เมนู
ค้นหา

BAAC LIBRARY

หอสมุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หน้าแรก » สรุปหนังสือ » รายละเอียด

คน : ผู้ขับเคลื่อนองค์กร

   
ผู้เรียบเรียง : กองบรรณาธิการ สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ 
สำนักพิมพ์ : บริษัท พริ้น ซิตี้ จำกัด
จำนวนหน้า : 176 หน้า
ราคา : 180 บาท
ผู้สรุป : พูนสุข มนัสวิวัฒน์  
   
   
บทสรุป :

 

          หนังสือเล่มนี้กองบรรณาธิการได้รวบรวมเรื่องของ 9  คน ที่สร้างความสำเร็จให้แก่องค์กร  ซึ่งเป็น

ดาวเด่นและมีส่วนผลักดันในการสร้างความผูกพันของพนักงาน  รวมถึงเป็นต้นแบบในการทำงานอย่างทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจ  อ่านแล้วพบคำตอบที่ชัดเจนจนเป็นแนวทางการสร้างทรัพยากรบุคคลที่จับต้องได้ ดังนี้

1.      ผู้รังสรรค์ธุรกิจความงาม

คุณกาญจนา  สายสิริพร   มีคุณสมบัติความเป็นมืออาชีพ ยืนอยู่แถวหน้าในธุรกิจความงาม  เธอผ่าน

การสั่งสม  เรียนรู้  ตั้งแต่เริ่มชีวิตการทำงาน  ชีวิตวัยเยาว์ มีความอดทน  ไม่ย้อท้อต่ออุปสรรค  ช่วยพ่อแม่ค้าขาย  ต่อมาไปสมัครขายเครื่องสำอางค์  เพียงแค่ 3 ปี เธอได้รับความไว้วางใจให้เป็นหัวหน้างานขาย  ดูแลทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด  ลูกค้าประทับใจ สินค้าครองตลาดได้อย่างรวดเร็ว  จนได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการ  และกรรมการผู้จัดการหญิงคนแรกของเครือสหพัฒนพิบูล จำกัด เธอได้มีโอกาสไปดูงาน ณ ต่างประเทศ ทั้งญี่ปุ่น  อังกฤษ  และอเมริกา  งานแรกที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพ คืด การจัดงานแฟชั่นโชว์นายแบบนางแบบแต่งหน้า ทำได้ไม่แพ้ต่างชาติ  และได้ก่อตั้งสถาบันสอนการแต่งหน้าด้วยความสามารถฝีมือเยี่ยม  ทำให้สินค้าครองตลาดธุรกิจบันเทิงทั้งรายการโทรทัศน์  เวทีประกวดนางงาม 

และการแสดงตามเวทีระดับชาติ  เธอจึงมิใช่เพียงทรัพยากรที่มีค่าของเครือสหพัฒนฯ เท่านั้น  แต่ยังเป็นแบบอย่างที่ดีงาม  ควรค่าแก่การเรียนรู้

2.      แม่ทัพผู้สร้างพลังแห่งการตัดเย็บ

คุณชญานันต์  กลางประพันธ์  ตัดสินใจเปลี่ยนแนวทางจากศิลปะมาเป็นสายตัดเย็บของบริษัทญี่ปุ่น 

ความเป็นคนมีคุณภาพ  เจ้านายจึงส่งเสริมให้เรียนและฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่น  จากนั้นคุณชญานันต์  สอนลูกน้อง

ในสายการผลิตอย่างครบถ้วน  ต่อมาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ  แต่ช่วงเศรษฐกิจ ปี พ.ศ. 2540 ญี่ปุ่น

แย่มาก  จึงขายหุ้นให้ผู้บริหารคนไทย  จากความไว้วางใจจึงให้คุณชญานันต์ ควบ 2 ตำแหน่ง  มีผลให้คุณชญานันต์  เป็นที่ปรึกษาแนะนำและสอนหลักคิดให้แก่พนักงาน  เธอได้รับการขานนามว่าเป็นแม่ทัพในการนำองค์กรฝ่าฟันอุปสรรค  จนสำเร็จได้อย่างสง่างาม

3.      เบ้าหลอมแห่งความผูกพัน

คุณภาคินี  เสนีวงศ์ ณ อยุธยา  ใช้เวลาเรียนอยูที่อเมริกาตั้งแต่ชั้นมัธยมต้น จนจบอนุปริญญา 

กลับเมืองไทยเริ่มต้นเป็นเลขานุการของผู้จัดการชาวเกาหลี  ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก  ต่อมาบริษัทได้รับผลกระทบ ในปี พ.ศ. 2546  จึงทำงานบริษัทแฟชั่น  ได้ไปอบรมเรียนรู้ที่ฮ่องกง  สิงคโปร์  เยอรมัน  และอเมริกา เธอเล็งเห็นว่าการศึกษาสำคัญมาก  จึงเรียนช่วงเสาร์ – อาทิตย์  จนจบปริญญาตรี  และคว้าปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยมหิดลอีกด้วย  เบ้าหลอมแห่งความผูกพันที่ส่งต่อจากเธอไปยังทุกชีวิตในบริษัท  ทำให้เธอประสบความสำเร็จในที่สุด

 

4.      บนเส้นทางผู้ควบคุมโชคชะตา

คุณเวชประสิทธิ์ ตุ้มมงคล  ในวัยเด็กเรียนเก่ง  ฉลาดเฉลียว  และใฝ่เรียนรู้อยู่เสมอ  ได้รับโอกาสจาก

อาจารย์ให้ออกไปทำงานนอกสถาบันฯ  นำทฤษฎีที่เรียนเข้าสู่การปฏิบัติในชีวิตจริงไปพร้อมกัน  เมื่อจบการศึกษาตัดสินใจเข้าทำงานบริษัทโตชิบา  ได้รับเลือกให้ไปดูงานและศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่น  คุณเวชประสิทธิ์ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการโทรทัศน์  ในปี พ.ศ. 2540 เศรษฐกิจตกต่ำ ทีวีขายไม่ดี  จึงปรับลดพนักงาน  ในที่สุดมีนโยบายผลิตเพื่อส่งจำหน่ายต่างประเทศ  โดยเริ่มจากไมโครเวฟ กระทะไฟฟ้า  กระติกน้ำร้อน  หม้อหุงข้าว  และผลิตภัณฑ์อื่นๆ มาจนถึงปัจจุบัน  การใช้ชีวิตทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขกันเป็นเวลานาน  ทำให้เกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่มีความเป็นครอบครัวเดียวกัน  บทสรุปแห่งความสำเร็จของผู้บริหารอย่างคุณเวชประสิทธิ์  ก็คือ 

ความกล้าหาญที่จะควบคุมโชคชะตา พร้อมเผชิญหน้ากับความจริงนั่นเอง

5.      ทุกๆ ย่างก้าว คือ โอกาส

คุณสลิลทิพย์  ภู่ประดิษฐ์  ขยันตั้งแต่เด็ก ในช่วงที่อยู่ต่างจังหวัดได้นำผลไม้มากวน  แช่อิ่มเอง 

แล้วเอาไปขายมาจุนเจือครอบครัว  นอกจากนั้นยังรับจ้างทำความสะอาด  และเลี้ยงเด็ก  จึงมีรายได้ประจำ 

พอเรียนจบมัธยมศึกษาได้ช่วยงานพี่เขยลงทุนทำธุรกิจรับจ้างผลิตเสื้อผ้าและกระเป๋า  หลังจากจบ ปวช.

เธอเข้าดูแลโรงงานและพัฒนากระบวนการผลิต  พยายามหาช่องทางสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้า  เนื่องจากคู่แข่งมีน้อย  จึงตัดสินใจคว้าโอกาสเรียนรู้การผลิตสินค้าประเภทเป้อุ้มเด็กส่งออก  ด้วยความกล้าคิด กล้าทำ จนได้รับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายโรงงาน  เธอก็ยังคงเรียนรู้จนเป็นครูสอนในโรงงาน  และสร้างทีมงานจนประสบความสำเร็จ

6.      จิตวิญญาณของผู้ให้

คุณสุธาธาร  ขัดทอง  เป็นลูกมือของแม่ผู้มีอาชีพทำขนมจีนน้ำเงี้ยว  เรียนไปด้วยจนจบ ปวช. 

ชีวิตการทำงานไม่ได้ราบรื่นนัก  เธอเปลี่ยนงานอยู่บ่อยๆ  แต่ด้วยความที่เป็นชอบเรียนรู้  จึงเลือกเส้นทางเดินเป็นครูดอยใช้ชีวิตอยู่กับเด็กๆ และเพื่อเป็นใบเบิกทาง  เธอจึงเรียนคณะศิลปศาสตร์  มหาวิทยาลัยราชภัฏ  เมื่อจบจึงทำงานบริษัทส่งออก  หลังจากนั้นชะตาชีวิตดูตลก  เขาหันเหไปเป็นเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการปลูกกาแฟและต้องสื่อสารกับชาวไทยภูเขาที่พูดกันคนละภาษา  ในที่สุดก็สร้างความเข้าใจต่อกันกลายเป็นช่วยเหลือพัฒนาพี่น้อง

ชาวไทยภูเขาที่ด้อยโอกาส  และทำงานอย่างสบายใจ

7.      ก้าวที่ล้านแห่งการเรียนรู้ 

คุณสุวรรณี ลี่ มีความฝันจะเป็นแอร์โฮสเตส  เพราะคิดแต่เรื่องเที่ยว  แต่ส่วนสูงไม่พอ  ความฝัน

จึงสลาย  ในวัยเด็กช่วยเหลือตนเองโดยทำงานนับกระดาษในโรงงานผลิตกระดาษและสมุดพิมพ์  พอเรียนจบปริญญาตรีก็ทำงานที่บริษัทเครื่องเขียน  เธอมุ่งมั่นเรียนภาษาอังกฤษจนได้รับตำแหน่งเลขานุการ  ต่อมาได้รับความไว้วางใจเป็นผู้อำนวยการฝ่ายจัดซื้อ  พบครบวาระ 2 ปี ก็เป็นผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด  ได้เป็นตัวแทนบริษัทไปร่วมประชุมระดับโลก  กลายเป็นผู้บริหารมืออาชีพ ซึมซับแนวคิดวิธีทำงานที่ดีจากผู้บังคับบัญชาจนประสบความสำเร็จ

 

8.      ตำนานแห่งยุทธจักร

คุณสำเริง  มนูญผล  เป็นคนในครอบครัวที่แพแตกตั้งแต่เด็ก เพราะคุณพ่อทำธุรกิจโรงงานยาสีฟัน

ย่านในเมือง  มีปัญหาจากสงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่น  ทำให้ต้องปิดกิจการ  ด้วยความที่เป็นคนขยันขันแข็ง 

นายห้างจึงไว้ใจแล้วเลื่อนตำแหน่งจากพนักงานส่งเอกสารเป็นพนักงานเก็บเงิน  รับผิดชอบลูกค้าเป็นร้อยราย  ต่อมาได้รับตำแหน่งเป็นผู้บริหาร  ทุกคนยกย่องให้เกียรติ  ในที่สุดคุณสำเริงเป็นแบบอย่างของทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่าของสังคม  สร้างฐานะเป็นเจ้าของอาคารมนูญผล  บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่และเป็นเจ้าของโรงละคร  โดยยังคงความอ่อนน้อมถ่อมตนตลอดมา

9.      พลังแห่งความมุ่งมั่น

คุณอำพร ดอนไพรธรรม  ในวัยเด็กหลังจากจบชั้น ป.6 ยอมหยุดเรียนเพื่อเสียสละให้น้องเรียน 

เธอหันมาทำนาช่วยพ่อแม่  ซึ่งต้องรับผิดชอบถึง 9 ชีวิต  ฐานะค่อนข้างยากจน  จึงอดทน 2 ปี  หลังจากนั้นเดินทางจากจังหวัดชัยนาทเข้ากรุงเทพฯ  ได้ทำงานเป็นพนักงานขายบริษัทซุปเปอร์ทอยส์  ทำงานได้ 2 ปี ก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าพนักงานขาย  เธอพยายามขวนขวายและเรียนรู้ด้วยตนเอง  ด้วยความมุ่งมั่นบวกกับ

ความพยายามส่งผลให้คุณอำพรได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้จัดการขายดูแลสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่น  มีโอกาส

ไปต่างประเทศเพื่อดูของเล่นเด็ก  คัดเลือกตามประสบการณ์  แล้วประชุมกับฝ่ายตลาดเพื่อพิจารณาสินค้าให้เหมาะสมกับประเทศไทย  นับว่าประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม

          ตัวอย่างบุคคลทั้ง 9 ที่ถ่ายทอดเรื่องราวในหนังสือเล่มนี้  ถือเป็นกุญแจดอกสำคัญขององค์กร  ที่ควรได้รับการยกย่องอย่างยิ่ง  หาอ่านรายละเอียดได้ที่ห้องสมุด  ชั้น 8 ค่ะ

   
สารบัญ