ผู้เขียนผ่านการทำงานด้านการขาย  พบความล้มเหลวของการทำธุรกิจส่วนตัว  และแบกรับภาระหนี้สินหลายสิบล้านเยนจากการลงทุน  ในด้านสุขภาพเมื่อเด็กเป็นโรคผิวหนังทั่วร่างกาย  ทำให้คิดว่า  “ชีวิตเต็มไปด้วยความทุกข์”  หลายปีเมื่อเปลี่ยนวิธีคิดก็ทำให้ชีวิตผ่านไปอย่างเรียบง่ายโดยไม่มีเหตุร้ายใดเกิดขึ้น แล้วยังสามารถรู้สึกยินดีต่อการได้รับโอกาสอย่างบังเอิญซึ่งนำมาเผยแพร่ให้ผู้อ่านรู้ทันสัญญาณแห่งความสุข  รวมทั้งวิธีการประยุกต์ใช้สัญญาณแห่งความสุขอย่างเป็นรูปธรรม  สรุปได้ดังนี้รู้ทันโอกาส  แล้วดึงโอกาสนั้นเข้ามาหาตัว  ซึ่งเป็นเรื่องของความรู้สึก  และ

ยังเกี่ยวข้องกับประเด็นที่มีเป้าหมายที่ชัดเจนด้วย

 คว้าโอกาสไว้แล้วนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์โดยต้องมีความพร้อมในการลงมือปฏิบัติอย่างเต็มที่ทั้งใช้ประสบการณ์และฝีมือด้วยขยายโอกาสนั้นออกไป  แล้วรักษาไว้ให้คงอยู่อย่างต่อเนื่อง  โดยแบ่งปันโอกาสกับคนรอบข้าง  แล้วโอกาสก็จะกลับมาหาตัวเราและคนรอบข้างอีก

                                ความผิดหวังเป็นสิ่งยืนยันว่าคุณคือผู้ที่กล้าท้าทายสำหรับผู้เขียนใช้การเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่นรวมถึงประสบการณ์ของตัวเอง  และการหาหนทางอย่างสร้างสรรค์มาบรรยายเพื่อให้ผู้ฟังมีกำลังใจเมื่อพบกับความล้มเหลว

                                หลายครั้งที่พบความลำบากหรือบทบาททดสอบที่ยากเย็น  ขอให้ขัดเกลาฝีมือ  ความสามารถ  และนิสัยใจคออยู่เสมอ

                                แม้จะพบเจออุปสรรค์สักกี่ครั้งก็ตามให้ลองสู้ด้วยวิธีการใหม่ๆทุกครั้ง  และมีทัศนคติในการกล้าที่จะทำสิ่งใหม่ๆ  ก็จะนำไปถึงความสำเร็จที่เปี่ยมด้วยความสุขในที่สุด

                                ทุกเหตุการณ์ถือเป็นสัญญาณแห่งความสุขทั้งสิ้นเพราะได้ตระหนักว่า  ถ้าได้ทำเรื่องที่ควรทำไว้อย่างดีแล้ว

                                สิ่งที่เป็นความทุกข์ที่สุด  คือ  การไม่รู้ทันต่อความสุข

                                ชีวิตที่ไร้เป้าหมาย  จะถูกชักจูงด้วยเรื่องต่างๆ  ตลอดเวลา  เช่น  พอเปิดโทรทัศน์เห็นรายการน่าสนใจกำลังออกอากาศ ก็เผลอนั่งดู  พอเห็นของอร่อยอยู่ตรงหน้าแม้จะไม่หิวเท่าไร  แต่ก็เผลอทาน  พอเห็นเสื้อผ้าที่โชว์อยู่ตามร้าน  ก็ยังซื้อมาอีก  ทั้งๆ ที่มีเสื้อผ้าอยู่เต็มตู้ ดังนั้น  ควรดำเนินชีวิตอย่างมีเป้าหมาย  กรณีของการทำงานก็เช่นเดียวกัน  ถ้าเรามีความมุ่งมันที่ชัดเจน  ก็สามารถจับแนวคิดหรือแนวทางธุรกิจจากโอกาสได้อย่างมากมาย

                                ผู้เขียนแนะนำให้พบปะกับคนที่จะช่วยให้เราพัฒนาตัวเองก็คือ  การนำตัวเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่จะกระตุ้นการพัฒนาตัวเอง  เช่น  อาจเข้าร่วมการสัมมนาที่มีผู้คนซึ่งมีความใฝ่รู้สูงมารวมตัวกัน  และเมื่อพบกับคนที่โชคดีทำอะไรก็ราบรื่นตามไปด้วย

                                ในงานเลี้ยงที่มีคนมารวมตัวกันมากๆ  จะมีการแลกเปลี่ยนนามบัตร  นับเป็นการสร้างเครือข่าย  ทำให้มีโอกาสดีเข้ามา

                                การได้พบกับผู้ให้คำปรึกษา  จะทำให้เราได้ขัดเกลาตัวเอง  และก่อนที่จะพบกับผู้ให้คำปรึกษา  ถ้าได้ฝึกความชำนาญพิเศษอะไรสักอย่างก็จะดียิ่งขึ้น

                                การให้หรือการสนับสนุนด้วยความยินดีนั้นไม่เพียงแต่จะเรียกความสุขเข้ามาได้เท่านั้น  แต่ยังเป็นรากฐานในการขยายโอกาสให้กว้างออกไป

กฎ  5  ประการ  ของ  “การให้คือการได้รับ”  คือ  (1)  เมื่อให้บางสิ่งแก่ใคร  เราจะได้สิ่งที่สมกับที่ให้ไป  (2)  เมื่อให้บางสิ่งแก่ใคร  หลังจากเวลาผ่านไปบางทีอาจจะได้รับกลับมาในรูปของเหตุการณ์  (3)  เมื่อให้บางสิ่งแก่ใคร  เราจะได้สิ่งที่สมกับที่ให้ไปจากใครบางคน  ที่ไม่ใช่คนที่เราให้  (4)  การให้บางสิ่งแก่ใครนั้นเป็นความสุขมากอย่างหนึ่งจึงถือได้ว่า  เราได้รับความยินดีจากการให้นั้นได้ทันที  (5)  ความหมายที่เราให้ต่อปรากฎการณ์ใดปรากฎการณ์หนึ่ง  จะเป็นความหมายที่เราจะได้รับด้วย 

                                หนังสือเล่มนี้บอกถึงวิธีการใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์และการรู้ทันสัญญาณแห่งความสุข  รวมถึงวิธีการประยุกต์ใช้สัญญาณแห่งความสุขนั้นอย่างเป็นรูปธรรมเมื่ออ่านจบแล้ว  จะเป็นดังนี้โชคดียิ่งขึ้น
สามารถรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตได้อย่างสุขใจรู้สึกไวต่อสิ่งนำทางชีวิตที่เคยมองข้าม
ได้พบกับการสิ่งวิเศษที่ทำให้สามารถมีความสุขได้อย่างเต็มที่สนุกสนานกับชีวิตได้มากขึ้น