที่พลังชีวิตไหลผ่าน  เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นกับอวัยวะภายในร่างกายก็จะเกิดผลกระทบถึงช่องปาก  เพราะช่องปากนั้นเป็นเนื้อเยื่อที่อ่อนนิ่มจึงถูกกระทบได้ง่าย

                                v   สัญญาณเตือนภัย  สะท้อนให้เรารับรู้ว่ากำลังมีปัญหา  เช่น  ริมฝีปากล่างเป็นแผล  หรือแห้งลอกเป็นแผ่น ๆ ฟันและเหงือกล่างเป็นแผล  กำลังบอกว่าลำไส้ใหญ่แห้งและร้อน  ถ่ายไม่ค่อยดี

                                ถ้าเพดาดานบนของปากร้อน  เป็นแผล  แสดงถึงตับและถุงน้ำดีร้อนมาก  เกิดจากการนอนดึก  ชอบทานของทอดมันและไม่ทานผัก

                                ดังนั้น  คนที่ร้อนในต้องพิจารณาพฤติกรรมการดำเนินชีวิต  การเดิน  การดื่มน้ำว่าถูกต้องหรือไม่  สมุนไพรฤทธิ์เย็นช่วยดับความร้อน  กินหลังอาหารสักชั่วโมง  เช่น  ฟ้าทลายโจร  มะพร้าวอ่อน  ใบย่านางคั้นดื่ม

                                เจ็บส้นเท้า  จากแผลที่เท้า  อาการเจ็บเป็นสัญญาณให้รู้ว่ามีปัญหากับ  ไต  ซึ่งเป็นธาตุน้ำ  วิธีแก้  คือ  ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ  นวดเท้า  แช่น้ำอุ่น  เพื่อให้เลือดลมเดินได้ดีฟื้นฟูไตให้ทำงานได้ดีขึ้น

                                v  เส้นเอ็นหลังแข็งเหมือนแผ่นกระดาน  เมื่อผ่านการนวดเท้าพบส้นเอ็นแข็งตึงมาก  เส้นกระเพาะอาหารที่อยู่ตรงสันหน้าแข็งด้านนอกแข็งตึง  แสดงว่ากระเพาะอาหารทำการย่อยอาหารได้ไม่ดี

                                v  เมื่อดื่มน้ำมากช่วงทานอาหาร  แต่เป็นน้ำเย็นและน้ำอัดลมแช่เย็นเข้าไปทำลาย  “ไฟย่อยอาหาร”  อาหารที่ทานเข้าไปก็ไม่ย่อย  สร้างแก๊สและลมเต็มกระเพาะอาหาร  ลำไส้ซึมซับเข้าไปทุกส่วนของร่างกายไม่ว่ากล้ามเนื้อ  เส้นเอ็น  มีช่องว่างอยู่ที่ไหน  “ลมหรือแก๊สพิษ”  ก็จะไปแทรกหมด  ปิดกั้นทางเดินของเลือดลมที่เดินปกติ  และเมื่อดื่มน้ำน้อยเลือดก็จะข้นแถมมีสารพิษ  ทำให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายเสียไปหมดไม่ว่าจะเป็นระบบย่อยอาหาร  ระบบดูดซึม  ระบบขับถ่าย  ระบบประสาท  ระบบการไหลเวียนของเลือดลม

                                v   นิ้วล็อก  ปวดนิ้วมือ  ปวดแขน  ยกแขนไม่ขึ้นเป็นเพราะความไม่เข้าใจเรื่องการดื่มน้ำ  ลมปราณไม่ดี ก็เกิดกับปัญหานิ้วได้  เช่น  นิ้วหัวแม่มือ  อยู่ในแนวเส้นลมปราณปอด  ปอดมีปัญหาก็กระทบนิ้วหัวแม่มือได้

                                นิ้วชี้แข็งตึง  การขับถ่ายไม่ดี  ลำไส้มีลมมีแก๊สเพราะเส้นลมปราณลำไส้ใหญ่แล่นผ่านนิ้วชี้

                                นิ้วกลาง  บริเวณหน้าอกมีลมอัดแน่นมาก  นอนดึก  ทานน้ำน้อย  ลมปราณของเยื่อหุ้มหายใจไหลเวียนได้ไม่ดี

                                นิ้วนาง  เป็นเพราะมีลมอัดแน่นอยู่ในช่องว่างระหว่างช่องท้อง

                                นิ้วก้อย  เพราะลำไส้เล็กย่อยไม่ดี  หรือหัวใจกำลังมีปัญหา  เส้นเลือดหัวใจอาจจะอุดตัน  เลือดเลี้ยงหัวใจไม่พอ

                                v   ไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรก็ตาม  หมอแดง  กดจุดแล้วจากคนไข้หลายราย  พบว่า  กินยา  แก้อักเสบเข้าไปกระเพาะก็จะแย่  ทำให้ย่อยไม่ดี  เกิดอัดลมเข้าไปแน่นจึงเกี่ยวกับการดื่มน้ำเป็นสาเหตุใหญ่ที่ผิดวิธีนั่นเอง                  

v    หมอแดง  แนะนำให้ทำ  Oil Pulling  ซึ่งรักษาโรคได้  เป็นศาสตร์ของอินเดีย  คือ 

การนำน้ำมันพืชมาสกัดเย็น  แต่เดิมใช้น้ำมันงา  น้ำมันดอกทานตะวันมาบำบัดรักษาโรค  ปัจจุบันน้ำมันมะพร้าวและน้ำมันมะกอกมาสกัดเย็น 

                                v   วิธีการทำ Oil Pulling  คือ 

                                     (1)  อมน้ำมันมะพร้าวเพียง 1 ช้อนชา ไว้ในปาก 15 – 20 นาที  น้ำมันเปลี่ยนสภาพ
เป็นน้ำ  ไม่เหนียวข้นเหมือนตอนแรก

                                     (2)  ควรทำตอนท้องว่าง  โดยตื่นนอนตอนเช้าดื่มน้ำก่อน 2 – 3 แก้ว  แปรงฟันแล้วจึงอมน้ำมันมะพร้าว

                                     (3)  ขณะอมให้แกว่งแขนไปเรื่อย ๆ

                                     (4)  การอมน้ำมัน  จะช่วยกระตุ้นเอนไซม์ให้ทำการขับเชื้อโรคออกมา

                                หนังสือเล่มนี้ยังมีกรณีผู้ป่วยที่กล่าวถึงการรักษากับหมอแดง  ไว้อย่างละเอียด  โดยอ้างการเจ็บป่วย  แล้วรักษากับหมอมานับไม่ถ้วน  ชีวิตเป็นสุขก็เพราะหมอแดง  น่านับถือมากเพราะตัวอย่างแต่ละกรณีเชื่อได้  เนื่องจากระบุ  ชื่อ  สกุล  อายุ  และอาชีพไว้อย่างชัดเจน

                                หาอ่านได้ที่ห้องสมุด  ชั้น  8 ค่ะ