หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาที่ให้ข้อคิดและเป็นแรงบันดาลใจให้ทะยานไปสู่ความสำเร็จด้วยการใช้หลักการ 13 ข้อ เพื่อไม่ให้คุณมีแต่ความเก่งเท่านั้น แต่จะต้องมีบางสิ่งที่เสริมความสามารถ ซึ่งจอห์น   แม็กซ์เวลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะผู้นำ ผลงานการเขียนมียอดขายทั่วโลกเกินหนึ่งล้านเล่ม   ติดอันดับขายดีหลายเล่ม
                                ผู้เขียนบอกเคล็ดลับในการตัดสินใจ ยกตัวอย่างบุคคลที่น่าเชื่อถือที่พัฒนาความสามารถให้ดีขึ้น ซึ่งอ่านเข้าใจง่าย ติดตามได้ดังนี้

                                คนเก่ง มีความสามารถสูง   ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จอย่างที่ฝันได้ทุกคน  จึงต้องตระหนักถึงองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น  การทำงานเป็นทีม  ความใฝ่รู้  การมีอุปนิสัยที่ดีและมีคุณธรรม

                                หลักการ  13  ประการ  คือ

1.       ความเชื่อมั่นช่วยยกระดับความสามารถของคนได้โดยเน้น  การตรงต่อเวลา  ความพยายาม  ความอดทน  และความไม่เห็นแก่ตัว

                                       วิลเลี่ยม  เจมส์  นักจิตวิทยาและนักปรัชญากล่าวว่า  “มีสิ่งเดียวจริง ๆ  ที่เป็นสาเหตุแห่งความล้มเหลวของมนุษย์นั่น คือ  คนเราขาดความเชื่อมั่นในตัวตนจริง ๆ”

                                2.  ความหลงใหลคลั่งไคล้  ช่วยกระตุ้นความสามารถของคุณได้                                                  

                                      คนที่มีความหลงใหล  แม้มีความสามารถอยู่จำกัดย่อมประสบความสำเร็จได้มากกว่าคนมีความสามารถเหนือกว่า  แต่กลับรอคอยให้โอกาสดี ๆ วิ่งเข้ามาโดยเฉพาะคนที่มีความหลงใหลจะทำอะไรด้วยความกระตือรือร้นและจะเดินหน้าต่อไปเรื่อย ๆ ดังนั้น  เมื่อความสามารถร่วมกับความหลงใหลก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้เดินหน้าไปได้อย่างสบาย

3.        การเริ่มต้นลงมือทำช่วยให้สามารถของคุณได้ทำงาน

        การเริ่มลงมือทำ คือ  บันไดก้าวแรก  แล้วทำต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะก้าวหน้าไปไกล

        เอ็ม.  สก็อต  เพค  จิตแพทย์  กล่าวว่า  “ ชีวิตเป็นเรื่องยากลำบาก  แท้จริงแล้วไม่ใช่ปัญหาของคนแต่หลายต่อหลายคนรอคอยให้สิ่งที่ดีเข้ามา  ซึ่งไม่ใช่จะมาหาเราได้ง่าย ๆ ดังนั้น  การจะมีโอกาสได้สิ่งที่ปรารถนาเราต้องใช้ความพยายามเพื่อให้ได้มันมา”

ผู้เขียนแนะนำให้ทำการแบ่งเป้าหมายที่ดูน่าหนักใจให้กลายเป็นงานที่รับมือได้  ดังนี้

(1)    แบ่งงานออกเป็นลำดับขั้น

(2)    จัดลำดับงานตามความสำคัญ

(3)    จัดเรียงลำดับของงาน

(4)    มอบหมายงานไปตามความสามารถ

(5)    ร่วมมือกันทำงานนั้นให้ความสำเร็จ

4.       การมีเป้าหมายที่ชัดเจนช่วยกำกับทิศทางให้ความสามารถของคุณ

                เคอร์รี่  แรนดอลล์  ขยายความ  บอกว่า  “ชีวิตคนเราไม่ได้ดีขึ้นด้อยโอกาส  แต่ชีวิตดีขึ้นได้เพราะการเปลี่ยนแปลง  เป็นการเปลี่ยนแปลงความคิด  ซึ่งจะมีผลให้ชีวิตก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป  นอกจากต้องอาศัยความมั่นใจแล้ว  ต้องกำหนดเอาไว้เลยว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเอง  เชื่อมั่นในงานของคุณ  รวมถึงในตัวคนอื่นด้วย”

           การมีเป้าหมายที่ชัดเจน  ต้องมีวิธีการดังนี้

(1)    ต้องมีจุดมุ่งหมาย  โดยให้นึกว่าการกระทำทุกอย่างต้องทำให้มันมีคุณค่ามีความหมาย

(2)    ลองท้าทายข้อแก้ตัวของตัวเองเราส่วนใหญ่ล้วนมีเหตุผลในการไม่ยอมทำเรื่องที่พึงกระทำโดยบอกว่ามีเวลาไม่พอบ้าง  มีความสามารถไม่ถึงบ้าง  ได้รับความช่วยเหลือไม่มากพอมีปัญหาบ้าง  บอกว่าตัวเองมีจุดอ่อน  มีสิ่งรบกวนสมาธิบ้าง  จึงไม่ควรปล่อยให้เหตุผลดังกล่าวมาเป็นอุปสรรค

(3)    อย่าปล่อยให้วันวานเข้ามายึดความตั้งใจของคุณ  หากจะใช้ความสามารถให้เกิดประโยชน์สูงสุดและประสบความสำเร็จด้วยแล้ว  จะต้องเอาใจใส่เรื่องที่ทำอยู่ในตอนนี้  การมุมานะไปให้ถึงความสำเร็จก็ไม่ต่างอะไรกับการยึดถือความคิดที่ดี

(4)    สนใจปัจจุบัน  หมายถึงอย่าให้ความสำคัญเรื่องวันวาน แต่ไม่ควรเน้นเรื่องวันพรุ่งนี้เช่นกันและเพราะวันวานคุณเปลี่ยนแปลงมันไม่ได้  จะไปหวังพึ่งวันพรุ่งนี้ก็ไม่ได้  แต่วันนี้  คือ  วันที่คุณเลือกได้ว่าจะทำอะไร  จึงควรสนใจเรื่องในวันนี้  แล้วมันจะให้ผลตอบแทนในวันข้างหน้า

(5)    จดจ่ออยู่ที่ผลลัพธ์ของงานที่จะออกมาก็จะอยู่กับความจริง  ย่อมเกิดความรู้สึกว่า  การคิดแง่ดีต่อไปเรื่อย ๆ การต้องพบปะผู้คนมากมายย่อมเกิดปัญหา  อาจมีบางคนส่งผลในทางลบ  บุคคล 5 ประเภท  ที่มีโอกาสพบปะมีดังนี้

·       พวกช่วยกระตุ้น  -  พวกเขาช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คุณทำความฝันและกระตุ้นความสามารถของคุณ

·       พวกช่วยขัดเกลา – พวกเขาช่วยให้ความคิดของคุณเฉียบแหลม

·       พวกสะท้อนให้เห็นพลังที่มีอยู่ – พวกเขาแสดงความกระตือรือร้น

·       พวกบั่นทอน – พวกเขาพยายามลดวิสัยทัศน์ให้สั้นลงและบั่นทอนความพยายามให้อยู่ในระดับเดียวกับเขา

·       พวกไม่ยอมรับ – พวกนี้ไม่ยอมรับความสามารถของคุณ  ขัดขวางความพยายามตลอดจนกีดขวางวิสัยทัศน์ด้วย

5.  การเตรียมตัวช่วยให้ความสามารถอยู่ในตำแหน่ง  ที่ถูกต้อง                               
                เบนจามิน  ดิสราเอลลี อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษเสนอความคิดเห็นไว้ว่า  “เคล็ดลับของความสำเร็จในชีวิตอยู่ที่คนเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับโอกาสที่จะมาถึง” 

            สิ่งเดียวที่จะลดความกดดันลงได้ก็ คือ  การเตรียมตัวให้พร้อม

การเตรียมตัวให้พร้อมเป็นเรื่องที่คุณต้องเลือกเอง  ต้องตัดสินใจเอง  บางครั้งอาจต้องเสาะหาคนแนะนำเก่ง ๆ กรณีที่คุณไม่ถนัดในงานนั้น ๆ

6.        การฝึกฝนช่วยให้ความสามารถของคุณเฉียบคมยิ่งขึ้น

            คนที่ประสบความสำเร็จต่างเข้าใจดีว่าคุณค่าของการฝึกฝนเกิดจากการสร้างระเบียบวินัยขึ้นเพื่อจะทำได้อย่างสม่ำเสมอซึ่งจะต้องเหนื่อยและยอมลำบากเพื่อแลกกับความสำเร็จนั่นเอง

            สิ่งสำคัญของการฝึกฝน  คือ

(1)    การฝึกฝนทำให้เกิดการพัฒนาและช่วยให้รับรู้ทักษะใหม่เพิ่มเข้ามา

(2)    การฝึกฝนนำไปสู่การค้นพบสิ่งใหม่ ๆ รวมถึงช่วยสร้างความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงในการทุ่มเทอย่างสุความสามารถ

(3)    การฝึกฝนจำเป็นต้องใช้ระเบียบวินัย

7.       ความไม่ย่อท้อช่วยรักษาความสามารถของคุณให้คงอยู่ต่อไป

     ความไม่ย่อท้อไม่เกี่ยวกับความสามารถไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเวลาแต่เป็นเรื่องของการทำงานสำเร็จลุล่วง  โดยกล้าที่จะฝันและยอมรับว่าชีวิตไม่ใช่การแข่งขันระยะทางไกล  แต่เป็นการแข่งขันระยะทางสั้น ๆ อย่างต่อเนื่อง

8.       ความกล้าหาญช่วยให้ความสามารถของคุณได้รับการทดสอบ

       เจมส์  ฮาร์ลี่ย์  โรบินสัน  นักประวัติศาสตร์ชาวอเมริกัน  ยืนยันว่า  “ความยิ่งใหญ่เกิดขึ้นได้เพราะความกล้าหาญ  คือ  กล้าที่จะหนีจากความคิดเก่า ๆ หนีจากมาตรฐานเดิม ๆ

       นักบุญฟรานซิส  เดอ  ซาเลส์  แนะนำว่า  “จงอดทนต่อทุกเรื่อง  แต่ที่สำคัญจงอดทนกับตัวเองให้มากที่สุดอย่าไปกลัวที่จะพิจารณาข้อบกพร่องของตัวเอง  แต่จงเริ่มต้นแก้ไขเรื่องนั้นทีนที  โดยทุกวันให้เริ่มต้นด้วยวิธีการใหม่ ๆ

9.       ความใฝ่รู้ช่วยให้ความสามารถของคุณขยายขอบเขตออกไปมากขึ้น

                ความใฝ่รู้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความสามารถและเรื่องจิตใจ  แต่เป็นเรื่องของทัศนคติ คือ  มีความอยากจะรับฟัง  เรียนรู้และนำไปใช้

10.    อุปนิสัยที่ดีงามช่วยปกป้องความสมารถของคุณได้

                คนเก่งได้รับความยกย่องเพราะสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ขึ้นมา  อุปนิสัยที่ดีงามก็ช่วยสร้างสิ่งดี ๆ ขึ้นในตัวคนเก่งทำนองเดียวกัน  คนที่มีความสามารถ  เขาก็มีศักยภาพจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ได้  อุปนิสัยที่ดีงามก็จะช่วยปกป้องสิ่งดี ๆ ไว้ได้ และยังมีผลต่อตัวคนอื่น ๆ ซึ่งสามารถแสดงออกถึงต่าง ๆ ได้ดังนี้

(1)    แสดงออกถึงความเสมอต้นเสมอปลาย

(2)    แสดงออกถึงการได้ตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดี

(3)    แสดงออกถึงการโน้มน้าวและจูงใจผู้อื่นได้

(4)    แสดงออกถึงความยั่งยืนถาวร

11.  ความสัมพันธ์กับคนอื่นมีอิทธิพลต่อความสามารถของคุณได้

                                วิธีที่ 2  วิธี  ช่วยบอกได้ว่าความสัมพันธ์ที่เรามีเป็นบวกหรือลบ

                (1)  ลองสังเกตว่าบุคคลนั้นทำให้คุณรู้สึกดีหรือว่าแย่ต่อตัวเอง

                (2)  การคบหากับเขา  ต้องใช้พลังมากน้อยขนาดไหน  บางคนอาจดึงพลังออกไปจากตัวคุณ

                ความสัมพันธ์กับคนบางคนทำให้เราดีขึ้นได้อย่างชัดเจน  มันช่วยเพิ่มพลัง  สร้างแรงบันดาลใจและเห็นด้วยกับความคิดของเรา  ความสัมพันธ์พวกนี้ให้ความหวังและกำลังใจ  รวมทั้งให้ความสุขแก่เราด้วย

12. ความรับผิดชอบช่วยให้ความสามารถของคุณแข็งแกร่งขึ้น

                     ความรับผิดชอบช่วยคุณได้ดังนี้

(1)    ความรับผิดชอบเป็นพื้นฐานของความสำเร็จ

(2)    ความรับผิดชอบเมื่อจัดการรับมันอย่างถูกต้อง  ย่อมนำไปสู่ความรับผิดชอบที่สูงขึ้นไปอีก

(3)    ความรับผิดชอบช่วยเพิ่มความสามารถและโอกาสจนถึงขีดสูงสุด

(4)    ความรีบผิดชอบนั้นเมื่อนานวันเข้าจะก่อตัวเป็นความไว้วางใจ

13. การทำงานเป็นทีมช่วยเพิ่มความสามารถของคุณขึ้นเป็นทวีคูณ

                สิ่งที่ผู้เขียนแบ่งปันให้รับรู้เกี่ยวกับการทำงานเป็นทีม  มีดังนี้

(1)    การทำงานเป็นทีมช่วยแบ่งเบาแรงงานและช่วยให้งานมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

(2)    คนเก่งชนะได้แค่การแข่งขันเป็นนัด ๆ แต่การเล่นเป็นทีมพาให้ทีมคว้าตำแหน่งชนะเลิศ

(3)    หากจะทำงานเป็นทีม  ต้องอย่านึกถึงแต่ตัวเอง

(4)    ทีมงานที่ยิ่งใหญ่สร้างมิตรภาพขึ้นมาในกลุ่ม

                ขอชื่นชมผู้เขียนที่นอกเหนือจากการยกตัวอย่างของบุคคลต่าง ๆ แล้วยังแบบฝึกหัดให้ทดสอบความสามารถ  ความเก่งกันอีกด้วย  หาอ่านได้จากห้องสมุดชั้น 8 ค่ะ