คุณฐิตินาถ หรือ ครูอ้อย เป็นคนหาดใหญ่ เรียนหนังสือเก่งมาตั้งแต่เด็กๆ พออายุ 20 ปี
จบปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจและสาขาเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยลอนดอน กลับมาเมืองไทย ทำงานเป็นนักเศรษฐศาสตร์พออายุ 25 ปี เริ่มทำธุรกิจร้านเพชร มีสามีทำงานธุรกิจบ้านจัดสรรและโรงแรมทางภาคใต้ แต่งงานได้เพียง 1 ปี สามีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ทรัพย์สินที่มีอยู่ยังโอนให้ครูอ้อยยังไม่เรียบร้อย จัดงานศพได้เพียง 2 วัน เพราะมีเจ้าหนี้รุมมาทวงเยอะมากรวม 100 ล้านบาท จึงต้องใช้หนี้แทนสามี โชคดีมีผู้ใหญ่ใจดี คือ คุณเนตร จันทรัศมี เจ้าของห้างสรรพสินค้า ไดอาน่า หาดใหญ่และคุณมานิต อุดมคุณธรรม เจ้าของห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ชี้แนวทางให้ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ เดินจงกรม เจริญสติ เธอปฏิบัติได้ดี ก็วางแผนไปอบรมด้านธุรกิจเรื่องการบริหารโครงสร้างหนี้ วิธีการต่อรอง และการบริหารบัญชี จนใช้หนี้ได้หมด 100 ล้านบาท ไม่เป็นหนี้ใครแม้แต่บาทเดียวในเวลา
2 ปี

          หลังจากเป็นอิสระจากการเป็นหนี้ เธอตั้งใจเขียนหนังสือ เข็มทิศชีวิต เล่ม 1 เมื่อปี 2547 เพื่อมุ่งหวังให้ผู้อ่านได้หยุดคิด ทบทวนสิ่งที่ทำอยู่ ค้นพบมุมมองใหม่ๆ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ที่ประสบปัญหาได้พบกับชีวิตที่มีคุณค่า ปรากฏว่าขายติดอันดับดีที่สุดในประเทศไทย

          ต่อมาปี 2550 เขียน เข็มทิศชีวิตเล่ม 2 ตอนกฎแห่งเข็มทิศ ให้คำนึงถึงเรื่องของต้นทุนและต้นทางที่แต่ละคนเริ่มต้นมาแตกต่างกัน เช่น เรื่องบุญเก่า โชคชะตา และความบังเอิญ ควรกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน ปฏิบัติตามเข็มทิศที่ตั้งใจไว้

          ปี 2552 เขียน เข็มทิศชีวิตเล่มที่ 3 ตอนกฎแห่งความสุข ได้ถ่ายทอดคำสอน ปรัชญา ให้กำจัดความทุกข์ ไม่ยึดติดความคิดเดิมๆ เพราะจะมีเรื่องใหม่ๆ เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ให้รักตัวเอง ทำความดี ละความชั่ว มีความเข้าใจและให้อภัยต่อกัน

          ปี 2554 เขียนเข็มทิศจิตใต้สำนึก เล่มที่ 4 เธอใช้วิชาที่ไปเรียนกับฝรั่ง สาขาวิทยาศาสตร์ทางจิตใจมาถ่ายทอดว่า ถ้าคนเราได้ผ่อนคลายคลื่นสมอง มีความสงบเราก็สามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงความเชื่อที่แต่ละคนมีอย่างกำจัดได้ เช่น ตอนเด็กๆ อาจถูกพ่อว่า ลูกไม่เก่งสู้คนอื่นไม่ได้ เด็กคนนั้นก็จะโตมาด้วยกรอบความเชื่อว่าตัวเองไม่เก่ง เด็กบางคนจำความล้มเหลวของพ่อ ก็เลยจดจำว่าตัวเองคงล้มเหลวและไม่มีทางทำอะไรสำเร็จตามไปด้วย ครูอ้อย สอนให้แต่ละคนรู้ตัวเองว่ามีสิทธิ์อันชอบธรรม 2 ด้าน คือ มีอิสระทั้งการเงินและจิตใจ ด้วยการตั้งเป้าหมายว่า ตื่นขึ้นมาจะทำบางอย่างให้สำเร็จ แม้เป็นงานเล็กนิดเดียว มันจะทำให้เราทำความสำเร็จที่ใหญ่กว่านั้นขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน โดยระบบประสาทส่วนนั้นจะแข็งแรง ร่องสมองก็จะบันทึกเรื่องสำเร็จไว้ เป็นการเพิ่มศักยภาพของตัวเองจากจิตใต้สำนึก

          ปี 2555 เขียน เข็มทิศชีวิต เล่มที่ 5 ตอนมั่งคั่ง เหมือนเป็นคัมภีร์ค้นหาชีวิต เน้นให้เราเกิดสติ ปัญญาและความคิดในหัวข้อต่างๆ ในหนังสือเล่มนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน สรุปได้ดังนี้

                - เวลาชีวิตเจอภาวะที่ไม่น่าพึงพอใจก็ให้เข้าใจว่า เราทำดีแล้ว แต่อาจมีสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี เพราะทุกอย่างย่อมมีเปลี่ยนแปลง ก็ต้องยอมรับ เราก็จะมีความสุข

- ความมั่งคั่ง ถ้าตั้งใจสร้างก็จะสำเร็จแต่ก็อยู่ที่ความรู้สึกของแต่ละคน ซึ่งวัดกันที่ความพอใจ และมุมมองที่แตกต่างกัน

          - การให้เป็นเรื่องของจิตใจที่คิดถึงความสุขระหว่างให้และหลังให้ ว่าจะก่อประโยชน์ให้เพียงใด

          - กฎของโลกที่สร้างให้มีความสุข ความทุกข์ ความสงบ ความพึงพอใจในชีวิต ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้  ดังโอวาทของพระพุทธเจ้าที่ว่า “สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา จงทำประโยชน์ตนประโยชน์ท่านด้วยความไม่ประมาท”

          - ควรปล่อยจิตให้เป็นอิสระในการนึกคิด ให้ลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่ดีกับชีวิต มองตัวเองว่าถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นไม่ว่าจะทางดีหรือร้ายก็จะยอมรับความต่างให้ได้

          - สร้างความมั่นใจให้กับตนเอง มีจุดยืนที่ชัดเจนในความถูกต้อง กล้าแสดงความคิดคัดค้านบ้าง

          - อย่าเป็นคนขี้ขลาด ขี้เกียจ และยอมแพ้ จงพลิกโอกาสที่ไม่ดีออกไป แล้วมองหาความสำเร็จที่รออยู่ข้างหน้า รีบไขว่คว้าก่อนที่จะสายเกินไป

          - การพลาดครั้งแรก คือ การเรียนรู้ แต่พลาดซ้ำในเรื่องเดิม เหตุการณ์เดิม ต้องพิจารณาตัวเองให้มีความรอบคอบมากขึ้น ตัดสินใจในทางที่ถูกต้อง

          - การไม่ยอมรับตัวเอง ไม่ให้อภัยตัวเองเป็นการลงโทษตัวเอง  ย่อมก่อให้เกิดทุกข์

          - สร้างความสำเร็จไม่ยาก หากตั้งใจจริง โดยออกจากกรอบของความล้มเหลว แล้วหัวเราะให้เต็มเสียง

          - อยากรวย ต้องบริหารเงินให้ได้ผล จนสร้างรายได้เป็นดอกเบี้ยและปันผล โดยต้องใช้สมองไตร่ตรองให้ดี

          - พระพุทธเจ้าสอนให้คนรู้จักหาเงิน แบ่งเงินให้ดีเก็บเงินไว้ลงทุน และเก็บไว้ยามจำเป็น โดยใช้หลักอิทธิบาท 4 คือ รักงาน รู้งาน ใส่ใจในงาน และมีปรัชญาในการทำงาน

          - ออกแบบชีวิตให้มีความสุขอย่างยั่งยืน มีการช่วยเหลือคนที่ด้อยกว่า และใช้เงินแบบพอเพียง

          - คนเป็นหนี้ ย่อมมีความทุกข์ จึงขอให้รู้ตัวเอง ทบทวนว่าควรจะบริหารอย่างไร เพื่อมีเงินสดไว้ใช้จ่าย

          - เมื่อใดที่ใช้เงินเกินตัว แสดงว่าใช้สมองน้อย ผลการวิจัยพบว่า สมองเป็นแหล่งความคิด แต่จิตใจเป็นเรื่องของความรู้สึก คนที่ใช้เงินโดยไม่ใช้ความคิดย่อมจะทำให้ลำบากใจในภายหลัง

          - มีพรสวรรค์อะไร มีทักษะอย่างไร ให้นำออกมาใช้เรียนรู้และพัฒนาในความถนัดเฉพาะทางที่ไม่เหมือนใครใช้ความชำนาญพิเศษเพื่อทำงานเลี้ยงชีพ

          - หมั่นฝึกฝนคิดแบบวิเคราะห์และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ และเชื่อมโยงหาทางออกจากความทุกข์เพื่อพบความสุข

          - เสาชีวิตที่ดี คือ มีศรัทธา ปัญญา สติ สมาธิ และความเพียรเป็นรากฐาน มองหาหนทางที่จะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น

          ขอชื่นชมครูอ้อยที่มีการพัฒนาการเขียนได้อย่างยอดเยี่ยม หนังสือเล่มนี้มียอดขายเกินหลักล้านเล่ม อ่านเข้าใจง่าย มีDVD (ดีวีดี) แถมฟรีให้ด้วยฟังแล้วมีเนื้อหาสาระดีมาก โดยเฉพาะเสียงของผู้เข้ารับการอบรมที่แต่ละคนมองเห็นทางแก้ปัญหา ใช้ปัญญา ใช้สมองขจัดทุกข์ นอกจากครูอ้วนเขียนหนังสือแล้ว ยังทำงานการกุศลโดยบรรยาย หลักสูตรเข็มทิศความสุข เข็มทิศพลังใจ เข็มทิศภาวนา เข็มทิศจิตใต้สำนึก และเข็มทิศมั่งคั่ง ให้กับหน่วยงานราชการ โรงพยาบาล สถาบันการศึกษาต่างๆ และประชาชนทั่วไปฟรี

          ขอเป็นกำลังให้เธอผลิตผลงานดีๆ ต่อไป และเห็นด้วยกับสมญานามที่ว่า เธอคือ นักเศรษฐศาสตร์ นักคิด และผู้เชี่ยวชาญด้านจิตใจใต้สำนึก