เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » สรุปหนังสือ » รายละเอียด

ใครไม่ป่วย ยกมือขึ้น ๑

   
ผู้เรียบเรียง : วีระชัย วาสิดิลก (หมอแดง) 
สำนักพิมพ์ : บริษัท เกียวโต เนชั่น พริ้นติ้ง เซอร์วิส จำกัด
จำนวนหน้า : 164 หน้า
ราคา : 125 บาท
ผู้สรุป : พูนสุข มนัสวิวัฒน์  
   
   
บทสรุป :

 


                                                                                                                  

                             หนังสือเล่มนี้เน้นการบำบัดโรคโดยใช้หลักของธรรมชาติบำบัดที่มีความเป็นเอกลักษณ์การแพทย์ไทย  การแพทย์แผนจีน  โดยเน้นการรักษา 3 อย่าง คือ การใช้ยาสมุนไพร
 การนวด  และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม

                                อ่านแล้วสะดุดตาตรงคติพจน์ที่ว่า  “หมอที่เก่งที่สุด ไม่ใช่หมอเทวดา  แต่คือตัวของท่านเอง  ยาที่ดีที่สุด  ไม่ใช่ยาที่แพงที่สุด  แต่คือ  ยาที่สร้างขึ้นมาจากร่างกายที่สมดุล” 

                                ผู้เขียนได้ศึกษาแพทย์แผนจีนจากแพทย์จีนเป็นวิทยากรทางโทรทัศน์ และวิทยุ 4 รายการได้เรียบเรียงผลงานของกูรูหลายท่านมารวมไว้ในหนังสือนี้  รวมถึงยกตัวอย่างของคนไข้  เพื่อยืนยันว่าหลังจากผู้ป่วยรักษามาเป็นเวลานานก็ไม่หายแต่มาเจอหมอแดง (ผู้เขียน)  จึงหายเป็นปรกติ

 

สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

   การดูแลโภชนาการ  ดำเนินชีวิตให้ถูกต้องตามหลักของธรรมชาติ  การนวด  การออกกำลังกาย  นั่งสมาธิ  พักผ่อน  โรคภัยก็จะไม่มาเยือน

   ตื่นเช้า  (ก่อนแปรงฟัน)  ให้ดื่มน้ำเปล่า(ไม่เย็น) 2-5 แก้ว  เพื่อชำระล้างของเสียในร่างกาย

   หลังจากทานอาหาร 40 นาที  ควรดื่มน้ำได้ตามปรกติ

   หากป่วย  ควรดูแลสุขภาพด้วยอาหารไทย ยาสมุนไพรไทย โยคะ  ฤษีดัดตน  สวดมนต์  นั่งสมาธิ  เพื่อให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ

   การนวดสามารถกระตุ้นภูมิต้านทาน  หรือ “พลังบำบัด” ขึ้นมา  เพื่อจะได้ต่อต้านกับโรคภัยไข้เจ็บ  โดยเฉพาะคนเป็นโรคเบาหวานอันเกิดจากเลือดลมที่ไม่สามารถหมุนเวียนไปเลี้ยงเท้า

   ตามหลักแพทย์จีน  ร่างกายเรามีเส้นลมปราณใหญ่ ๆ อยู่ 12 คู่  แบ่งแยกกันซีกซ้ายและขวาข้างละ 2 เส้น เรียกว่าเส้นหมุนเวียนพลังผ่าน 24 ชั่วโมงพอดีถ้าไม่ติดขัด

   เส้นลมปราณทั้ง 12 เส้น  จะต่อเชื่อมกันเหมือนวงกลม  ไม่มีสิ้นสุด  และยังมีเส้นลมปราณเล็ก ๆ ที่เปรียบเสมือนถนนที่ตัดเชื่อมต่อกันเป็น ตรอก ซอย ที่เชื่อมโยงตัดกันไปมาเหมือนตาข่ายเชื่อมร่างกายทุกส่วนให้เป็นหนึ่งเดียว ดังนั้น  เมื่อเจ็บป่วยก็สามารถนวดกระตุ้น  ได้ทุกส่วน

   อาการปวดเข่ามักจะเกิดจากกระเพาะอาหารที่ย่อยได้ไม่ดี  ซึ่งเส้นลมปราณกระเพาะอาหารผ่านเข่าด้านนอกผ่านไปตามสันหน้าแข็งด้านนอกจึงควรนวดปรับสมดุลเลือดลมให้หมุนเวียนดี  อาการปวดเข่าก็จะหายไปโดยไม่ต้องกินยาแก้ปวดให้กัดกระเพาะ

   เมื่อปวดศีรษะไมเกรนก็สามารถนวดเท้ากระตุ้นเพื่อการรักษาได้  เพราะเท้าเป็นศูนย์รวมของเส้นลมปราณและง่ายต่อการนวดบำบัด

   การนวดจะช่วยขับของเสียที่ปิดกั้น  เพื่อเปิดทางให้เลือดลมหมุนเวียนได้ดีขึ้น

   น้ำ  เป็นสิ่งสำคัญที่ก่อให้เกิดอาการปวดหลังเหมือนเส้นผมบังภูเขาที่เรามองข้ามกันไปหมดโดยมากจะเป็นการดื่มน้ำผิด  ในช่วงรับประทานอาหาร  ซึ่งการดื่มน้ำมาก  2-3 แก้ว  หรือดื่มน้ำอัดลมเข้าไปทำลาย  “ไฟในการย่อยอาหาร”  อาหารก็เลยไม่ย่อย  เมื่อไม่ย่อยก็เกิดการหมักหมมอยู่ในกระเพาะ  ลำไส้และแทรกซึมเข้าไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย  โดยเฉพาะแผ่นหลังลมจะอัดแน่นทับท่อ  เส้นเลือด  ลมปราณก็จะทำก็จะทำให้ “ท่อ”  ที่ถูกกดทับ  ตีบตัน  การไหลเวียนของเลือดลมก็ไม่สะดวก  ก่อให้เกิดอาการปวดหลัง

   คนไข้ผ่านการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แล้ว  หมอบอกว่ากระดูกแถวเอวเสื่อม  ทำให้ปวดสะโพกร้าวถึงขาแขนก็ชา  ได้ทำกายภาพบำบัดแล้วอาการปวดดีขึ้นแต่อาการชาที่แขนยังไม่หายหมอให้กินยาบำรุงประสาทกินหลายเดือนก็ไม่หายชา  ต่อมาให้หมอแดง(ผู้เขียน)  นวดกดจุดพบว่าไม่ได้เกี่ยวกับกระดูกเสื่อมแน่นอน  แต่เกิดจากอาหารไม่ย่อยและดื่มน้ำน้อยเกินไปจนเส้นเอ็นกล้ามเนื้อแข็งตึง  จึงนวดให้ย่อยขึ้น  เพื่อให้คลายของเสียออกจะได้ไม่ตึงไม่เข็งเลือดลมปรกติไหลเวียนสะดวกทำให้หายปวดเมื่อยและชาอีก

   คนไข้ผู้นี้เป็นหญิง  มีอาการเวียนศีรษะเหมือนบ้านจะหมุน  คลื่นไส้อาเจียน  มึนงง  ไปหาหมอตรวจพบว่าเป็น  “โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน”  รักษาอย่างไรก็ไม่หาย  มาพบผู้เขียนจึงรู้ว่า  อาหารที่เธอกินไปนั่นแหละเป็นตัวก่อให้เกิด  ลิ่มเมือก  แก๊ส  เข้าไปอุดตันทางเดินของเลือดลมทางเดินหายใจเลือดจึงไปเลี้ยงช่วงศีรษะ หู ตา คอ จมูก  ได้ไม่ดี  จึงเกิดอาการหน้ามืด  ตาลาย  วิงเวียนจะเป็นลมเมื่อหมอแดง (ผู้เขียน)  นวดกดจุดไล่ลม  เธอจะเรอออกมาตลอด อีก 2 วัน  ต่อมา  อาการของเธอดีมากเธอ

   ผลไม้ที่กินแล้วสร้างแก๊สได้เร็วมาก  โดยเฉาะอย่างยิ่งหากน้ำไปแช่เย็นยิ่งเพิ่มปัญหาให้อีก  คือ  กล้วยหอม  ทุเรียน  ขนุน และผลไม้หวาน สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง  คือ  ไม่ควรกินตอนท้องว่าง

   ผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษาจากหมอแดงนั้นส่วนใหญ่มีปัญหาจากการดื่มน้ำไม่เป็น  ไม่เข้าใจ  วิธีการดื่มน้ำ  คนไข้หญิงคนหนึ่งอาชีพครูทนทุกข์ทรมานกับโรคภัยไข้เจ็บมาหลายปี  เสียเงิน  เสียเวลา  กระทบกระเทือนต่อหน้าที่การงาน  แรก ๆ  มีอาการปวดใหล่  ปวดขมับต่อมาลามที่สะโพก  จนถึงเท้า  หมอทีโรงพยาบาลบอกว่ากระดูกทับเส้น  แต่หมอแดง บอกว่า  เป็นเรื่องของการดื่มน้ำเพราะตามประวัติ  คุณครูคนนี้ดื่มน้ำก่อนทานอาหาร 1 แก้ว ทานอาหารไปก็ดื่มน้ำไปอีก  4-5 แก้ว  หลังอาหารดื่มอีก 3-4 แก้ว  รวมแล้วดื่มน้ำมากถึง 2 ลิตร  ในช่วงทานอาหารจึงแนะนำให้เปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มน้ำ  ต่อมาโรคทั้งหลายหายเป็นลำดับ

   คนที่เป็นซีสต์  ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นเมือก  เป็นเมือก  เป็นลิ่ม  เป็นมัน  เช่น  เนื้อ นม แป้งขัดขาว

   คนไข้สาวสวยชาวเกาะสมุย  ได้มาพบหมอแดง เพราะอ่านหนังสือแล้วศรัทธา จึงตัดสินใจเข้ากรุงเทพ  ประวัติของเธอ คือ กินเยอะ ชอบดื่มน้ำเย็น  ขนมหวาน  และนมกล่อง  เคยปวดเข่ามาก  งอเข่าไม่ได้ตรวจเลือด  หมอบอกว่า  เลือดข้น  ไตเริ่มไม่ดี  ชาปลายเท้าในตอนเช้า  แต่หมอแดง  บอกว่า  โรคทุกโรคล้วนมีสาเหตุเรื่องการย่อยไม่ดี  จึงนวดกดจุด  เธอเจ็บไปแทบทุกจุดแสดงว่าเลือดลมหมุนเวียนไม่ดี  โดยเฉพาะแนวเส้นลมปราณ “กระเพาะอาหาร”  บำบัดเพียง 3 ครั้ง รวมถึงทำดีทอกซ์อาการโล่งสบายท้อง  จึงกลับเกาะสมุยอย่างสบายใจ

   หมอแดง  ได้รวบรวม  “สมุนไพรบำบัด”  ไว้ใน  www.the_arokaya.com  นั้นเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมสูง  ขอยกตัวอย่าง  ดังนี้

   สมุนไพรบำบัด  ท้องอืด  ท้องเฟ้อ  แน่นจุกเสียด

ขนานที่ 1 คือ  ขมิ้นชัน

ขนานที่ 2 คือ  ขิง

ขนานที่ 3 คือ กานพลู

ขนานที่ 4 คือ  กระเทียม

ขนานที่ 5 คือ  กะเพรา

ขนานที่ 6 คือ  ตะไคร้

ขนานที่ 7 คือ  พริกไทยดำ

         มะรุมเป็นพืชที่มีธาตุอาหารปริมาณสูงมากดังนี้

-          มีวิตามินเอ  บำรุงสายตามากกว่าแครอท 3 เท่า

-          มีวิตามินซี  ช่วยป้องกันหวัด 7 เท่าของส้ม

-          มีแคลเซียม  บำรุงกระดูกเกิน 3เท่าของนมสด

-          มีโพแทสเซียม  บำรุงสมองและระบบประสาท 3 เท่าของกล้วย

-          มีใยอาหารและพลังไม่สูงมากเหมาะสมกับผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก


 

นอกจากนี้  น้ำมันมะรุมสกัด  มีองค์ประกอบคล้ายน้ำมันมะกอกดีต่อสุขภาพ

           ควรกินอาหารเช้า  เพราะช่วงเช้าเป็นเวลาที่ลำไส้ใหญ่ขับของเสียออกมาเพื่อกระเพาะจะได้ย่อยอาหารเอาไปเลี้ยงร่างกายได้เต็มที่  แต่ถ้ากินกาแฟแก้วเดียวร่างกายจะเอาพลังงานจากไหนไปใช้จะกลายเป็นคนขาดสารอาหาร  นอนไม่หลับ  เพราะไม่มีเลือดที่จะหล่อเลี้ยงร่างกาย  และสมองผลสุดท้ายความจำก็ค่อย ๆ เสื่อมลง

            คนไข้ชายคนหนึ่งมีอาการปวดหลัง  ตึงต้นคอสมองมึนงงบ่อย ๆ ได้อ่านหนังสือ “มหัศจรรย์ธรรมชาติบำบัด”  ของหมอแดง  จึงไปพบหมอพิจารณาแล้วเห็นว่า  พฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่ผิด ๆ คือดื่มน้ำก่อนอาหารทุกมื้อ 1 แก้ว หลังอาหาร 3 แก้วระหว่างอาหาร  ทานอีก 1 แก้ว ส่วนมากเป็นน้ำเย็น หมอแดง  แนะนำให้นวดเท้า  งดน้ำเย็น  หลังจาก 2 สัปดาห์ผ่านไป  อาการดีขึ้นมาก

            ชาวเนเธอร์แลนด์  อายุ 43 ปี มีอาการเจ็บเข่า ข้อมือ ข้อเท้า รักษาโดยเคมี  อยู่ประเทศไทย 16 ปี ไปรักษากับหมอแดง  โดยการนวดแผนโบราณและกินสมุนไพรไทย  และปรับการดื่มน้ำเสียใหม่  คือ  งดน้ำเย็น  ลดการดื่มเบียร์  ปฏิบัติตามคำแนะนำของหมอแดง  โดยเฉพาะนวดเท้าและนวดตัวประมาณ 8 ครั้ง  ภายใน 3 อาทิตย์  อาการเจ็บเข่าซ้ายดีขึ้น

 

                                                หวังว่าผู้อ่านคงจะยกมือขึ้นเป็นทิวแถวเพราะไม่ป่วยไงล่ะ  หาอ่านหนังสือเล่มนี้ได้ที่ห้อง

                                                 สมุดชั้น   8 ค่ะ

   
สารบัญ